ชิลริมชายหาด ที่ “ห้องอาหารริมทะเล”

ห้องอาหารแห่งนี้บริการทั้งอาหารไทย และอาหารแบบ International Food รวมทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ เสิร์ฟตั้งแต่อาหารเช้า กลางวัน และเย็น แบบ ALL DAY DINING ทุกวันจะมีเมนูพิเศษ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาพักและลูกค้าที่แวะเวียนมาทานอาหารค่ำเช่นมีธีมบาร์บีคิวไนท์ ไทยไนท์ สตีทฟู้ด ฯลฯ

หม่อมหลวงลักษสุภา กฤดากร เจ้าของโรงแรม กล่าวว่าที่นี่ยังมี ข้าวแช่ สูตร หม่อมหลวงแส กฤดากร ที่คุณแม่ของเธอ อาภา กฤดากร ณ อยุธยา (ภรรยาของหม่อมราชวงศ์สุทธิสวาสดิ์ กฤดากร) ลงมือทำเองอีกด้วย ด้าน “คุณอาภา”เล่าว่า หม่อมหลวงแส ชอบทำอาหารมากจนกระทั่งได้เขียนตำราเก็บไว้

หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว 

“ท่านชอบทำอาหารมาตั้งแต่สมัยสาวๆ แม้แต่ในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน ยังทำหนังสือตำราอาหารของท่านแจกในงาน ท่านทำอาหารอร่อยมากมีรสมือที่ไม่เหมือนใคร ห้องอาหารของเราที่นี่จะมีเมนูหลากหลายเพราะมีแขกฝรั่งมาพัก เราเองก็ไปอยู่มาหลายเมือง (ติดตามสามีซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยไปประจำประเทศฮังการี และประเทศแถบละตินอเมริกา) เราจะเสิร์ฟข้าวแช่เฉพาะฤดูของเขาเดือนเมษา กับเดือนพฤษภาคมเขาเรียกว่าหน้าร้อน ตำนานข้าวแช่ก็มาจากเพชรบุรีนี่แหละ แต่ท่านมาที่นี่ก็มาช่วยทำให้ดีขึ้น  มีการแกะสลักมะม่วง แกะสลักผักผลไม้ แต่ฝรั่งก็จะทานยากหน่อยเพราะลูกกะปิไม่ใช่เล่นๆ จะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วงหน้าร้อนคนไทยจะมาทานข้าวแช่ที่นี่”  อาภา กล่าว

เครื่องดื่มเย็นๆมีให้สั่งหลากหลายเมนู

ห้องอาหารแห่งนี้ นอกจากเสิร์ฟอาหารทั้งวันแล้ว ยังมีกิจกรรมเช่น Cooking Class เช่นที่ผ่านมาพนักงานชาวเนปาล มาสาธิตการทำอาหารแบบเนปาล (ค่ำคืนยังโชว์ระบำแบบเนปาลให้ชมอีกด้วย) มีกิจกรรมสอนพับดอกบัว การจัดดอกไม้ ไปจนถึงสอนแกะสลักผัก-ผลไม้ “หม่อมหลวงลักษสุภา” อธิบายว่า ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมให้กับคนต่างชาติได้เห็นความละเมียดละไมในศิลปะวัฒนธรรมของไทย

ซีฟู้สดจากทะเล เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบ 

ภายในบริเวณโรงแรมมีความร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์รวมทั้งต้นไม้เก่าแก่อายุนับร้อยปี รวมทั้งปลูกพืชผักสวนครัว ให้ผู้เรียนไปเก็บพริก ใบกะเพรา มะเขือ ฯลฯ ด้วยตัวเองสร้างประสบการณ์ พร้อมทั้งสนุกสนานเพลิดเพลินหากแวะมารับประทานอาหารที่ “ริมทะเล”  เมนูที่ไม่ควรพลาดก็คือ “ส้มตำหมูกรอบ” และมี “พิซซ่าลาบไก่” รวมทั้ง “แกงเขียวหวาน” บางวันก็จะมี “ข้าวผัดสเปน” สูตรต้นตำรับ

สลัดนิซัวส์ทูน่า 

สำหรับวันนี้ได้ลิ้มรสปิ้งย่าง “ซีฟู้ด” กับน้ำจิ้มรสแซบ รสชาติของอาหารทะเลสดใหม่ พร้อมทั้ง สลัดนิซัวส์ทูน่า (250บาท)เพิ่มพลังผักให้สุขภาพแข็งแรง ผัดไทยวุ้นเส้น อาหารกลางวันจานเดียวสไตล์ไทย รวมทั้ง สปาเก็ตตีซอสเนื้อ (180 บาท) และ พิซซ่าฮาวายเอี้ยน (280 บาท) หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว (300บาท)

สปาเก็ตตีซอสเนื้อ 

ยังมีเมนูแนะนำอีกมากมาย อาทิเช่น สลัดซีซาร์ (Caesar Salad) เบอร์เกอร์เนื้อ (Beef Burger) สเต็กแซลมอน (Grilled Salmon Steak) และ Tenderloin Steak (Australian) อาหารไทยแนะนำก็คือ ยำวุ้นเส้นทะเล (180 บาท) Thai Mixed Platter และ Mixed Satay Platter (200 บาท)  พะแนงเนื้อ (180 บาท) พะแนงไก่/หมู (150 บาท) อาหารจานเดียวนอกจากข้าวผัดกะเพราแล้ว ยังมี ผัดไทยกุ้งสด (190 บาท) ข้าวผัดเนื้อย่าง และส้มตำหมูกรอบ (150 บาท) อิ่มแล้วตบท้ายด้วยไอศกรีม และขนมหวาน อย่างเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง แล้วค่อยนั่งรับลมชมวิวทะเล จิบน้ำชา กาแฟอย่างมีความสุข บนทำเลแห่งประวัติศาสตร์หัวหิน

พิซซ่าฮาวายเอี้ยน 

เครื่องดื่มแก้วนี้มีรสเปรี้ยวด้วยเสาวรส

ห้องอาหารริมทะเล อยู่ในโรงแรมลักษสุภา รีสอร์ท (Laxsasubha Huahin Resort) อยู่ในซอยหัวหิน 65 ถัดจาก Chocolate Factory เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 07.00 น. (บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า) ราคา 500 บาท  จากนั้นเป็นอาหารตามสั่งมื้อกลางวันไปจนถึงมื้อค่ำ โทร. 0 3251 4525 www.laxsasubhhuahin.com เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/baanlak/