รวมเช็คลิสต์เมื่อคิดซื้อ 'รถมือสอง'
รวมสิ่งที่ต้องรู้เมื่อคิดซื้อ “รถยนต์มือสอง” เพื่อให้ได้รถที่คุ้มค่า ไร้ปัญหาในราคาสมเหตุสมผล
“ซื้อรถยนต์ใหม่” อาจเคยเป็นความต้องการของใครหลายคนในอดีต แต่ในปัจจุบันที่สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลถึงสภาพเศรษฐกิจจนทำให้กำลังซื้อลดน้อยลง การ “ซื้อรถมือสอง” จึงกำลังได้รับความนิยมอีกครั้ง เพราะเหตุผลที่ว่าราคารถยนต์มือสองราคาถูกกว่ารถยนต์มือหนึ่งมาก
แต่ถึงเช่นนั้น การซื้อรถมือสองก็ต้องมีเรื่องเตรียมตัว เพราะถ้าได้รถที่ไม่ดี หรือเรียกว่ารถย้อมแมว นั่นก็ทำให้เราต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากเข้าไปอีก ดังนั้นเราจึงขอรวบรวมลิสต์รายการที่คนจะซื้อรถมือสองต้องทราบ ให้เป็นข้อมูลประกอบทางเลือกการ “ซื้อรถมือสอง” ให้คุ้มค่าที่สุด
เอกสารประจำรถ
สิ่งแรกๆ ที่ต้องพิจารณาก่อนเลยคือเอกสารประจำรถ ซึ่งในที่นี่หมายถึงเล่มทะเบียน
เล่มทะเบียนนี้จะทำให้ผู้ซื้อทราบถึงที่มาที่ไปของรถ รู้ประเภทของพลังงานที่เครื่องยนต์ใช้ (น้ำมัน, ติดแก๊ส) ประวัติการเปลี่ยนตัวถัง รู้ว่าเคยซ่อมบำรุง หรือผ่านประสบการณ์การใช้งานใด ๆ มาแล้วบ้าง อย่างไรก็ตามต้องให้มั่นใจว่าเลขตัวถังรถยนต์ที่จะซื้อต้องตรงกับตัวเล่ม เช่นเดียวกับชื่อผู้ครอบครองรถที่คุณต้องแน่ใจว่าเป็นใคร และเกี่ยวโยงกับผู้ขายอย่างไร ถ้ามั่นใจในข้อนี้แล้วถึงสามารถไปที่สเต็ปต่อไปได้
เครื่องยนต์ สภาพรถ
อันนี้คือสิ่งสำคัญมากๆ เพราะการ “ซื้อรถมือสอง” หัวใจคือการซื้อรถที่มีสภาพดีมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายลงเมื่อเทียบกับรถมือหนึ่ง แต่ถ้าต้อง “ซื้อมาซ่อม” อันนี้คงไม่ดีแน่ เหตุนี้ในการซื้อรถมือสองแต่ละครั้งต้องตรวจสภาพภายในและภายนอกรถดี โดยอาจจะเริ่มศึกษาข้อมูลของรถรุ่นนั้นมาก่อน ดูข้อดี-ข้อเสีย และส่วนเจ้าปัญหาที่มักเกิดปัญหาจากผู้ใช้รายอื่น เช่น รถบางรุ่นมักมีปัญหาที่ช่วงล่างเมื่อวิ่งมาแล้วในระยะทางเกิน 80,000 กิโลเมตร หรือบางรุ่นอาจจะมีปัญหาที่การใช้เกียร์ เป็นต้น
จากนั้นเมื่อเห็นสภาพรถจริงก็ตรวจสอบความผิดปกติตามที่หาข้อมูลไว้ โดยเฉพาะการตรวจสอบโครงสร้างของรถ ช่วงล่าง ที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด โดยในกรณีนี้ขอแนะนำว่า เราอาจพาช่างซ่อมรถที่เราสนิทและใช้บริการเป็นประจำ ไปตรวจสอบสภาพรถด้วยก็ได้
นอกจากนี้เรายังตรวจสอบร่องรอยใด ๆ ที่เกี่ยวกับการซ่อมแซม ทำสี (การทำสีจะช่วยพิจารณาได้ว่ารถคันนี้เคยถูชนมาไหม) อีกทั้งการตรวจสอบภายในเองก็ควรที่จะตรวจเช็คทั้ง พวงมาลัย แผงคอนโซล ขอบยางประตูและกระจก รวมทั้งคราบต่าง ๆ บนพรมห้องโดยสาร หรือคราบสนิมว่ามีความผิดปกติใด ๆ หรือไม่
ตรวจสอบเลขไมล์
สืบเนื่องจากข้างต้น เมื่อเราดูสภาพรถแล้ว ลำดับต่อมาคือต้องดูเลขไมล์ ซึ่งแน่นอนว่า ปีของรถ อายุของรถ จะสอดคล้องกับเลขไมล์ซึ่งเป็นระยะทางในการใช้งาน
จากการคำนวณแล้ว ระยะทางต่ออายุการใช้งาน 1 ปี นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 กิโลเมตร โดยเราสามารถนำอายุของรถไปคูณกับตัวเลขดังกล่าว โดยหากเลขไมล์มีความใกล้เคียงกับเลขที่คำนวณก็ถือว่ารถคันนั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ ถ้ามากเกินไปก็เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกใช้งานมาหนักกว่าปกติ แต่ถ้าเลขไมล์น้อยกว่าที่คำนวณไปกว่าครึ่ง อาจจะมองได้อีกว่าผู้ขายได้มีการปลอมเลขไมล์ (ต้องตรวจสอบให้ดี)
ทดลองขับ
พอทุกอย่างข้างต้นโอเคแล้ว แน่นอนว่าหากจะซื้อรถทั้งที เราก็ต้องลองขับจริงๆ โดยการลองขับนี้ อาจจะเป็นตัวชี้วัด และบ่งบอกได้เลยว่ารถยนต์มืองสองที่คุณกำลังจะตัดสินใจซื้อนั้น ควรซื้อหรือไม่ ทั้งนี้แน่นอนว่าความรู้สึกในการทดลองขับขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น แต่การทดลองขับจริงๆ ก็จะทำให้เราทราบได้ถึง สภาพของเครื่องยนต์ ,อัตราเร่ง, อุณหภูมิความร้อนของเครื่องยนต์, พวงมาลัย, ระบบช่วงล่าง และระบบเบรค ว่าทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ควรจะเป็นหรือไม่
พิจารณาราคาและค่าใช้จ่าย
พอสภาพรถและรายละเอียดอื่นๆ โอเคแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือเรื่องงบประมาณ วิธีการเปรียบเทียบที่ง่ายที่สุดคือการมองหารถยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน และที่มีอายุไล่เลี่ยเพื่อดูว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไร จากนั้นนำมาเปรียบเทียบกันอีกครั้งว่าคันไหนมีความคุ้มค่าที่สุด
เรื่องราคาถูก-แพง คือเรื่องความพอใจของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามในการ “ซื้อรถมือสอง” แต่ละครั้ง ให้คิดว่ายังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องบวกรวมกันไป เช่น ค่าใช้จ่ายวันโอน ค่าอากรในอัตราคิดเป็น ร้อยละ 0.5 ของราคารถยนต์ (ที่มักพูดกันว่าแสนละห้าร้อยนั่นเอง)
ตัวอย่าง คุณซื้อรถคันหนึ่ง ในราคา 500,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการโอนรถของคุณคือ ค่าธรรมเนียม 5 บาท + ค่าโอนรถ 100 บาท + ค่าอากรซื้อขายรถ 2,500 บาท รวมทั้งหมดเป็น 2,605 บาท
ยิ่งถ้าซื้อเงินกู้ โดยผ่านไฟแนนซ์ เมื่อรถรถปีมาก เก่ามาก อัตราดอกเบี้ยจะยิ่งสูงขึ้นเป็นขั้นบันได จึงต้องพิจารณาวางแผนการซื้อผ่านเงินดาวน์ และจำนวนเงินกู้ให้ดีอย่างถี่ถ้วน
คำแนะนำสำหรับการซื้อรถมือสองหลักๆ เลยนั่นคือ เรื่องเงินดาวน์ควรจ่ายไปมากที่สุดเท่าที่คุณจ่ายไหว เพื่อยอดกู้จากไฟแนนซ์จะได้น้อยตาม รวมถึงระยะเวลาการผ่อนชำระ เมื่อยอดกู้น้อย ระยะเวลาการผ่อนชำระไม่นานนัก แน่นอนว่าดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายเพิ่มไปก็จะเสียน้อยลง
ที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่อง “ทำประกันรถยนต์” ที่จำเป็นมากสำหรับการออกรถใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสองเมื่อคุณได้รถมือสองมาแล้ว ช่วงเวลานี้น่าจะเหมาะสมกับการมองหาประกันภัยที่เหมาะสมกับตัวเอง
สนใจทำประกันรถยนต์สำหรับรถมือสอง คลิกที่นี่