Arts and crafts of food เพราะความพิถีพิถัน คือ หัวใจสำคัญของความอร่อย
ความตั้งใจที่พิถีพิถันอันเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยมอบความสุข และรอยยิ้มให้กับทุกคน พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ พิถีพิถันในการนำเสนอให้ลูกค้าประทับใจ พิถีพิถันในการเติมแต่งอย่างมีศิลปะ
ปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลของวัตถุดิบเกรดพรีเมียม ที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่นำมาใช้ ไปจนถึงการปรุงแต่งรสชาติ โดยเน้นการชูรสชาติของวัตถุดิบเป็นหลัก
kabocha sushi จึงเลือกใช้วัตถุดิบสดจากฟาร์มธรรมชาติของญี่ปุ่น ทำให้ได้ปลาที่ส่งตรงแบบโดยไม่ผ่านคนกลาง และยังสามารถคัดเลือกสายพันธุ์ได้อย่างดี รวมไปถึงวัตถุดิบกลุ่มประมูลที่มีคุณภาพ โดยจะมีตัวแทนพันธมิตรฝั่งญี่ปุ่นประมูลและจัดส่งวัตถุดิบมายังที่ร้าน ภายใน 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จึงมั่นใจได้ว่าคุณภาพวัตถุดิบที่นำมาให้บริการ คือวัตถุดิบเกรดที่ดีที่สุดเหมือนกับที่ชาวญี่ปุ่นรับประทาน
เพราะความตั้งใจที่พิถีพิถันอันเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยมอบความสุข และรอยยิ้มให้กับทุกคน กว่า 10 ปีที่ kabocha sushi เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจากญี่ปุ่น มาให้บริการในราคาที่คุ้มค่าที่สุด แบบที่ลูกค้าไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้สัมผัสวัสดุดิบสดๆ เหมือนร้านดังที่ญี่ปุ่นพร้อมอร่อยกับวัตถุดิบสดประจำฤดูกาล Autumn–Winter ไม่ว่าจะเป็น
Kinmadai หรือ ปลากะพงแดงตาโต
ปลาชนิดนี้มีลักษณะพิเศษคือผิวปลาของปลาจะมีสีแดงสด และตาโตมาก เป็นปลากะพงแดงตาโตจากแถบเมือง คานากาวะ ปกติจะอาศัยอยู่ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 200 ถึง 800 เมตร จึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้ดวงตาของมันใหญ่กว่าปกติเพราะต้องใช้ในการรับแสงที่มีอยู่น้อยมาก ในที่ระดับความลึกหลายร้อยเมตร
ฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการทานปลา Kinmadai คือช่วงต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไปเพราะจะมีปริมาณมากและที่สำคัญรสชาติของเนื้อจะเข้มขึ้น และไขมันแน่น ซึ่งปลา Kinmadai นี้ ยังถูกจัดให้เป็นวัตถุดิบที่มีความหรูหรามากสำหรับคนญี่ปุ่น
Isaki (อิซากิ) เป็นปลาเนื้อขาว ที่หาได้จากแหล่งทะเล ชิซึโอกะ นางาซากิ ที่อยู่ริมฝั่งทิศใต้ของญี่ปุ่น เนื้อปลาจะออกอมชมพู มีรสหวาน หนังของปลามีความกรุบกรอบ
เมนูนี้เชฟเลือกเสิร์ฟให้เป็นซาชิมิ เพราะปลาชนิดนี้จะมีเนื้อเยอะ และสามารถทำได้ทั้งตัวทั้งแบบ ซูชิและซาชิมิ
Shima Aji (ชิมะอะจิ)
ปลาชิมะอะจิ เป็นปลาเนื้อขาวหนังเงิน ลักษณะที่ลำตัวปลาจะมีแถบสีเหลืองกลางลำตัว ปลาชิมะอะจิปกติจะอยู่เป็นฝูงและพบได้มากทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
ฤดูอร่อยจะอยู่ช่วงปลายใบไม้ผลิเป็นต้นไป จนไปถึงฤดูร้อน เนื้อปลาจะกรอบใส อร่อย แต่สำหรับช่วงต้นฤดูหนาวอย่างนี้ จะยิ่งอร่อยมากเป็นพิเศษ เพราะปลาจะสะสมไขมันใต้ผิวหนังเอาไว้ เมนูนี้อยากให้ทุกท่านได้สัมผัสความมันแน่นของปลา จึงจัดเสิร์ฟเป็นแบบซาชิมิ
Shirako (ชิราโกะ)
เมนูที่หาทานได้ยาก และเป็นเมนูอันดับ1 ที่เชฟชาวญี่ปุ่นแนะนำว่าต้องลองให้ได้ ยิ่งถ้าใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวนี้ แล้วได้ไปทานอาหารญี่ปุ่นตามร้านโอมากาเสะ เชฟจะแนะนำเมนูชิราโกะให้ลอง วัตถุดิบสุดพิเศษอย่างท่ออสุจิจากปลาทาระนี้สามารถทานได้ทั้งปรุงสุกย่างบนเตาถ่าน หรือทานเป็นซาซิมิแบบสดๆ เชฟอบุริที่ผิวด้านนอกนิดๆ เพื่อดึงกลิ่นที่หอมน่ารับประทาน สัมผัสของเมนูนี้คือจะรู้สึกนุ่มๆ ครีมมี่ เป็นวัตถุดิบที่ยิ่งท่านยิ่งเพลินโดยเชฟจะแนะนำให้ทานคู่กับสาเกจุนไม เป็นสาเกที่หอมนุ่มแบบฟูลบอดี้ ที่ช่วยให้การทานชิราโกะกลมกล่อม อร่อยแบบทวีคูณ
Miyagi Kaki (มิยางิ คากิ)
หอยนางรมยักษ์ญี่ปุ่น ฤดูกาลนี้นำเข้าจากแทบทะเลมิยากิ หอยนางรมสายพันธุ์นี้จะนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาวระหว่างปลายเดือนตุลาคม ถึงประมาณกุมภาพันธ์ โดยนำเข้ามาแบบสดๆ เป็นๆ มาจากแทบอ่าวที่เป็นทางเดินน้ำไหลผ่าน จึงทำให้น้ำทะเลใสสะอาด และหอยนางรมมีคุณภาพดีมีรสชาติแบบครีมมี่ เข้มข้น หอมกลิ่นน้ำทะเลอ่อนๆ เมนูนี้เชฟเสิร์ฟพร้อมซอสพอนซึ ให้ความครีมมี่ ผสมกับความหอมหวานของตัวซอสแบบชุ่มฉ่ำ
Ankimo (อังกิโมะ)
เมนูนี้พิเศษ สำหรับคนที่ชื่นชอบการทานโอมากาเสะ น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับเมนู อังกิโมะ หรือตับของปลาอังโกะ ตับปลาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฟัวกราส์แห่งท้องทะเล อีกหนึ่งวัตถุดิบแสนอร่อยของญี่ปุ่น ที่นำมาให้บริการในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกๆ ปี ตับปลาชนิดนี้จะมีความนุ่มมัน คล้ายๆ ฟัวกราส์แต่กลิ่นจะไม่ชัดเจนเท่า เชฟจะปรุงสุกเสิร์ฟพร้อมเยลลี่พอนซึ เข้ากับตัวอังกิโมะได้อย่างดี
Asari Yusu Soup (อะซาริยูซึซุป)
Asari หรือหอยลายญี่ปุ่น จริงๆ แล้วสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ หอยอาซาริจะหวานและเนื้อแน่นเป็นพิเศษ ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมทานกันมากที่สุด โดยเมนูนี้ที่ร้านของเราจะมีขายตลอดทั้งปี ทั้งแบบต้มซุปใสผสมยูซึ และแบบผัดสาเก กับเห็ดชิเมจิ
Kodai (ปลาโคได)
ปลาโคได หรือชื่อที่คุ้นเคยคือ เบบี้สเนปเปอร์ เป็นสายพันธุ์ของปลากะพงญี่ปุ่น สายพันธุ์เดียวกันกับปลามาไดที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง แต่โคไดจะเป็นช่วงอายุที่น้อยกว่ามาได หรือเรียกได้ว่าเป็นรุ่นลูกของปลามาได ปลาโคไดจะกินกุ้งเป็นอาหารจึงทำให้มีตัวสีแดงสด และจัดเป็นปลาที่หายากอีกชนิดหนึ่ง เนื้อปลาจะมีความหอม รสชาติคล้ายกับปลามาได แต่จะให้สัมผัสที่นุ่มและแน่นมากกว่า เชฟจัดเสิร์ฟแบบซูชิ และอีกหนึ่งความพิเศษของซูชินอกจากปลาที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นและข้าวที่ใช้สั่งนำเข้าจากญี่ปุ่น โดยคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวจากจังหวัดนีกาตะ พันธุ์โคชิฮิคาริ เป็นข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ไม่เหมือนพื้นที่อื่นในประเทศญี่ปุ่น เป็นข้าวที่มีรสชาติอร่อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวญี่ปุ่นพันธุ์อื่น และสายพันธุ์นี้ถูกยกให้เป็นข้าวสายพันธุ์อันดับ 1ของญี่ปุ่นอีกด้วย
Hobo (ปลาบิน)
ปลาโฮโบะ ถือเป็นปลาที่แปลกชนิดหนึ่ง เพราะมีเท้าที่เอาไว้คุ้ยหาอาหารตามพื้นทรายแบบที่ปลาชนิดอื่นๆ ไม่มี ส่วนของเนื้อจะมีสีขาวใส อมชมพู ให้สัมผัสที่กรอบแน่น เคี้ยวเพลินสุดๆ และอีกหนึ่งความพิเศษ คือ กลิ่นที่หอมของปลาโฮโบะ ที่หอมเป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัวแนะนำให้ลองดมกลิ่นก่อนทานสามารถ เพิ่มอรรถรส
Kawahaki (ปลาหน้าวัว)
เป็นตระกูลปลาเนื้อขาวที่หน้าตาอาจจะดูแปลกไม่ดึงดูด แต่เนื้อนั้นอร่อยมาก ซึ่งในฤดูกาลนี้ ปลาจะมีรสชาติอร่อยกว่าช่วงอื่นๆ และมีตับขนาดใหญ่ แถมยังถูกยกให้เป็นหนึ่งเมนูในครอสโอมากาเสะประจำฤดูหนาวที่ต้องมีในครอส ซึ่งเชฟเลือกเสิร์ฟแบบซูชิพร้อมกับตับของปลา ที่มาช่วยเพิ่มความมันอร่อย
Itoyori (ปลาทรายแดงญี่ปุ่น)
เป็นปลาชั้นสูงที่มีราคา ปลาชนิดนี้จะหาได้จากแหล่งทะเลฟุกุโอกะ และนางาซากิ เนื้อสัมผัสจะออกไปทางนุ่ม หอม และเป็นปลาที่มีรสชาติในเนื้อเลย วันนี้เชฟจัดเสิร์ฟเป็นซูชิให้สัมผัสความหอม นุ่มผสมกับข้าวญี่ปุ่นที่ละมุนสุดๆ
Uni Bafun (ไข่หอยเม่นสด)
อูนิบาฟุน จากแบรนด์ โอกาว่า แบรนด์อูนิที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของตลาดอูนิเลย เป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลในเรื่องของคุณภาพอูนิ ตัวอูนิจะมีสีเหลืองทอง ให้รสสัมผัสที่หวานฉ่ำ
Kani Miso Yaki Top Zuwai (คานิมิโซะ มันปูย่างหน้าปูซูไว)
คานิมิโสะ มันปูย่างสูตรของคาโบฉะ โดยเฉพาะ คานิมิโสะของเราเลือกใช้มันปูจากปูทาระบะผสมกับปูหิมะหรือปูซูไว เติมรสชาติด้วย จินโจชู สาเก เป็นสาเกพรีเมียมที่บ่มจากข้าวญี่ปุ่น ที่ช่วยให้มันปูมีรสชาติหวานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ตัวนี้เชฟจะท็อปิ้งมาด้วยเนื้อของปูซูไว Kabocha
Pudding Milk (คาโบฉะ พุดดิ้งมิลค์)
พุดดิ้งมิลค์ ทำสดแบบวันต่อวัน เพียงวันละ 30 ถ้วยเท่านั้น โดยใช้ส่วนผสมของนมสดแท้ ที่มีการปรับสูตรจนได้ความอร่อยลงตัวไม่หวานจนเกินไป ท็อปปิ้งด้วยสตอร์วเบอร์รี่สด และเพิ่มความหอมหวานด้วยคาราเมล เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ติดใจเมื่อทานที่ร้านคาโบฉะ จะต้องสั่งเป็นเมนูปิดท้ายทุกครั้งอร่อยต้องลอง
Art & Craft Of Food
นอกจากรสชาติที่อร่อย ความสดสะอาดของวัตถุดิบ kabocha sushi ยังพิถีพิถันในการนำเสนอให้ลูกค้าประทับใจ ด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใครบวกกับความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดไปจนถึงหน้าตาอาหารที่ kabocha sushi ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคุณภาพ เพราะ kabocha sushi เชื่อว่า อาหารที่ผ่านการเติมแต่งอย่างมีศิลปะ ด้วยความตั้งใจที่พิถีพิถัน จะช่วยมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับลูกค้าทุกคน ให้กลายเป็นมื้ออาหารที่มีความหมาย ซึ่งแต่ละเมนูที่มีการตกแต่งด้วยวัสดุทางทะเล และดอกไม้หลากสีที่เป็นดอกไม้ออแกนิค สำหรับตกแต่งอาหารโดยเฉพาะ และสามารถรับประทานได้ ซึ่งดอกไม้ทั้งหมดนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ถือเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับใครที่อยากสัมผัสสัมผัสความสดใหม่ของวัตถุดิบประจำฤดูกาล Autumn–Winter เชิญไปลิ้มลองกันได้ที่ kabocha sushi ทั้ง 9 สาขา ลาดพร้าว 19, โฮมโปร พระราม9, โฮมโปร พระราม3, The nine พระราม9, The bright พระราม2, เซ็นทรัลบางนา, โฮมโปรราชพฤกษ์, The Street รัชดา และ โฮมโปรจรัญ