เที่ยวป่า อาบน้ำลำธารกับ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’
นอกจากเป็นนางงาม นางแบบ ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ ยังเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมที่เธอรัก ล่าสุดเธอไปเรียนรู้ธรรมชาติและการเอาตัวรอดในป่า ที่เขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช
"เรารู้สึกได้ถึงพลังของธรรมชาติมากๆ ในทริปนั้น เราดื่มน้ำจากน้ำตก ดื่มน้ำจากต้นไม้ แล้วก็อาบน้ำในนั้นเลย รู้สึกว่านี่ล่ะ ชีวิตที่เราควรมี ทำไมเราถึงอยู่ในเมือง ทุกอย่างห่างไกลจากธรรมชาติจังเลย"
มาเรีย ลินน์ เอียเรียน หรือ มารีญา พูลเลิศลาภ นางงาม นางแบบ นักร้อง ลูกครึ่งไทย-สวีเดน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประจำปี 2560 ตัวแทนประเทศไทยประกวดนางงามจักรวาลปี ค.ศ. 2017 และได้เข้าถึงรอบ 5 คนสุดท้าย พูดถึงการเดินทางครั้งล่าสุดที่เขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
มารีญา เกิดที่ประเทศไทย เมื่ออายุ 2 ขวบย้ายตามครอบครัวไปอยู่ประเทศเวียดนาม พออายุ 8 ขวบกลับมาเรียนมัธยมที่โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพฯ แล้วไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขา International Business ที่มหาวิทยาลัยอีราสมุส รอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มารีญา พูนเลิศลาภ
ปริญญาโทด้าน Consumer and Business Marketing จากมหาวิทยาลัยสต็อกโฮล์มที่สวีเดน เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงตอนอายุ 13 ด้วยการถ่ายแบบและเดินแบบ, ถ่ายมิวสิควิดีโอ, เป็นนักร้อง ออกอัลบั้มแนว POP DANCE ชื่อว่า MAXI SINGLES กับค่ายสมอลล์รูม ล่าสุด ก่อตั้งองค์กร SOS earth ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
"ตอนเด็กๆ อยู่ที่เวียดนามกับไทยแลนด์ พออายุ 8 ขวบ คุณพ่อย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยก็ตามมา จึงพูดภาษาเวียดนามได้ด้วย แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ยิ่งโตยิ่งโง่ มันลืม มาเรียนที่ไทยจนจบมัธยมปีที่6
แล้วไปเรียนต่อที่เนเธอร์แลนด์ สวีเดน เรียนด้านธุรกิจระหว่างประเทศค่ะ มีหลายความฝันมาก ทำบ้าง ไม่ได้ทำบ้าง ยิ่งโตยิ่งเรียนรู้ ก็เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ยิ่งโตก็ยิ่งเห็นว่าเราต้องมาทำเรื่องสิ่งแวดล้อมนี่ล่ะ เพราะใจเราอยู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมวันนี้มาจัดบูธ SOS Earth ค่ะ เราเป็น Social Enterprise (ธุรกิจเพื่อสังคม) เป็นจุดรวมให้คนมาช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม เราจะช่วยซัพพอร์ท NGOs (Non Governmental Organization : องค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐ) เทคโนโลยี และธุรกิจอื่นๆ ที่ทำเรื่องสิ่งแวดล้อม เราไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่เราพยายามหาช่องทาง เส้นทาง ที่มันสนุก แล้วให้คนมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้น"
มารีญาเล่าต่อว่า กำลังทำแคมเปญเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ อยากให้ทุกคนช่วยกัน
"เรากำลังจะเริ่มแคมเปญพลังงานสะอาดค่ะ จะได้เห็นในเดือนมกราคมนี้ ช่วยกองทุนแสงอาทิตย์ ช่วยระดมทุนให้เขา เขากำลังจะสร้างโซลาร์เซลล์ให้โรงเรียน 9 แห่ง ในประเทศไทย ใครที่อยากมีส่วนร่วมติดตามได้ที่เฟซบุ๊ค SOS EARTH, อินสตาแกรม SOS Earth(@sos.thailand), ยูทูบ, ทวิตเตอร์ SOS.Earth @SOSEarth4"
เมื่อถามถึงการท่องเที่ยว เธอบอกว่า ชอบไปกับเพื่อนๆ มากกว่าไปคนเดียว และสไตล์ก็เปลี่ยนไปตามอายุ
"ยิ่งโตยิ่งลุย ล่าสุดที่ลุยมากๆ ไปเขาหลวง ที่นครศรีธรรมราช โอ้โห... สุดยอดมากในพลังงานของมนุษย์ บางทีเรารู้สึกว่าเราจะไม่รอด แต่ว่าเราก็รอดมาได้ ก็เลยรู้สึก โอ้โห.ถ้าเราต้องทำอะไรจริงๆ เราทำได้ เราไป 3 วัน 2 คืน กับสาวอีก 2 คน เป็นผู้หญิง 3 คน ไปกับทาร์ซานบอย (Tarzan Adventure Team)
เป็นการขึ้นเขาหลวง รอบที่ 1,000 ของเขาค่ะ เลยเป็นโอกาสพิเศษ ตอนนี้ถ้าไปเที่ยวจะชอบแบบนี้ ชอบไปกับเพื่อนๆ ได้เห็นอะไรพร้อมๆ กัน พอกลับมาในเมือง ยิ่งเห็นว่าเราต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากๆ รู้สึกเลยว่ามันส่งเสริมพลังของเราและงานของเราด้วย”
สถานที่เคยไปมาแล้ว ชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือที่ไหน
"ตอนนี้ถ้าชอบที่สุดเลย คือ กาญจนบุรีค่ะ ชื่อว่า OUR LAND เป็น Wild Life Corridor เชื่อมพื้นที่ให้สัตว์ป่าไปกินน้ำได้ มันไม่ใช่แค่สะพาน แต่มันเป็นพื้นที่ แล้วเป็นพื้นที่ของเอกชนด้วย ที่นี่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า ความขัดแย้งระหว่างช้างกับมนุษย์ เราสามารถแก้ได้อย่างไรบ้าง
ไปที่นี่แล้วดีมาก เพิ่งพาทีมงานไป เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ไป 2 วัน มันใกล้กับกรุงเทพฯมาก ใครสนใจนั่งรถไปแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จะเข้าอยู่ ลงน้ำ หรือลอยน้ำไปบน Our Land เลยก็ได้ มันให้ความรู้สึกเหมือนเราพาตัวเองเข้าไปในธรรมชาติ เราได้รับพลังงานนั้นแน่นอน หรือจะไปกางเต็นท์ก็ได้ เขามีที่นอนที่มีมุ้งลวดด้วยค่ะ"
มีสถานที่ที่ไหนที่อยากไป แล้วยังไม่ได้ไปบ้าง
"ในเมืองไทย มีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป เยอะเลยค่ะ คิดว่าอยากจะไปเขาหลวงอีกรอบ เรารู้สึกว่ามันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องไปเจอกับตัวเราเองที่นั่น ไม่รู้ว่าคืออะไร เพราะเส้นทางที่เราไป มันก็ไม่ได้เป็นเส้นทางเลย เราต้องลุยเข้าไป
ไปแต่ละครั้งมันจะไม่เหมือนเดิม สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ฝนตกหรือเปล่า เมฆเยอะหรือเปล่า แล้วช่วงเวลานั้น มันอาจจะเดินยากหรือง่ายก็ไม่รู้ ก็อยากไปเจออีกสภาวะหนึ่งว่า เราจะสามารถทำได้ไหม
ถ้าเป็นต่างประเทศ มาเรียอยากไปเห็น Northern Lights ยังไม่ได้วางแผนเลย ตอนนี้กำลังมุ่งมั่นอยู่กับการใช้ชีวิตให้ยั่งยืนในบ้านของเราก่อนแล้วเราค่อยไปที่อื่น คงต้องหลังจากไวรัสโควิดหยุดระบาดที่ทุกอย่างเป็นปกติแล้ว คิดไว้ว่าจะต้องไปดูแสงเหนือที่ประเทศของเราเอง คือประเทศสวีเดน หรือว่าแถวๆ นั้น หรือเลยขึ้นไป ยังไม่ได้ระบุ"
ที่ผ่านมา ในระหว่างการเดินทาง ได้พบเจออะไรที่ผิดคาดผิดแผนบ้างหรือเปล่า
"มีโมเมนท์หนึ่ง เจอตัวเหี้ยค่ะ ตัวใหญ่มาก สีดำ อยู่ระหว่างทางที่เราต้องเดิน ก็เลยต้องอ้อม เขากำลังอาบแดดอยู่ เป็น Komodo Giant ตัวยาวเท่าตัวเราเลย แต่ใหญ่กว่าเรา พรานนำทางบอกว่ามันมีพิษ การไปเที่ยวกับพราน ทำให้เรามีความรู้ เพราะเขารู้มาก เขาสอนอะไรเราเยอะมาก บอกว่าเราจะอยู่กับธรรมชาติได้ยังไง จะเอาตัวรอดยังไง
อีกครั้งหนึ่ง มีงูเห่าไปรอเราที่แคมป์ มาเรียไม่ได้เห็น แต่คนที่เดินขึ้นไปก่อนเห็น งูเห่าก็กลัวเรา เหมือนที่เรากลัวมัน สักพักมันก็ไปของมันเอง เราไม่ได้ไปลบหลู่สิ่งใด มันหลบให้เรา เราก็หลบให้มัน"
ในความคิดของมารีญา การเดินทางท่องเที่ยวคืออะไร
"คือโอกาสที่เราได้เปิดหูเปิดตาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็เป็นหน้าที่ของเราเหมือนกันที่ต้องเดินทางแบบเคารพคนในพื้นที่ที่แตกต่างจากเราและสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังจะเจอ ระหว่างทาง ไม่ว่าเราไปที่ไหน เราต้องเคารพที่นั่นมากๆ เราอย่าไปทำลายมัน เราไปแล้วต้องส่งเสริมที่นั้น"
คิดว่าการท่องเที่ยวต่างจากการเดินทางไหม
"การท่องเที่ยวเรามีจุดประสงค์มากกว่า ว่าเราต้องการเที่ยว แต่การเดินทางอาจจะเป็นแค่ระหว่างทาง แต่ก็คล้ายๆ กัน มาเรียอยากให้ทุกคนช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เที่ยวแบบมีสติด้วยว่าสิ่งที่กำลังทำ เรากำลังสร้างผลอะไรบ้าง โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม ถ้าเลือกขึ้นรถไฟ หรือเลือกทางที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยที่สุดได้ก็ยิ่งดี
ไม่ว่าจะไปไหน ก็อยากให้ดูแลด้วยว่า เราทิ้งอะไรที่ไหนบ้าง ใช้อะไรบ้าง วางแผนก่อนเดินทาง เราอาจจะสามารถแพ็คของไปเองได้ จะได้ไม่ต้องซื้ออะไรจุกจิกมากระหว่างทาง พกขวดน้ำ พกปิ่นโตไป ตอนกลับมาเมืองไทยปี 2017 มาเรียอยากทำสิ่งดีๆ ให้ประเทศไทย เพราะที่นี่คือบ้านของเรา อยากเก็บความงามของประเทศไทย แล้วทำให้เกิดความยั่งยืน"