'แบคทีเรีย' มีผลต่ออารมณ์
ในทศวรรษที่ผ่านมา งานศึกษาหลายชิ้นระบุว่าแบคทีเรียในลำไส้ผลิตสารหลายอย่างที่มีผลต่ออารมณ์ทั้งดีและไม่ดีสำหรับสุขภาพจิต และพบว่าสารเหล่านี้ไม่ได้เดินทางจากลำไส้สู่สมองโดยผ่านกระแสเลือด แต่ผ่านประสาทที่มีชื่อว่า Vagus Nerve
คุณเคยท้องเสียก่อนสอบสำคัญ ก่อนพูด ก่อนแสดงบนเวที หรือรู้สึกเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้องก่อนเวลาสำคัญไหมครับ ถ้าตอบว่าใช่เหมือนคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน ก็แสดงว่าท้องกับสมองของเรามีความสัมพันธ์เชื่อมต่อกัน ปัจจุบันในวงการจิตแพทย์เริ่มเชื่อว่าอาการอารมณ์ซึมเศร้า หม่นหมอง หดหู่ ฯลฯ อาจสามารถรักษาได้ด้วยการบริโภคแบคทีเรียบางตัวเพื่อให้ไปอยู่ในลำไส้
ข้อสังเกตของการเชื่อมต่อนี้มีมานับพันปีแล้ว Hippocrates หมอกรีกโบราณผู้มีชื่อเสียง (คำสาบานของแพทย์ทั่วโลกที่รู้จักกันในนามของ Hippocratic Oath ก็มาจากท่านนี้) เคยกล่าวว่า “โรคทั้งหมดเริ่มในลำไส้” โดยคาดเดาว่าน้ำดีที่ไหลออกมาจากม้ามเข้าไปในลำไส้ทำให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัว
ความเชื่อนี้มีมาตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา แต่นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจเรื่องจุลินทรีย์ในลำไส้ของมนุษย์ไม่มากนัก เมื่อ 200 กว่าปีก่อน หมอเชื่อว่า Depression หรือโรคซึมเศร้ามาจากการมีจุลินทรีย์ (Microbes) มากเกินไปในลำไส้ แต่ก็ไม่มีงานวิจัยพิสูจน์
จุลินทรีย์เป็น Microorganism (จุลชีพหรือสิ่งที่มีชีวิตเล็กๆ) ทำให้เกิดการหมัก (Fermentation) หรือการเจ็บป่วย ส่วนใหญ่ของจุลินทรีย์ในลำไส้คือแบคทีเรียซึ่งมีทั้งร้ายและดี (ต่ำกว่า 1% ที่ก่อให้เกิดโรค)
หลายทศวรรษที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญไม่เชื่อว่าแบคทีเรียในลำไส้ของเรามีผลต่อสุขภาพจิต จนมีหลักฐานมากขึ้นทุกทีว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อยู่ในลำไส้ของเรามีผลกระทบต่อการคิดและพฤติกรรมอย่างลึกซึ้ง งานศึกษาวิจัยจำนวนมากทั่วโลกในปัจจุบันสนับสนุนแนวคิดที่ว่าจุลชีพเหล่านี้ สามารถทำให้สุขภาวะของร่างกายเราดีขึ้น
ไม่น่าเชื่อว่าในร่างกายของเรามีจำนวนจุลชีพมากกว่าจำนวนเซลล์ในร่างกายของเรา กล่าวคือเซลล์แบคทีเรียซึ่งเป็นจุลชีพมีจำนวนประมาณ 1-1.3 เท่าของจำนวนเซลล์ของร่างกาย ลำไส้มนุษย์มีแบคทีเรียอยู่มากกว่า 100 ล้านล้านตัว โดยมีระบบการพึ่งพิงกันอย่างซับซ้อน ในขณะที่มนุษย์มียีนอยู่ประมาณ 25,000 ยีน แต่แบคทีเรียเหล่านี้รวมกันมียีนอยู่ถึง 3 ล้านยีน หลายตัวของยีนของแบคทีเรียช่วยการย่อยอาหาร และกีดกันแบคทีเรียที่มีพิษซึ่งทำให้มีผลต่ออารมณ์ แบคทีเรียในลำไส้ของเราผลิตประมาณ 90% ของ Serotonin ในร่างกายของเรา (Serotonin คือ Happy Hormone ซึ่งกำกับอารมณ์ของเราและส่งเสริมให้เกิดสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ)
ในปัจจุบันยาที่ช่วยแก้ไขโรคซึมเศร้าคือ Fluoxetine (ชื่อยาที่ไม่ใช่การค้า) ซึ่งช่วยในการหลั่งของสาร Serotonin อย่างไรก็ดี เมื่อใช้ไปนานเข้าก็มีการดื้อยาและได้ผลน้อยลง ดังนั้น การค้นหาตัวแบคทีเรียที่ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นจึงน่าสนใจอย่างยิ่ง ปัจจุบันมีชื่อเรียกกลุ่มแบคทีเรียและยีสต์ดีที่อยู่ในลำไส้เหล่านี้ว่า Probiotics
มีงานศึกษามากขึ้นว่าบางตัวของ Probiotics ทำให้สุขภาวะของร่างกายดีขึ้น และมีงานวิจัยพบว่ามันสามารถช่วยรักษากลุ่มอาการเรื้อรังที่เป็นกันมาก ดังที่เรียกว่า IBS (Irritable Bowel Syndrome) กล่าวคือเกิดมีความผิดปกติที่ก่อให้เกิดผลต่อลำไส้ใหญ่ คนป่วยมีอาการปวดท้อง อาการเกร็งในท้อง มีก๊าซ ท้องผูกหรือท้องเสีย หรือเป็นทั้งสองอย่าง
กลุ่มแบคทีเรียนี้มีผลต่อสุขภาพจิตของมนุษย์ แต่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์จากการทดลองในมนุษย์อย่างกว้างขวาง (บัดนี้พบแล้วว่าแบคทีเรียบางตัวมีผลดีต่อการรักษาสุขภาพจิตของหนู แต่ถ้าไม่มีการทดลองในมนุษย์อย่างแท้จริงแล้วก็เรียกได้แค่ว่าช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้ในหนูชนิดที่ปากไม่แดง) อย่างไรก็ดี มนุษย์ไม่อาจรอคอยได้ ดังนั้นในปัจจุบันจึงบริโภคแบคทีเรียกลุ่มนี้กันโดยบริโภคอาหารหมักดองเช่น Sauerkraut (ผักกาดดองเปรี้ยวกินกับไส้กรอกของคนเยอรมัน) โยเกิร์ต Kefir (นมที่มีการหมัก) ฯลฯ ซึ่งมีแบคทีเรียตัวที่มีผลต่อการต้านอาการซึมเศร้า เช่น Lactobacillus Helveticus/Lactobacillus Acidophilus ฯลฯ
มีหลักฐานว่าการบริโภคแบคทีเรียดังกล่าวช่วยปรับให้มีอารมณ์ดีขึ้นและเชื่อกันไปถึงว่าทำให้สุขภาพดี ปัจจุบันมีการค้าอาหารเสริมเหล่านี้โดยเฉพาะแบคทีเรียสองตัวนี้อย่างกว้างขวางในต่างประเทศและบ้านเรา อย่างไรก็ดี มีคำเตือนว่าควรระวังด้วยเพราะอาจมีความเสี่ยง เอฟดีเอหรือองค์กรดูแลรับรองอาหารและยาของสหรัฐที่เป็นผู้นำของโลกยัง “มิได้” รับรองอาหารเสริมประเภทนี้
Lactobacillus Helveticus และแบคทีเรียชื่อ Bifidobacterium Longum สองคู่ชู้ชื่นนี้ปัจจุบันมีการผลิตออกมาเป็นอาหารเสริมขายกันอย่างกว้างขวางชนิดที่เรียกว่า Mood Probiotics ถึงแม้จะต้องระวังแต่ก็มีหลักฐานจากงานวิจัยในมนุษย์ว่าสามารถช่วยทำให้อาการซึมเศร้าลดลง โดยเชื่อว่าไปลดระดับของฮอร์โมน Cortisol ที่หลั่งออกมาเมื่อเกิดความเครียด
แบคทีเรียสายพันธุ์ Probiotics ที่รู้จักกันมากอีกตัวก็คือ Lactobacillus Acidophilus ในการวิจัยพบว่าช่วยรักษาอารมณ์ของสัตว์ที่ทดลองได้ดี อีกทั้งช่วยทำให้ผนังลำไส้แข็งแรงจนสามารถป้องกันไม่ให้สารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเดินทางเข้าสู่สมองได้
ในทศวรรษที่ผ่านมา งานศึกษาหลายชิ้นระบุว่าแบคทีเรียในลำไส้ผลิตสารหลายอย่างที่มีผลต่ออารมณ์ทั้งดีและไม่ดีสำหรับสุขภาพจิต และพบอีกว่าสารเหล่านี้มิได้เดินทางจากลำไส้สู่สมองโดยผ่านกระแสเลือด หากแต่มีช่องทางใหญ่ที่ผ่านคือประสาทที่มีชื่อว่า Vagus Nerve ซึ่งทำหน้าที่คล้ายถนนซูเปอร์ไฮเวย์ระหว่างสมอง ลำไส้ และอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายของเรา
หากมีงานศึกษาในมนุษย์จนสิ้นสงสัยและมีการนำไปใช้เพื่อรักษาเชิงจิตแพทย์แล้วก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างยิ่ง ระหว่างนี้หากบริโภคก็ต้องระวังไว้บ้างโดยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาที่ลวงให้เสียเงินเกินกว่าที่ควร