‘มังค์ฟิช’ เนื้อนุ่มชุ่มลิ้น หอมกลิ่น ‘ซอสยูซุ’ อร่อยราวกับได้ขึ้นสวรรค์
วันนี้ที่บ้านเราหาอาหารพรีเมียมฝีมือระดับ “มิชลินสตาร์” รับประทานได้ไม่ยาก ล่าสุดหมูหวานติดใจ ปลา“มังค์ฟิช” ผสานกับ “ซอสยูซุ” เรียกได้ว่าชอบทั้งหมดเริ่มตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อย ไปจนถึงขนมหวาน ที่ห้องอาหาร “โค้ท บาย เมาโร โคราเกรคโค”
ปลาสลิดไม่มีหัวอย่างไร “มังค์พิซ” (Monkfish) ปลาทะเลที่แฝงตัวอยู่ในผืนทรายใต้ท้องทะเลลึกก็เช่นกัน เนื่องจากหน้าตาของมันน่ากลัวราวกับปีศาจ จึงไม่ค่อยปรากฏหัวให้ใครเห็น เพราะฝีมือมนุษย์จัดการนั่นเอง วันนี้หมูหวานได้ชิม ปลามังค์ ฝีมือเชฟ ดาวิเด การาวาเกลีย (Davide Garavaglia) บอกเลยว่า “มังค์ฟิช” เนื้อนุ่มเด้งราวกับกุ้งมังกรนั้น เข้ากันได้ดักับ “ซอสยุสุ”
เหตุความอร่อยเกิดขึ้นที่ ห้องอาหาร “โค้ท บาย เมาโร โคราเกรคโค” (Côte by Mauro Colagreco) ที่เพิ่งจะเปิดตัว “ESCAPADE” อาหารมื้อเที่ยงแบบพรีเมี่ยม มีทั้งหมด 4-คอร์ส เซ็ตเมนูซิกเนเจอร์ มื้อกลางวันชุดใหม่ รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ในราคาที่คุ้มค่า
ซึ่งร้านอาหารฝรั่งเศส-อิตาเลี่ยน สไตล์ริเวียร่า ที่หมูหวานประทับใจตั้งอยู่ใน โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ รีสอร์ทริมแม่น้ำเจ้าพระยา ราวกับได้รับกลิ่นอายสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน จากอาหารมื้อกลางวัน 4 คอร์สที่ชื่อ เอสคาเพด (Escapade) รังสรรค์โดย เชฟดาวิเด ศิษย์เอกเชฟ เมาโร โคลาเกรคโค (Mauro Colagreco) เชฟชื่อดังเจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์ 3 ดาว และผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่ร้านอาหารมิราซูร์ (Mirazur) แห่งเมืองมองตง ประเทศฝรั่งเศสให้ก้าวขึ้นสู่ร้านอาหารยอดเยี่ยมอันดับ 1 จากการจัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุด 50 แห่งของโลกในปี ค.ศ. 2019
ก่อนจะไปถึง “มังค์ฟิช” และ “ซอสยูซุ” ที่ประทับใจ มื้อกลางวันสุดพิเศษของหมูหวาน เริ่มต้นด้วย อามูส บุช หรือ “เมนูเรียกน้ำย่อย” เสิร์ฟมาเรียงรายบนโต๊ะได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะ มาการอง ชิตาเกะ(shitake macaron) เป็นอาหารจานเปิดสูตรพิเศษของ “เชฟดาวิเด” นำเมนูขึ้นชื่อของชาวอังกฤษมาผสมผสานกับเทคนิคที่สร้างความโดดเด่นให้กับเนื้อสัมผัสของมาการองให้ละลายในปากอย่างรวดเร็ว สอดไส้ด้วยพุดดิ้งที่ทำจากไส้กรอกเลือดหมู และธัญพืชเนื้อละเอียด เมื่อรับประทานกับแอปเปิ้ลเขียวชิ้นบางที่วางแทรกอยู่ด้านในช่วยให้เกิดรสชาติที่ซับซ้อนแต่ลงตัวดีแท้
ส่วนอาหารจานแรกเริ่มจาก คราตาตุยย์ หรือ สตูผัก ที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสตอนใต้ เสิร์ฟแบบเย็นพร้อมปลาซาดีนสดราดน้ำสลัดเบซิลวินิเกรท (Cold Ratatouille with fresh sardines and basil vinaigrette) จานนี้มีวัตถุดิบพิเศษคือ มะกอกพันธุ์ Taggiasca และมะเขือเทศกงฟี ตามปกติสตูผักมักจะทานคู่กับอาหารจานหลักที่มีเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลาเป็นดาวเด่น แต่เพื่อดำเนินตามปรัชญาแห่งการปรุงอาหารของร้านอาหารโค้ท ทำให้อาหารสไตล์โพรวองซ์สุดคลาสสิคจานนี้ได้รับการพัฒนาให้มีรสชาติที่สดใหม่ มีกลิ่นที่ให้ความสดชื่นตั้งแต่ลิ้มรสคำแรก และสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบชนิดอื่นด้วย
จานถัดมามีชื่อว่า Slow cooked egg กับผักสวิสชาร์ดและพาร์เมซานครีม เมนูสูตรเฉพาะของ “โค้ท” ที่รู้จักกันในชื่อ "ไข่สุดวิเศษ" (the perfect egg) ไฮไลท์ของจานนี้คือการต้มไข่ในน้ำอุณหภูมิ 64 องศา เป็นเวลา 45 นาที ปรุงความหวานเล็กน้อยด้วยพาร์เมซานครีมที่จะช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มของไข่แดง และความกรุบกรอบรวมถึงกลิ่นหอมของผักสวิสชาร์ด เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังผสมขิงสูตรพิเศษของเชฟ “เมาโร โคลาเกรคโค” ซึ่งเป็นส่วนผสมขั้นเทพของเมนูนี้ ซึ่งมันดีงามมากๆ
สำหรับอาหารจานหลักนั้นเราต้องเลือก ระหว่าง “Iberico” pork rack, parsnip puree, and chanterelles mushroom”เป็นเนื้อหมูนุ่มชุ่มฉ่ำ รสชาติล้ำลึกที่ปรุงด้วยซอสจากเนื้อหมู ตัดรสด้วยพาร์สนิปปูว์เรเนื้อเนียน และเห็ดชานเทอเรล หรือ “มังค์ฟิช” ที่เข้ากันได้ดีกับ “ซอสยูซุ” นั่นก็คือจานหลักที่ชื่อ Monkfish, broccoli and yuzu ราชาแห่งเนื้อปลาทะเลน้ำลึก ปรุงด้วยซอสแองโชวี่ บร็อคโคลีและยูซุ อร่อยล้ำลงตัวหากต้องการ “ชีส” เพิ่มสีสันเลือกได้จาก “รถเข็นชีส” ทว่าคิดราคาเพิ่ม 300 บาทนะจ๊ะ
ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่มีให้เลือกระหว่าง มาสคาร์โปน "ชิโสะ" เชอร์เบท และสตรอเบอร์รี่ (The Mascarpone, ‘shiso’ sorbet and strawberry) ความลงตัวของการผสมผสาน ชิโสะเชอร์เบท กับ เยลลี่สตรอเบอร์รี่ เสิร์ฟบนมาสคาร์โปนหวานฉ่ำและสตรอเบอร์รี่สด หรือ “ไวท์ช็อคโกแลตและสัปปะรดเชอร์เบท” (White chocolate and pineapple sorbet) ไอศครีมเชอเบทสูตรผสมที่เข้มข้นและนุ่มละมุนของสับปะรดสดปั่นกับช็อคโกแลตขาวหอมหวาน
เอสคาเพด (Escapade) พร้อมเสิร์ฟมื้อกลางวันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.00 น. ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท สามารถเลือกจับคู่อาหารกับไวน์ที่คัดสรรโดยซอมเมอลิเยร์ผู้มีประสบการณ์ เพิ่ม 700 บาท สำหรับ 2 แก้ว
เชฟดาวิเด การาวาเกลีย (Davide Garavaglia) รอคอบต้อนรับทุกท่านด้วยรอยยิ้ม
สำรองที่นั่งสำหรับมื้อกลางวันด้วยเซ็ตเมนูซิกเนเจอร์ Escapade ได้ที่ “โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค” โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ Capella Bangkok อีเมล์ [email protected] เว็ปไซต์ https://bit.ly/RES-Cote หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 098 3818 หรือ 02 098 3888 www.cotebkk.com