เปิดวิธีชง 'กาแฟ' ง่ายแต่พรีเมียม อัพสกิล 'บาริสต้า' ในตัวคุณ
หลายคนค้นพบสกิล "บาริสต้า" ของตัวเองจากการอยู่บ้าน (Work From Home) ในช่วงโควิดระบาด เพราะต้องชง "กาแฟ" ดื่มเองบ่อยๆ และคงจะฟินกว่านี้ ถ้าได้เครื่องชงกาแฟมาเนรมิตแก้วโปรด พร้อมเรียนคอร์ส "ชงกาแฟออนไลน์" ให้รู้ลึกรู้จริง
ในยุค "โควิด-19" หนุ่มสาวออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องหยุดอยู่บ้าน และปรับตัวสู่ Work From Home ทำให้หลายคนได้เรียนรู้สกิลใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีได้ หนึ่งในนั้นก็คือสกิลการชง "กาแฟ" บางคนถึงขั้นอยากเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ในการเป็น "บาริสต้า" อย่างจริงจังเลยทีเดียว
เมื่อก่อนการจะทำ "กาแฟ" สดสักแก้ว อาจเป็นเรื่องยากหากคุณทำเองที่บ้าน เพราะกว่าจะหาเมล็ดกาแฟคั่ว กว่าจะเอามาบด นำมาสกัดผ่านน้ำร้อน ไหนจะปรุงเป็นเมนูที่ชอบ ความยุ่งยากของการเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่างๆ มันเยอะจนน่าปวดหัว แต่เดี๋ยวนี้มีเครื่องชงกาแฟรุ่นใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเนรมิตกาแฟแก้วโปรดได้ง่ายขึ้น พ่วงด้วยเวิร์คช็อปการชงกาแฟออนไลน์ ที่จะทำให้กาแฟแก้วนี้พรีเมียมเหมือนสั่งจากร้านดัง
เอาเป็นว่าใครอยากอัพสกิลตัวเองสู่การเป็น "บาริสต้า" อย่างจริงจัง ต้องรู้ว่าอาชีพนี้เขาต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้าง? เรารวบรวมข้อมูลมาให้รู้กันเบื้องต้น ดังนี้
1. ต้องดื่ม "กาแฟ" เป็น
แน่นอนว่าหากอยากอัพสกิลสู่การเป็นบาริสต้าอย่างเต็มตัว ก็ต้องเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟและดื่มกาแฟเป็น หมายถึงรู้ว่าดื่มกาแฟอย่างไรจึงจะได้ทั้งความอร่อย และได้ความสุนทรียะขณะดื่ม ไปพร้อมๆ กัน
2. มีความรู้เรื่องชนิดกาแฟ
บาริสต้าต้องมีความรู้เรื่องชนิดของกาแฟ รู้ที่มาที่ไปของเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกแต่ละแห่ง เนื่องจากสถานที่เพาะปลูกทำให้รสชาติกาแฟแตกต่างกันไป ทั้งกาแฟที่ผลิตในเมืองไทย เช่น อาราบิก้าจากภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย น่าน) และโรบัสต้าจากภาคใต้ (ระนอง สุราษฎร์ฯ ชุมพร) รวมถึงเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ เช่น เอธิโอเปีย เคนย่า บราซิล จาไมก้า โคลอมเบีย ฮาวาย ลาว อินโดนีเซีย เป็นต้น
3. ต่อยอดเมนู "กาแฟ" ได้หลากหลาย
บาริสต้าต้องรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับเมนูกาแฟ และรู้ความแตกต่างของแต่ละเมนู เช่น เอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ ลาเต้ มอคค่า รวมถึงเรียนรู้เมนูกาแฟใหม่ๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน เช่น การปรุง Blend Coffee ที่สมัยนี้นิยมนำมาผสมกับน้ำส้ม น้ำเลมอน หรือแม้แต่น้ำมะพร้าว ฯลฯ พร้อมอัพเดทความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับเมนูกาแฟให้ตัวเองอยู่เสมอ
4. เรียนรู้เทคนิคการทำเอสเปรสโซ่ชอต
แต่เดิมการจะได้มาซึ่งกาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ชอต ก็มักจะเป็นการนำกาแฟคั่วบดไปอัดแลัวผ่านความร้อน ไม่ว่าจะเป็นไอน้ำร้อนจากเครื่องชงกาแฟ หรือการรินน้ำร้อนลงไปตรงๆ ที่เรียกว่า กาแฟดริป ปัจจุบันมีการสกัดน้ำกาแฟแบบใหม่ๆ มากมาย เช่น กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) หรือการสกัดกาแฟด้วย Aeropress หรือใช้เครื่อง Vaccum Pot ฯลฯ ซึ่งบาริสต้าต้องเรียนรู้และอัพเดทสกิลตัวเองตลอดเวลา
5. มีเซอร์วิสมายด์ แนะนำลูกค้าได้
บาริสต้าต้องมีใจรักการบริการ ต้องมีความอยากดูแลผู้อื่น มีความตั้งใจในการปรุงเครื่องดื่มทุกๆ แก้ว และต้องมีทัศนคติที่ดี บางครั้งอาจจะเจอลูกค้าสั่งเมนูกาแฟแปลกๆ ตามความชอบส่วนตัว เช่น สั่งเมนูเอสเปรสโซ่ใส่นม การเป็นบาริสต้าไม่ควรหักหน้าลูกค้าด้วยการบอกว่าเมนูนี้ไม่ใช่เอสเปรสโซ่ แต่ควรจะแนะนำลูกค้าได้ว่า “ถ้าชอบเอสเปรสโซใส่นม ก็น่าจะชอบคาปูชิโน่หรือลาเต้ สนใจลองมั้ย” แบบนี้จะเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ ก่อนจะตัดสินใจไปเป็นบาริสต้าเต็มตัว ควรลองฝึกชงกาแฟเองแบบง่ายๆ ที่บ้านก่อน (จะได้รู้ว่าตัวเองชอบชงกาแฟจริงๆ หรือไม่) ด้วยการใช้เครื่องชงกาแฟที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาช่วยเนรมิตกาแฟแก้วนี้ให้พรีเมียมมากขึ้น ถ้าจะให้ดี ลองเข้าไปดูเวิร์คช็อปการชงกาแฟทางออนไลน์เพิ่มเติม เพื่ออัพเดทความรู้ใหม่ๆ ให้ตนเอง
แนะนำหนึ่งคอร์สเวิร์คช็อปวิธีการชงกาแฟที่น่าสนใจ นั้นคือ Virtual Coffee Workshop จาก Nespresso (เนสเพรสโซ) ผู้นำด้านกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟชนิดแคปซูลระดับพรีเมียม จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขามีการเปิดเวิร์คช็อปวิธีชงกาแฟ “Virtual Coffee Workshop” ครั้งแรกผ่านออนไลน์ให้ลองทำตามกันด้วย
เป็นเวิร์คช็อปสั้นๆ ที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับระบบไลฟ์สตรีมมิ่ง ทำให้เข้าถึงผู้คนได้ทั่วทุกมุมโลกตอบรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมได้ บอย-สาธิต กลิ่นสาโรจน์ เนสเพรสโซ คอฟฟี่ แอมบาสเดอร์ มาแชร์วิธีการชงกาแฟเมนูเด็ด ที่ทั้งหอม นุ่ม อร่อย แบบพรีเมียม เอาใจคอกาแฟที่อยากลองชงกาแฟเองที่บ้านได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยได้แชร์สูตรกาแฟ 2 เมนูที่ใครๆ ก็สามารถทำตามได้ นั่นคือ
1. Café Latte Chocolate Cookie มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังนี้
- ส่วนผสม : แคปซูลกาแฟสูตรกอโต้ (Corto), แบล็กชูการ์ไซรัป 20 ml., คุกกี้ 1 ชิ้นนำมาบดเป็นผง, นมสดแช่เย็น 4-6 องศาฯ 240 ml.
- วิธีทำ : เริ่มจากใส่แคปซูลกาแฟลงไปในตัวเครื่องชงกาแฟ นำนมสดเทลงไปในเหยือกนม แล้วนำเหยือกนมใส่ไว้ที่ก้านปั่นฟองนมบนตัวเครื่อง จากนั้นกดปุ่มเมนูกาแฟนมลาเต้มัคคิอาโต้ กดสตาร์ท จากนั้นจะได้ฟองนมออกมา จากนั้นเทฟองนมลงไปในแก้วกาแฟ(แก้วใสทรงสูง) ตามด้วยเทไซรัปลงไป จากนั้นนำแก้วไปวางที่ตัวเครื่อง กดสตาร์ทที่ตัวเครื่อง ให้กาแฟเทลงมายังแก้ว จากนั้นนำแก้วออก และนำผงคุกกี้มาโรยลงไปบนผิวหน้ากาแฟ
*หมายเหตุ : หากไม่มีเครื่องชงกาแฟ ให้ใช้วิธีการสกัดกาแฟเอสเปรสโซ่ออกมา 1 ชอต แล้วนำมาปรุงด้วยฟองนม แบล็กชูการ์ไซรัป พร้อมผงคุกกี้ตามสูตรดังกล่าว)
2. Shanghai Citrus Chiller มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังนี้
- ส่วนผสม : แคปซูลกาแฟสูตรเซี้ยงไฮ้ลูนโก้ (Shanghai Lungo), น้ำเชื่อม 20 ml., น้ำเลมอน 20 ml., น้ำเปล่า 20 ml., น้ำแข็ง, เปลือกเลมอน
- วิธีทำ : นำแก้วใสทรงสูงออกมา จากนั้นเทน้ำเชื่อมลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเลมอน เทแบบเอียงแก้วเบาๆ มือ ตามด้วยน้ำเปล่าเทตามลงไป จากนั้นตักน้ำแข็งใส่ในแก้ว ประมาณครึ่งแก้ว นำแก้วไปวางที่หัวจ่ายของเครื่องทำกาแฟ สับคันโยกขึ้น นำแคปซูลกาแฟใส่ไปที่ช่อง สับคันโยงลง จากนั้นกดปุ่มหน้าจอ แล้วหาชื่อเมนูที่ชื่อว่า Lungo กดไปที่รูปแก้วกาแฟ และกดสตาร์ทให้กาแฟไหลงลงไปในแก้ว ยกแก้วออกมา แล้วเติมเปลือกเลมอนลงไป
*หมายเหตุ : หากไม่มีเครื่องชงกาแฟ ให้ใช้วิธีการสกัดกาแฟเอสเปรสโซ่ออกมา 1 ชอต แล้วนำมาปรุงด้วยน้ำเชื่อม น้ำเลมอน น้ำเปล่า ตามสูตรดังกล่าว)
ทั้งสองเมนูนี้ ทำด้วยเครื่อง CREATISTA PRO เครื่องชงกาแฟนวัตกรรมใหม่ที่ทำงานด้วยระบบสัมผัสและหน้าจอสี ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีระบบทำความร้อนที่พร้อมใช้งานภายใน 3 วินาที ทำให้สามารถรังสรรค์กาแฟในเวลาที่รวดเร็วและดื่มด่ำกับเมนูกาแฟที่หลากหลายถึง 9 เมนู ไม่ว่าจะเป็น ริสเทรตโต้, เอสเพรสโซ, ลุงโก, อเมริกาโน, ฟองนมร้อน, คาปูชิโน, แฟลตไวท์, ลาเต้มัคคิเอโต้ และลาเต้ ได้เองง่ายๆ ที่บ้าน
นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีระบบ "ก้านปั่นฟองนมอัตโนมัติ" (Automatic Steam Wand) โดดเด่นด้วยการตีฟองนมที่จะมอบฟองนมนุ่มฟูเนื้อเนียนละเอียด จึงนับเป็นเครื่องชงกาแฟสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำลาเต้อาร์ตโดยเฉพาะ
ใครสนใจอยากเรียนรู้สูตรกาแฟทั้ง 2 สูตรดังกล่าว ก็เข้าไปดูได้ที่ www.nespesso.com หรือ Facebook.com/Nespresso.thailand