‘โคลอี้ จ้าว’ ผู้กำกับหญิงเอเชียคนแรกคว้า ‘Oscar 2021’ ไปครอง
ผู้หญิงเอเชียผงาดในงาน "Oscar 2021" เมื่อ "โคลอี้ จ้าว" ผู้กำกับสัญชาติจีน-อเมริกัน คว้ารางวัล "ผู้กำกับยอดเยี่ยม" จาก Nomadland ขณะที่ "ยุนยอจอง" นักแสดงรุ่นใหญ่จากเกาหลีใต้คว้ารางวัล "นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม" จาก Minari
งานประกาศรางวัล ‘ออสการ์’ ครั้งที่ 93 ประจำปี 2021 เพิ่งจบลงไปสด ๆ ร้อน ๆ พร้อมกับความยินดีของชาวเอเชีย เมื่อ "โคลอี้ จ้าว" ผู้กำกับสัญชาติจีน-อเมริกัน คว้ารางวัล "ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" ไปครองจากภาพยนตร์เรื่อง "Nomadland" พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ "ผู้กำกับหญิงเชื้อสายเอเชียคนแรก" ที่ได้รางวัลนี้ไปครอง
เท่านั้นไม่พอ โคลอี้ จ้าว ยังเป็นผู้กำกับหญิงคนที่ 2 ต่อจาก "แคทรีน บิกกาโลว์" ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขา "ผู้กำกับยอดเยี่ยม" นั่นเท่ากับว่าในประวัติศาสตร์ 93 ปีของออสการ์ มีผู้หญิงได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครองเพียงแค่ 2 คน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก
Nomadland ถือเป็นดาวเด่นของงานออสการ์ 2021 เพราะคว้าไปมากที่สุดทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (ฟรานเซส แมคดอร์มานด์)
ส่วน "นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม" ตกเป็นของ "แอนโทนี ฮอปกินส์" จาก The Father
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าปีนี้มีภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ไปครอง 2 ตัวอยู่หลายเรื่อง คือ MANK, The Father, MA RAINEY'S BLACK BOTTOM, SOUL และ SOUND OF METAL
สำหรับ รายชื่อผู้ชนะรางวัลสาขาต่าง ๆ พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของแต่ละสาขา มีดังนี้
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
รางวัลนี้ไม่พลิกโผ เมื่อ Nomadland ได้ไปครองตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายสำนัก
สิ่งที่น่าสนใจคือ Nomadland เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 (ต่อจาก Braveheart ปี 1995, The Shape of Water ปี 2017 และ Green Book ปี 2018) ที่ชนะออสการ์สาขา Best Picture โดยไม่ได้เข้าชิงรางวัลทีมนักแสดงยอดเยี่ยมของสมาคมนักแสดงภาพยนต์และโทรทัศน์
ลุ้นหนังเข้าชิง ‘ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ ออสการ์ เรื่องไหนภาษีดีสุด
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม ( Best Director)
‘โคลอี้ จ้าว’ จากภาพยนตร์ Nomadland
Nomadland เป็นผลงานการกำกับชิ้นที่ 3 ของ โคลอี้ จ้าว ที่นำเสนอมุมมองของคนที่กล้าตัดสินใจตัดขาดจากระบบทุนนิยมมาเป็นคนพเนจรได้อย่างงดงาม และเปลี่ยวเหงา
ผลงานเรื่องต่อไปของ โคลอี้ จ้าว คือหนังมาร์เวลเรื่อง ETERNALS ที่มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564
สีสันสนุก ๆ จากงาน ‘Oscar 2021’
หนัง ‘Oscar 2021’ หาดูได้ที่ไหน
ลุ้นหนังเข้าชิง ‘ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ ออสการ์ เรื่องไหนภาษีดีสุด
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
แอนโทนี่ ฮอปกินส์ จาก The Father ผู้รับบทคุณพ่อที่ต้องรับมือกับตัวเองที่กำลังเป็นโรคสมองเสื่อม
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ฟรานเซส แมคดอร์มานด์ จาก Nomadland
- นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
แดเนียล คาลูยา จาก Judas and the Black Messiah
เขาเคยเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาแล้วครั้งหนึ่งจากเรื่อง Get Out ในปี 2018ก่อนจะมาคว้าออสการ์ไปครองเป็นครั้งแรกในปีนี้จากการสวมบทประธานพรรคการเมืองเพื่อคนผิวดำชื่อ ‘เฟร็ด แฮมป์ตัน’
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
‘ยุนยอจอง’ จาก Minari
เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่ไม่พลิกโผ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ "ยุนยอจอง" เป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกที่ชนะออสการ์สาขาการแสดง และเป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายเอเชียคนที่สองที่ชนะสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ต่อจาก มิโยชิ อุเมกิ จาก Sayonara ในปี 1957
ถือเป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งของชาวเกาหลีใต้ เพราะเมื่อปีที่แล้ว Parasite สร้างประวัติศาสตร์เป็นหนังภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่คว้ารางวัล Best Picture ไปครอง พอมาในปี 2564 นี้ ‘ยุนยอจอง’ ก็กลายเป็นชาวเกาหลีใต้คนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์ด้านการแสดงไปครอง
- ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม
Soul จากค่าย Pixar
ถือเป็นหนังเรื่องที่ 11 ของพิกซาร์ที่ได้รับรางวัลนี้ไปครอง
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
The Father (คริสโตเฟอร์ แฮมพ์ตัน และ ฟลอเรียน เซลเลอร์)
- บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
เอเมอรัลด์ เฟนเนล จาก Promising Young Woman
ถือเป็นผู้หญิงคนแรกในรอบ 13 ปีที่ได้รับรางวัลนี้
- เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song)
Fight for You จาก Judas and the Black Messiah
เป็นเพลงที่พูดถึงการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกัน ขับร้องโดย H.E.R. และ Dernst Emile II เนื้อเพลงโดย H.E.R. และ Tiara Thomas
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
Soul โดย Trent Reznor, Atticus Ross, Jon Batiste
- เสียงยอดเยี่ยม (Best Sound)
Sound of Metal (Nicolas Becker, Jaime Baksht, Michelle Couttolenc, Carlos Cortés, Phillip Bladh)
เป็นอีกรางวัลที่ไม่พลิกโผ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ทำได้สมกับชื่อหนัง มีการใช้เทคนิคพิเศษทำให้ ‘เสียง’ กลายมาเป็นลูกเล่นสำคัญในหนัง จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น ‘ตัวละคร’ สำคัญอีกตัวหนึ่งในเรื่อง ซึ่งพูดถึง ‘การสูญเสียการได้ยิน’ ของมือกลองแนวเมทัลคนหนึ่ง
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
Ma Rainey’s Black Bottom (แอนน์ รอธ)
ถือเป็นออสก้าร์ตัวที่สองของ แอน รอธ ที่เคยได้รางวัลนี้จาก The English Patient ในปี 1996 มาแล้ว และชัยชนะในปีนี้ยังทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงอายุมากที่สุดที่ชนะรางวัลออสการ์ไปครองด้วย
- ภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยม
If Anything Happens I Love You จาก Netflix
เป็นหนังสั้นความยาว 11 นาทีที่สะเทือนอารมณ์ เพราะพูดถึงความสูญเสียของผู้ปกครองจากเหตุการณ์กราดยิงที่โรงเรียน
- ภาพยนตร์ไลฟ์-แอคชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยม
Two Distant Strangers จาก Netflix
เป็นหนังอิงกระแส #BlackLivesMatter พูดถึงการเอาตัวรอดของคนผิวดำที่พยายามไม่ให้ถูกตำรวจจับกุม
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
Mank (Erik Messerschmidt) จาก Netflix
- ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม
My Octopus Teacher (Pippa Ehrlich, James Reed, Craig Foster) จาก Netflix
หนังเรื่องนี้เคยคว้ารางวัลเดียวกันจากเวที BAFTA มาแล้ว เห็นสารคดีที่เล่าความสัมพันธ์อันแสนประหลาดของคนและปลาหมึกได้อย่างอบอุ่น
- ภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยม
Colette (Anthony Giacchino, Alice Doyard)
เป็นเรื่องราวของชาวฝรั่งเศสที่ลุกขึ้นสู้กองทัพนาซีของเยอรมัน และได้กลับไปเยือนค่ายกักกันที่เธอสูญเสียน้องชายไปจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์
- ตัดต่อยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
Sound of Metal (Mikkel E.G. Nielsen)
- ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม
Another Round จากเดนมาร์ก
- แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม
Ma Rainey’s Black Bottom (Sergio Lopez-Rivera, Mia Neal, Jamika Wilson)
เสื้อผ้าหน้าผม และการแต่งกายของนักแสดงเรื่องนี้โดดเด่นสมมง เพราะเป็นหนังที่พูดถึงยุค Jazz Age ในชิคาโก้ ช่วงปี 1920
- ออกแบบศิลป์ยอดเยี่ยม
Mank (Donald Graham Burt, Jan Pascale)
เป็นหนังขาวดำที่พาย้อนยุคกลับไปฮอลลีวูดในยุค 30 จึงไม่แปลกที่จะมีความโดดเด่นเรื่องการออกแบบศิลป์ หรือ production design จนได้ออสการ์ไปครอง
- เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
Tenet (Andrew Jackson, David Lee, Andrew Lockley, Scott Fisher)
หนังสุดล้ำของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่พูดถึงทฤษฎีการย้อนเวลาได้อย่างน่าสนใจ
- รางวัลเกียรติยศ Jean Hersholt Humanitarian Award
ไทเลอร์ เพอร์รี ได้รางวัลนี้ไปครองจาก “การมีอิทธิพลด้านวัฒนธรรมที่นอกเหนือไปจากขอบเขตของการทำงานเป็นคนทำหนัง”
ขณะที่เจ้าตัวได้กล่าวสปีชไว้อย่างจับใจตอนขึ้นไปรับรางวัลว่า
“แม่ผมสอนให้ผมปฏิเสธความเกลียดชัง ปฏิเสธการตัดสินแบบเหมารวม ผมหวังว่าพวกเราทุกคนจะสอนลูกๆ ของพวกเราให้ปฏิเสธความเกลียดชังด้วยเช่นกัน”