ฉลอง... ‘วันเครปซูเซตต์’ วันที่ 6 พฤษภาคม
วันที่ 6 พฤษภาคม เป็น “วันเครปซูเซตต์” ของหวานที่น่ากินที่สุด หน้าตาก็สวย วิธีทำก็น่าตื่นตาตื่นใจ เห็นที่ไหนเป็นห้ามใจไม่ได้…
วันเครปซูเซตต์ หรือ National Crepe Suzette Day ตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม คนอเมริกันเขาชอบคิด “วันอาหารนานาชาติ” ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่อาหารชนิดนั้น และชวนคนมาฉลองด้วยการ “กิน”
หลายคนรู้จัก เครปซูเซตต์ ว่าเป็นของหวานสไตล์ฝรั่งเศส แต่คนฝรั่งเศสกลับบอกว่า ในเมืองน้ำหอมมี วันเครปแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เรียกว่า Le Chandeleur หรือ Candlemas วันนั้นชาวฝรั่งเศสจะฉลองด้วยการ กินเครป หลากหลายชนิด ซึ่งไม่ใช่แค่กินให้อร่อย แต่วันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวแคธอลิก เพื่อรำลึกถึงพระแม่มารีและพระบุตร (พระเยซู) ชาวคริสต์ในฝรั่งเศสอธิบายว่า เครป รูปทรงกลม สื่อถึงพระอาทิตย์ อันเป็นต้นกำเนิดแห่งชีวิต และเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง ก่อนจะกินก็จะมีพิธีกรรมในการทำเครป มีความเชื่อกันหลากหลาย เช่น ระหว่างทำเครปให้เอาเหรียญวางบนเครป ทำแล้วจะโชคดี บางชุมชนบอกว่า ตอนทำเครปให้ถือเหรียญมือขวา มือซ้ายก็พลิกหน้าเครปไปและอย่าทำตกเด็ดขาด ถ้าทำได้แปลว่าคุณจะโชคดีตลอดทั้งปี บางคนไม่กินแต่เอาเครปที่ทำเสร็จแล้วซ่อนไว้ในลิ้นชัก โดยเชื่อว่าจะโชคดีมีสุขในปีหน้า
ประเพณี วันกินเครป ของชาวฝรั่งเศส สืบเนื่องมาแต่โบราณ ชาวคริสต์จะนับวันกินเครป หลังวันคริสต์มาส 40 วัน อันเป็นช่วงเวลาหลังเก็บเกี่ยวระหว่างกลางฤดูหนาว และเมื่อมีผลผลิตย่อมต้องมีการแบ่งปัน รูปวงกลมของเครป ยังหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เมื่อโป๊ปหรือสมเด็จพระสังฆราชในศาสนาคริสต์ เริ่มต้นแจกจ่ายอาหารให้คนยากไร้ในช่วงเวลานั้น วันกินเครป จึงถือเป็นวันแห่งความเมตตาและแบ่งปัน อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึงวันที่อุณหภูมิอุ่นขึ้น ความหนาวเย็นจะละลายหายไป บางคนบอกว่า กินเครปแล้วทำให้นึกถึงหมีที่ได้ฤกษ์ออกจากถ้ำหลังจำศีลยาวนานในฤดูหนาว
คำว่า เครป คนไทย (และคนชาติอื่น) ก็เรียกทับศัพท์จากภาษาฝรั่งเศสว่า crepe คือแพนเค้กแบบบาง ทำจากแป้งสาลี ไข่ นมหรือน้ำ กับเนย เครปมีต้นกำเนิดจากบริททานีในฝรั่งเศส ยุคแรกนั้นใช้แป้งสาลีบัควีท เนื้อเครปจะออกสีน้ำตาล ปัจจุบันเครปสีน้ำตาล ที่ทำจากบัควีทหรือแป้งสาลีโฮลวีตนั้นนิยมทำเป็น เครปชนิดคาว ส่วนแป้งขาวก็ทำ เครปหวาน แต่ตอนนี้มีแป้งมากชนิดขึ้นสำหรับคนแพ้กลูเตนในแป้ง ก็มีแป้งทางเลือกใช้ทำเครป เช่น แป้งจากถั่วชิคพี แป้งจากอัลมอนด์
แล้ว เครปซูเซตต์ มาจากไหน ซูเซตต์ คือชื่อใคร ? เครปซูเซตต์ เกิดขึ้นราวศตวรรษที่ 19 ราวปี ค.ศ.1895 ในปารีส โดย เชฟอองรี (Henri Charpentier) ตอนนั้นยังไม่เป็นเชฟ อองรีอายุ 14 ปี ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้าน Café de Paris ในมอนติ คาร์โล ซึ่งกำลังจัดจานอาหารอยู่ ในขณะนั้นเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด แห่งอังกฤษ เสด็จมากับพระสหายและสุภาพสตรีนาม ซูเซตต์ (Suzette) แล้วบังเอิญ อองรี ทำไฟลุกท่วมซอสในจานอาหารที่กำลังจะเสิร์ฟ และเขาไม่มีเวลาหาฝาอะไรมาปิดมัน แต่เมื่อเขาได้ลองชิมซอสที่ไหม้ในจานดูปรากฏว่ารสชาติก็ไม่ได้แย่ แถมรสชาติก็ดีขึ้นด้วย อาหารจานนั้นก็คือ “แพนเค้ก” เมื่อเจ้าชายเสวยโดยใช้ส้อมตัดแพนเค้กแล้วใช้ช้อนตักน้ำซอสที่เหลือ พระองค์ก็ถามอองรีว่า อาหารจานนี้เรียกว่าอะไร หนุ่มอองรีผู้หัวไวตอบว่าชื่อ เครป โอ แพรงซ์ (Crepe au Prince) หรือ “เครปของเจ้าชาย” แต่เจ้าชายรู้สึกว่ามีสุภาพสตรีนั่งอยู่ด้วยจึงทรงตอบว่า ให้ชื่อว่า เครปซูเซตต์ ดีหรือไม่... นับแต่นั้นมา แพนเค้กแผ่นบางที่เสิร์ฟร้อน ๆ จากเตาราดซอสส้มที่เทเหล้ากรอง แมร์นิเยร์ (Grand Marnier เหล้ารสส้มทำจากคอนญัคผสมบรั่นดี) จนไฟลุกจึงได้ชื่อว่า เครปซูเซตต์
เรื่องสนุกของของหวานชนิดนี้อีกอย่างคือ ทำสด ๆ ต่อหน้าแขกเมื่อเครปสุกแล้วพับเป็นทรงสามเหลี่ยม ราดซอสส้มเข้มข้น แล้วเทเหล้าลงทำให้ไฟลุกเต็มกระทะ เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และหอมน่ากินจากกลิ่นของแป้งสุก กลิ่นน้ำตาลไหม้ที่ค่อย ๆ เป็นคาราเมล ผสมกับกลิ่นหอมของเนย น้ำส้ม และผิวมะนาว บวกกับเหล้าส้มที่เทลงไป (ให้ไฟลุก) แต่ไฟนั้นก็จะดับไปอย่างรวดเร็วเมื่อแอลกอฮฮล์ถูกความร้อนแล้วระเหยไปในที่สุด
เครปซูเซตต์ เป็นของหวานที่ดูหรูหรา มักเสิร์ฟหลังอาหารเช้า กลางวัน หรือเย็น เป็นเมนูตบท้ายมื้ออาหารสุดคลาสสิกและเท่ด้วย เมื่อมาให้บริการถึงโต๊ะ ทุกวันนี้เชฟของหวานสร้างสรรค์ เครปซูเซตต์ ด้วยส่วนประกอบหลากหลายดูน่าทึ่ง ไม่เพียงแค่แพนเค้กแผ่นบางพับเป็นทรงสามเหลี่ยมที่จมอยู่ในซอสส้มหอมหวาน ยังเพิ่มรสชาติด้วยผิวส้มขูด ไอศกรีม (ให้กินเครปกับซอสส้มร้อน ๆ ตัดกับไอศกรีมเย็น ๆ) รสชาติที่นิยมคือวานิลลา หรือใครจะเปลี่ยนเป็นไอศกรีมช็อกโกแลต ไอศกรีมรสมะนาว ส้ม หรือสตรอว์เบอร์รี่ก็ไม่มีใครว่า บ้างเติมผลไม้สดลงไป ตั้งแต่ส้มสด ราสพ์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ พีช กล้วยหอม ก็ได้
เป็นของหวานที่จบมื้ออาหารอย่างแฮปปี้ เอนดิ้ง เหมือนดูหนังที่ตัวละครสุขสมหวังในตอนจบ... วันที่ 6 พฤษภาคม เรามาชวนกันแฮปปี้เพื่อระลึกถึง วันเครปซูเซตต์ กันเถอะ!