รู้จัก 'เนื้อวากิว' จากพืช ฝีมือคนไทย อัพเลเวลวงการเนื้อเทียม
"เนื้อเทียม" (Plant-based Meat) สินค้าสุขภาพมาแรงในยุค 2021 ชวนรู้มูลค่าทางการตลาดของกลุ่มโปรตีนทางเลือก ล่าสุดพัฒนาไปอีกขั้นกับ "เนื้อวากิว" จากพืช ฝีมือคนไทย คว้ารางวัลชนะเลิศระดับอาเซียน
ในแวดวงของสินค้าอาหารสุขภาพ หนึ่งในอาหารทางเลือกที่กำลังมาแรงคงหนีไม่พ้น "เนื้อเทียม" (Plant-based Meat) นอกจากจะช่วยลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งเชื่อมโยงกับการลดภาวะโลกร้อนจากการทำฟาร์มปศุสัตว์แล้ว ยังตอบโจทย์กลุ่มรักสุขภาพ ที่นิยมบริโภคอาหารจากพืชแทนเนื้อสัตว์ ล่าสุด.. มีการพัฒนาสู่ "เนื้อวากิว" จากพืชได้แล้ว!
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะชวนคุณมากรู้จัก "เนื้อวากิว" Plant-based ฝีมือคนไทย ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากเนื้อเทียมบดแบบทั่วๆ ไป แถมผลงานนี้ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศด้าน Food Tech ในระดับอาเซียนมาแล้ว
- "เนื้อวากิว" จากพืช เหมือนเนื้อจริงแค่ไหน?
เนื้อวากิวเทียม ฝีมือคนไทยชิ้นนี้ มีชื่อว่า The Marble Booster ผลิตจากพืช 100% ให้โปรตีนสูง ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ขึ้นรูปเนื้อจาก "โปรตีนถั่วเหลือง" ให้มีลักษณะโครงสร้างเป็นใยคล้ายกล้ามเนื้อสัตว์ และมีชั้นไขมันแทรกในเนื้อ ทำให้ได้เนื้อวากิวที่เหมือนจริงมากที่สุด
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นผลงานของทีม Food Tech Chula นำโดยนิสิตปริญญาเอก นุติ หุตะสิงห และ วรัญญา เตชะสุข และนิสิตปริญญาโท ณัฐชนน สร้างสมจิตร์ จากภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
โดยพวกเขาได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวที “Asean Food Innovation Challenge 2021” ภายใต้แนวคิดการผลิตอาหารพร้อมรับประทานที่มีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกันและดีต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 120 ทีม จากมหาวิทยาลัย 54 แห่งใน 13 ประเทศอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- "เนื้อวากิว" จากพืช ไม่มีคอเลสเตอรอล ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
จุดเด่นของเนื้อวากิวเทียมดังกล่าว อยู่ที่การผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง จนได้เนื้อเทียมที่มีเส้นใยกล้ามเนื้อจริงๆ และยังไม่เคยมีใครผลิตมาก่อน โดยแตกต่างจากเนื้อเทียมที่เป็นลักษณะ "เนื้อบด" เหมือนสินค้าหลายๆ เจ้าในท้องตลาดปัจจุบัน
อีกทั้งออกแบบให้เป็นเนื้อวากิวลายหินอ่อน ที่มีไขมันแทรกเข้าไปอยู่ในชิ้นเนื้อด้วย โดยการใช้ไขมันจากน้ำมันคาโนลา ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล ให้เนื้อสัมผัสคล้ายคอหมูที่มีไขมันแทรก
นอกจากนี้ ยังมีการเติมสารสกัดขมิ้นชันและพริกไทยดำเข้าไป ซึ่งเมื่อสมุนไพรทั้งสองชนิดอยู่ด้วยกันก็ยิ่งเสริมฤทธิ์กันในการสร้างภูมิคุ้มกัน และสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีถึง 2,000%
- เนื้อวากิวจากพืช อัพเลเวลวงการ "เนื้อเทียม"
ส่วนในแง่ของเนื้อสัมผัส ทีมวิจัยได้ทดลองนำไปประกอบอาหารในระดับครัวเรือน พบว่าเนื้อวากิวเทียมจากพืชมีความยืดหยุ่นและความชุ่มฉ่ำคล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ ประกอบอาหารง่าย แต่สิ่งที่ยังต้องพัฒนาต่อคือ "กลิ่นและรสชาติ" ที่ต้องทำให้ดีขึ้นกว่านี้ โดยทีมวิจัยระบุว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี จะสามารถพัฒนาให้เนื้อวากิวเทียมมีกลิ่นและรสชาติสมบูรณ์มากขึ้น
พูดได้ว่าเนื้อเทียมฝีมือคนไทยสูตรนี้ เป็นผลงานที่เข้ามาอัพเลเวลให้วงการ "เนื้อเทียม" ก้าวหน้าไปอีกระดับ และอาจดันมูลค่าทางการตลาดของสินค้ากลุ่มอาหารสุขภาพให้ยิ่งเติบโตมากขึ้น
- เช็คมูลค่าการตลาด "เนื้อเทียม" ในไทย
เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยรายงานวิเคราะห์เกี่ยวกับมูลค่าทางการตลาด "เนื้อเทียม" ระบุว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ตื่นตัวกับการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การตระหนักถึงการบริโภคที่คำนึงถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม จึงทำให้สินค้าประเภทเนื้อเทียมเติบโตอย่างโดดเด่น
สำหรับในไทย พบว่าปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบการไทยได้ผลิตสินค้าโปรตีนทางเลือกในกลุ่ม "นวัตกรรมอาหารใหม่จากพืช" โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น และทยอยส่งสินค้าออกสู่ตลาดมากขึ้น
ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายจะเป็น "โปรตีนจากพืช" ในรูปแบบเนื้อสัตว์ทดแทน (Plant-based Meat) เช่น เนื้อบดจากพืช เบอร์เกอร์หมูจากพืช กลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เช่น ซาลาเปาเนื้อจากพืช ข้าวกะเพราเนื้อจากพืช เป็นต้น
โดยคาดว่า ปี 2564 ตลาดโปรตีนทางเลือกที่มาจากนวัตกรรมอาหารใหม่ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ย 8% ต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้า
----------------------
อ้างอิง :