เปิดธุรกิจบันเทิง‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ 2 แห่ง รายได้รวม 9.1 ล.

เปิดธุรกิจบันเทิง‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ 2 แห่ง รายได้รวม 9.1 ล.

พลิกข้อมูล 2 บริษัท ‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ ทำธุรกิจบันเทิง กำไรทั้งคู่ ปี 63 บ.ล้ำเส้น รายได้รวม 1.2 ล้าน บ.เจ.คิมฯ 7.9 ล้าน ก่อนเจ้าตัวประกาศชัด “รวยพอใช้จนถึงชาติหน้า”

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกระแสดราม่าในแวดวง ‘บันเทิง’ ลุกลามมายันพื้นที่โลกออนไลน์ กรณี ‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง โพสต์ข้อความแสดงจุดยืนเรื่องสถาบันฯ จนถูก ‘ทัวร์ลง’ ทำให้เจ้าตัวตอบกลับคอมเมนต์ต่าง ๆ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

กระทั่งเจ้าตัวส่งตัวแทนไปแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ประเด็นที่น่าสนใจเมื่อ ‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ ฟาดชาวเน็ตที่มารุมว่า “พฤติกรรมดี แต่ขาดความภักดี ไม่ต้องมาสนับสนุน…ค่ะ …รวยพอใช้จนถึงชาติหน้านะ”

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ สืบค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 พบว่า ‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ หรือชื่อจริงว่า นางพรพรรณ ชุนหชัย เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ล้ำเส้น จำกัด และบริษัท เจ.คิม 2010 จำกัด

บริษัท ล้ำเส้น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2552 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 129/101 หมู่ที่ 3 ทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ธุรกิจบันเทิงทุกประเภท เช่น จัดคอนเสิร์ต

ปรากฏชื่อนางพรพรรณ ชุนหชัย และนายเศกพล อุ่นสำราญ (โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน) เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 3,847,011 บาท มีหนี้สินรวม 331,908 บาท มีรายได้รวม 1,202,282 บาท รายจ่ายรวม 1,154,477 บาท กำไรสุทธิ 47,804 บาท

เมื่อปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 1,217,512 บาท ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 828,736 บาท

ส่วนบริษัท เจ.คิม 2010 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2552 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 126/14 ประชาอุทิศ 78/1 ทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ธุรกิจบันเทิงทุกประเภท เช่น จัดคอนเสิร์ต

ปรากฏชื่อ นางพรพรรณ ชุนหชัย และ น.ส.กิตติยา ชุนหชัย เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 19,270,722 บาท หนี้สินรวม 3,312,729 บาท แจ้งรายได้รวม 7,940,468 บาท มีรายจ่ายรวม 6,522,994 บาท เสียภาษีเงินได้ 210,022 บาท กำไรสุทธิ 1,207,452 บาท

เมื่อปี 2562 กำไรสุทธิ 2,059,296 บาท ปี 2561 กำไรสุทธิ 1,134,563 บาท

หากนับรวมรายได้ของทั้ง 2 บริษัทในช่วงปี 2563 รวม 9,142,750 บาท กำไรสุทธิรวม 1,255,256 บาท