พรชัย ปัทมินทร แห่ง Dr. CBD ผู้ชัดเจนเรื่องกัญชา กัญชง กระท่อม
อดีตผู้บริหารวาณิชธนกิจ ทำงานสายตลาดเงินตลาดทุนมาเกือบ 3 ทศวรรษ วันนี้ "พรชัย ปัทมินทร" เปลี่ยนเส้นทางจากนักการเงินสู่ตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” Dr. CBD ที่มุ่งมั่นพัฒนา สารสกัดกัญชา กัญชง กระท่อม เพื่อใช้ในงานสุขภาพและการแพทย์
เรื่องนี้มีที่มา...พรชัย ปัทมินทร ผู้บริหาร Dr. CBD เปิดใจคุยกับ ‘จุดประกาย’ จากคนที่สนใจเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ สับสวิตช์ตัวเองสู่สายงานที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ทำไมถึงยุติบทบาทของนักการเงินที่ทำมาเกือบ 30 ปี
“ผมเริ่มทำงานสายแบงค์กิ้งประมาณปี 94 เพราะเรียนสายการเงินมา แต่ถึงวันนี้โดยส่วนตัวผมจะคิดทำอะไรใหม่ ๆ ทุก 6-7 ปี เพื่อเป็นการพัฒนาตัวเอง แล้วเรื่องที่จะออกมาทำอะไรเองก็เริ่มคิดมาได้สักพักแล้ว มีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น อยากจะท้าทายตัวเองในขณะที่ยังมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ และยังมีพลังอยู่ ถ้าไม่ทำตอนนี้คงอีกนาน ไม่งั้นชีวิตก็จะดำเนินไปตามไซเคิลของนายธนาคารไปเรื่อย ๆ
และที่ออกจากสายงานธนาคาร เรื่องแรกที่ตั้งใจทำเกี่ยวกับงานด้านพระพุทธศาสนา ผมทำงานกับมูลนิธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวเองสนใจอยู่แล้ว มี 2 มูลนิธิที่เข้าไปเกี่ยวข้อง และคิดว่าเราออกจากสายการเงินก็เพื่อจะมีเวลาทำเรื่องนี้มากขึ้น
เรื่องที่สองคือทำบริษัทด้าน Health Care และ Nutraceutical เพื่อผลิตและพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ และให้ Solutionไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การแก้ไข ในอีกทางเลือกหนึ่ง ผมต้องใช้คำว่า “ทางเลือก” เพราะปกติมาตรฐานในวงการแพทย์คือต้องรอให้เป็นอะไรสักอย่าง แล้วไปรับการรักษา ซึ่งยาส่วนใหญ่ก็สกัดจากเคมี อย่างที่ทุกคนทราบนะครับ การรับยานาน ๆ จะมีผลข้างเคียง มีการสะสม จากจุดนี้ผมมองว่า ประเทศไทยโชคดีหลายเรื่องมาก ทั้งเรื่องของประวัติศาสตร์ เรื่องยาสมุนไพร มีหมอสมุนไพรที่เก่ง พืชบางประเภท ซึ่งเมื่อปลดล็อกเพื่อนำมาใช้เรื่องการแพทย์จะเกิดประโยชน์มาก ทั้งเรื่องของสายพันธุ์กัญชา กัญชง กระท่อมที่ปลูก”
หมายเหตุภาพ : Dr. CBD
การเริ่มต้นครั้งใหม่จึงถือว่าเป็นงานท้าทาย
“ส่วนตัวผมอยากท้าทายตัวเองว่ามาทำในสิ่งที่ผมรัก แล้วตั้งใจทำ จากที่เคยทำงานในองค์กรที่เรียกว่า ก่อตั้งแล้วมีระบบแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการเริ่มทำอะไรเองตั้งแต่ศูนย์เป็นครั้งแรก ผมก็อยากจะท้าทายตัวเองว่าถ้าคนทำอะไรด้วยความตั้งใจ ด้วยใจรัก ด้วยใจจดจ่อ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า “อิทธิบาท 4” จะไปได้ขนาดไหน และผมก็มองว่าเป็นจุดที่เราสามารถสร้างอุตสาหกรรมขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม ขอบอกว่าเราไม่ได้ตามกระแส ไม่ได้เห่อเรื่องกัญชา เนื่องจากเราก่อตั้งเป็นบริษัทเฮลธ์แคร์ เรามีจุดยืนและขะมักเขม้นในการพัฒนาสินค้าและบริการออกมา มีการศึกษาวิจัยรองรับ มีสูตร มีหลักการตามวิทยาศาสตร์”
Dr. CBD ก่อตั้งก่อนหรือหลังภาครัฐปลดล็อกกัญชา
“หลังครับ ประมาณต้นปีหลังปลดล็อกแล้ว แต่มีการเตรียมงานกันมาข้ามปีเพราะคิดอยู่ในใจอยู่แล้วว่าจะทำด้านเฮลธ์แคร์ ก่อนหน้านั้นเราได้เริ่มคิดและดำเนินการมาแล้ว มีทีมงานนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย เรามองหาโอกาสของ พืชหรือธรรมชาติที่สามารถสกัดของดี ๆ ออกมาได้ แล้วมีผลโดยตรงต่อสมอง ซึ่งช่วยรักษาโรคและอาการผิดปกติในร่างกายได้ เพราะสมองเป็นตัวสั่งทุกเรื่อง รวมถึงความเจ็บปวดในร่างกาย ฉะนั้น โรคทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งผมคงคุยได้ยาวมากเรื่องโรค แต่ที่เราสนใจเนื่องจากเรามองว่า 1) เราอยากเป็นผู้ร่วมสร้างอุตสาหกรรมอันนี้ขึ้น 2) เป็นจังหวะที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานกับภาครัฐ บางส่วนเอกชนทำได้เอง บางส่วนเราทำกับภาครัฐนะครับ แล้วสามารถช่วยพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเกษตรกร หรือผู้ปลูกกัญชา กัญชง บางส่วนเราปลูกเอง มีบางส่วนที่รับซื้อ เราจะสามารถช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนในประเทศนี้ได้
เริ่มตั้งแต่ ต้นน้ำ กัญชา กัญชง ปลูกเองมาตรฐาน GACP และรับซื้อของมีคุณภาพจากวิสาหกิจชุมชนที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ส่วน กระท่อม จากวิสากิจชุมชนพืชสมุนไพร ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ฯ ที่ปลูกและดูแลอย่างมีมาตรฐาน
กลางน้ำ เรามีการลงทุนในเครื่องสกัดแบบอุตสาหกรรมจากอเมริกาที่ได้มาตรฐาน มีโรงสกัดและแล็ปทดลองที่ได้มาตรฐานสากล GMP และ ISO17025 ซึ่งจะทำให้เราส่งออกผลิตภัณฑ์ได้
ปลายน้ำไม่ว่าจะเป็นกัญชา กัญชง กระท่อม เราจะใส่มูลค่า ใส่ความวิเศษของสมุนไพรไทย ตำราไทย เป็นการผสมกันระหว่างเทคโนโลยีตะวันตกและตะวันออก ตะวันตกเก่งเรื่องสร้างเครื่องมือ การสกัด เป็นวิธีที่ดึงเอาของดีออกมา ผมยกตัวอย่างถ้าเราเดินตามโบราณการกินการอยู่ จริง ๆ โรคภัยจะน้อยกว่านี้ แต่ปัจจุบันเรากินตามสภาวะของวิวัฒนาการด้านเศรษฐกิจ และตะวันตกมากขึ้น มักจะมีโรคที่เกี่ยวกับตะวันตกมากขึ้น สมัยก่อนเรากินน้ำพริกผักต้ม จริง ๆ ถ้าเรากินตามนั้นโอกาสเกิดโรคจะน้อย แต่ถ้าเราบอกว่าการกินผักหรือสมุนไพรโดยตรงอย่างเดียว บางทีเราจะได้สารบางอย่างที่เราไม่ต้องการมาด้วย
เช่น มะเขือพวง ในแกงเขียวหวาน จะเห็นว่ามันสวยทุกลูกเลย แทบจะหาอันที่แมลงกินน้อยมาก มีเหตุผลเพราะแมลงรู้ว่าถ้ามันกินเยอะ ๆ มันจะตาย ถามว่ามะเขือพวงดีมั้ย ดีช่วยลดเบาหวาน แต่เราไม่รู้ว่าถ้าเรากินเยอะ (เยอะมาก ๆ) จะเกิดพิษต่อร่างกาย ถามว่าแล้วทำไมต้องสกัด คือแทนที่ไปเอากองสมุนไพรมามาตากแห้ง แล้วบด ๆ ตำ ๆ เราใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการดึงสารสำคัญออกมา
กัญชา กัญชง คนส่วนใหญ่จะรู้จัก CBD กับ THC สองสารคือสารในกลุ่ม แคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ที่อยู่ในพืชนั่นแหละ เราสกัดออกมาเพื่อใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพ ไม่ได้เพื่อสันทนาการ เพราะเราเป็นบริษัทด้านเฮลธ์แคร์
ขอยกบางเคสนะครับ ผมพบว่ามีคนทานยานอนหลับเป็นเม็ด ๆ คือยานอนหลับเคมี กินเข้าไปนาน ๆ ไม่ดีอยู่แล้ว เกิดการสะสมตับไตมีปัญหาแน่นอน ถามว่าทางเลือกคือ น้ำมันกัญชา ผมมีเพื่อนหลายคนกินยานอนหลับ กินมา 30 ปี เขาหยุดกินได้ด้วยยาทางเลือกใหม่จากธรรมชาติ”
หมายเหตุภาพ : Dr. CBD
กระท่อม ก็เป็นสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่นำมาใช้ทางการแพทย์ได้
“กระท่อม ก็มีแอพพลิเคชั่นออกไปได้เยอะครับ ตั้งแต่เรื่องโรคเบาหวาน จัดการเรื่องน้ำตาล เรื่องลดน้ำหนัก ให้พลังงาน รักษาอาการเจ็บปวด รักษาการติดยาในกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid ยาระงับอาการปวด) กลุ่มคนติดสารเสพติด พัฒนาต่อยอดไปเรื่องของพลังงานก็ได้ เรื่องการเร่งเมตาโบลิซึ่มให้มากขึ้น เราพัฒนาไปถึงขั้นนั้น ถึงบอกว่าเราไม่แค่ปลูกแล้วเอามาทำ แต่มันต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแปรรูปแล้วถึงเอาไปใช้ได้ ถึงจะเวิร์คจริง แล้วจะตอบคำถามว่ากินสมุนไพรจะช้ามั้ย ใช่ครับ เพราะเมื่อก่อนช้ามาก เพราะสมัยก่อนเวลาเราไปหาหมอแผนโบราณเขาจ่ายยาเป็นหม้อใส่ถุงมัดเอามาต้มเป็นน้ำ แต่ เทคโนโลยีจะช่วยให้เกิดประสิทธิผลมากกว่า ใช้วิธีการสกัดเพื่อให้ได้สารที่ต้องการจริง ๆ”
Dr. CBD มีผลิตภัณฑ์กี่ชนิดในกลุ่มกัญชา กัญชง และกระท่อม
“พืชกลุ่มกัญชาหลังปลดล็อก มีหลายกลุ่มพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลายอย่าง แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่ม F & B (Food and Beverage) คืออาหารและเครื่องดื่ม ใช้บริโภค อีกกลุ่มคือคนที่สนใจเรื่องสุขภาพ Dr. CBD เราไม่อยู่ในกลุ่ม F & B เราสนใจเรื่องยาสมุนไพร วิตามิน เครื่องสำอางบางส่วน เราก็พัฒนาสูตร ตอนนี้ทดสอบผลิตภัณฑ์ไปพอสมควร เรียกว่าได้ผลเกินความพอใจ
ขณะนี้มีราว 6 โปรดักท์ แล้วจะเริ่มขอ อย. แต่เวลาเราส่งให้ อย.ตรวจเราผ่านการทำงานอย่างมีมาตรฐาน เราทำงานร่วมกับนักวิจัย จากสถาบันที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำวิจัยอย่างจริงจังเพื่อให้ได้ผลและข้อสรุป
โดยยึดหลัก 3 ประการ คือ 1.ปลอดภัย (Safety) 2.ไม่เป็นพิษต่อคน (Toxicity) และ 3.ทำออกมาแล้วเหมือนกันทุกครั้ง (Consistency) ดังนั้นกระบวนการ วิธีการต้องดีมาก เคลมสรรพคุณอะไรบ้าง ต้องทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ”
กว่าจะเป็น Dr. CBD จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
“ใช่ครับ Dr. CBD เราสร้างชื่อในฐานะที่เป็น Medical based ดูแลตั้งแต่เรื่องปลูก เราควบคุมการปลูกคือต้นน้ำ พืชกัญชาตระกูล Cannabis ที่จริงปลูกที่ไหนก็ขึ้นหมด ฝรั่งถึงเรียกว่า Weed ครับ หมายถึงวัชพืช สามารถปลูกเพื่อดีท็อกซ์ดินที่เสื่อมได้ เอากัญชาลงสามเดือนดึงออก ทั้งรากทั้งต้นสามารถตรวจจับโลหะหนัก สารปนเปื้อนในดิน ปลูกสัก 2 ครอป (crop) รอบละ 3 เดือน ดินสะอาดเลย แต่กัญชานั้นใช้ไม่ได้แล้วนะครับ เรื่องการปลูกเราลงละเอียด มีเครื่องตรวจทุกขั้นตอน
ตอนนี้กำลังทำเรื่อง Contract farming กำลังจัดระบบให้เป็นมาตรฐาน แต่เรามีพื้นที่ของเราเอง ปลูกในตึกแบบ Medical grade ลงไปกว่าสามพันต้น อยู่ที่สุขุมวิท 103 ปลูกในแล็ปที่ใช้วัสดุปลูก แต่เป็นอินทรีย์ทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นกัญชาออร์แกนิค แต่ละต้นมีบาร์โค้ด ตรวจเช็คละเอียดว่า สารตัวนี้มาจากต้นไหน ควบคุมทุกอย่าง ทั้งอุณหภูมิ เป็นห้องควบคุมแสงใช้ไฟ LED ที่มีสเปคตรัมกว้าง ๆ ที่เรียกว่า “ฟราเรด” มีความถี่ของแสงระดับไหน ช่วยให้ออกช่อดอก ทำให้ต้นโตไม่ไม่สูงมาก มีเครื่องกระจายน้ำวิ่งตามจุด ปลูกใน 18 ห้อง ๆ ละ 200 ต้น”
หมายเหตุภาพ : Dr. CBD
เมื่อกัญชาปลดล็อกแล้ว ใคร ๆ ก็พัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชาได้ แล้วผู้บริโภคจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกยี่ห้อไหน
“กัญชงปลดล็อกแล้ว กัญชาเราทำงานร่วมกับภาครัฐ เพราะทุกอย่างต้องทำตามกรอบของกฎหมายด้วย ผมเองไม่ได้วิเคราะห์คู่แข่ง แต่จะคุยกับคนในอุตสาหกรรม ขออนุญาตใช้คำว่า “น้ำดี” นะ คือคนที่คิดอะไรแบบสัมมาอาชีวะ คิดอะไรดี ๆ ทำดี ๆ คิดชอบ ถ้าถามว่ากังวลเรื่องอะไร ผมห่วงเรื่องมาตรฐานของตัวเรามากกว่า จริง ๆ อยากให้มีการแข่งขันเยอะ ๆ เพราะการแข่งขันจะทำให้ผู้บริโภคมีการแยกระหว่างของปลอมกับของดี ดีหรือไม่ดี เมื่อตลาดกว้างขึ้นก็ไม่ถือเป็นคู่แข่ง แต่ที่ต้องแข่งกันคือเรื่องคุณภาพในการปลูก ในการสกัด และวัดกันด้วยปัญญา กระบวนการคิด แนวทางของธุรกิจ
แล้วผู้บริโภคจะรู้ได้ไงว่า อันนี้ดีกว่าอันนั้น ผมว่าเวลาจะซื้ออะไรใช้ ต้องดูความน่าเชื่อถือของบริษัท ดีแคลร์ได้มั้ยปลูกยังไง เทรซอะบิลิตี้ (Traceability – การตรวจสอบย้อนกลับ) จากต้นได้มั้ย คิวอาร์โค้ดผมได้ ปลูกที่ไหนยังไง สายพันธุ์อะไร มีจีเอ็มพีมั้ย ห้องแล็ปมีไอโซมั้ย มีนักวิทยาศาสตร์ นักเคมี การสกัด มีการลงทุนถูกต้องมั้ย
ถ้าเข้าไปเห็นของจริงที่ Dr. CBD จะเหมือนโรงพยาบาลหรือห้องผ่าตัดเลย เพราะต้องใส่ชุดพีพีอี เดินเข้า grower ผู้ปลูกต้องเดินเข้าไปดูตลอด ถนอมเลี้ยงอย่างดีนอนดีกว่าเรา นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจทำ ผมถึงบอกว่าต้องมีการตรวจสอบ ผมเช็คได้ 3 เรื่อง Safety Toxicity และ Consistency ทุกอย่างต้องได้มาตรฐานหมด เรามีขั้นตอน และไม่รีบเร่งเอาโปรดักท์ออกจนกว่าจะมั่นใจเพราะเราต้องการขอ อย. ครั้งเดียว เราต้องดูเรื่องงานวิจัย คุยเรื่องสูตร คุยกับหมอหลายประเภทนะ ทั้งหมอแผนไทย ปัจจุบัน ทางเลือก หมอสมุนไพร คุยกับนักเคมี เอาไอ้นี่ผสมไอ้นี่แล้วมันออกมาจะได้หรือเปล่า ใช้กับร่างกายมีผลดีผลเสียอย่างไร”
กัญชาช่วยรักษาโควิดได้อย่างไร
“สมุนไพรไทยเรามี Immune booster เยอะมาก ทั้งฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขมิ้น อย่าง “ต้มยำกุ้ง” ถ้าเราเอากุ้งออก ใส่หอมแดงลงต้ม เอาแต่น้ำมาทานเป็นวิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง ซึ่งไทยได้เปรียบที่เรามีภูมิปัญญา
กัญชากับโควิด ก็มีหลายงานวิจัยในแง่รักษาการรักษา ส่วนใหญ่ที่วิจัยออกมาคือการเข้าไปจัดการปอดที่อักเสบ ไม่ใช่กัญชาไปฆ่าเชื้อ เชื้อก็คือเชื้อ แต่ไปจัดการเรื่องปอดอักเสบ กัญชามีความสามารถในการเสริมภูมิคุ้มกันด้วย แต่ผมจะเอากัญชาไปรวมกับสมุนไพรตัวอื่น เช่น ขมิ้น คือมีพระเอก พระรองมีคนเร่งปฏิกิริยาสร้างภูมิต้านเชื้อ
จากกระบวนการในห้องแล็ปเขาจะใช้สารซีบีดี แคนนาบินอยด์ ผสมกับ เทอร์พีน วิธีทำสารสกัดก็ต้องปลูกให้ได้ดี ดูแลเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ วัชพืช ไม่มีเชื้อโรค ให้อยู่สะอาดที่สุด เมื่อถึงเวลาพอสุกแล้วใช้ช่อดอก ทำให้แห้ง แล้วบดเป็นผง ตามโพรเซส ไล่มาตั้งแต่การตรวจสอบสารก่อน พร้อมเข้าเครื่องสกัด เป็นวิธีการคัดสรรวิธีหนึ่ง เป็นส่วนของต้นไม้ที่มีน้ำมันเคลือบอยู่ ต้องหาวิธีเอามันออกมา กัญชาละลายในน้ำมัน เมื่อทำไปปุ๊บจะเห็นว่าเอาเข้าเครื่องแบบนี้ ไล่กระบวนการทำไปเรื่อย ๆ จนได้เป็นน้ำมัน และเรามีเครื่องตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนว่าสารที่ได้มีคุณสมบัติอย่างไร”
มองก้าวต่อไปของ Dr. CBD อย่างไร
“ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะวางเป็น “ยุทธศาสตร์ชาติ” เพราะเรามีความเป็นผู้นำในทุกเรื่อง เช่น การโรงแรม เซอร์วิส มีอาหารบวกการดูแล Food & Hospitality เอามาบวกกับเมดิคัล เมื่อประเทศเปิดเราต้องช่วงชิงความพร้อมอันนี้และประกาศว่าเราเป็นผู้นำ
เราเป็นแค่บริษัทเล็ก ๆ ที่อยากร่วมสร้างอุตสาหกรรมนี้ อยากเป็นลีดดิ้งในอาเซียน อาจเริ่มด้วยการส่งเสริมจากภาครัฐ เช่น ธกส.เริ่มมีโครงการโดยเข้าช่วยไปพร้อมกับองค์ความรู้ สร้างระบบการเงินเข้าไปมีส่วนร่วมขับเคลื่อน และควรช่วยเกษตรกรก่อน แล้วเดินเรื่องยุทธศาสตร์ ซึ่งต้องคิดแบบนักยุทธศาสตร์ ต้องสร้างอุตสาหกรรมนี้ให้เกิดขึ้น เรามีความพร้อมขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่ทุกประเทศจะมีนะ ถ้าไปอยู่แถบตะวันออกกลางที่ดินปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น แต่ประเทศเรามีอะไรให้ทำเยอะมาก อย่าให้ประเทศอื่นมาบอกว่าเป็นผู้นำ ในเมื่อเราถึงพร้อมในทรัพยากรและมีศักยภาพในทุก ๆ ด้าน
อย่างที่คนโบราณพูดว่า..ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นเรื่องจริงนะ”
