สนั่นโลก “แฟชั่น” Jaspal เตรียมเปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษร่วมกับ DVF

Jaspal แบรนด์แฟชั่นไทยสร้างปรากฏการณ์เขย่าความสนใจแฟชั่นนิสต้าไทยอีกครั้ง ด้วยการเชิญ ไดแอน วอน เฟอร์สเทนเบิร์ก (Diane von Fürstenberg)  ดีไซเนอร์ระดับปูชนียบุคคลแห่งวงการแฟชั่นอเมริกา มาร่วมสร้างสรรค์ Jaspal คอลเลคชั่นฟอลล์/วินเทอร์ 2021

ไดแอน วอน เฟอร์สเทนเบิร์ก เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวเบลเยียม เกิดที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2489 แต่ไปสร้างแบรนด์แฟชั่นมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

ครอบครัวและชีวิตวัยเด็ก หล่อหลอมให้เธอเติบโตเป็นสตรีที่มีจิตใจเข้มแข็ง เป็นนักต่อสู้ และพร้อมสนับสนุนกิจกรรมให้ผู้หญิงมีโอกาสแสดงความสามารถที่ดีของตนเอง  

ไดแอน วอน เฟอร์สเทนเบิร์ก สตูดิโอทำงาน (credit photo: Jaspal)

บิดาของไดแอนเป็นชาวยิวซึ่งอพยพไปอยู่เบลเยียมในปี 2472 จากนั้นได้หลบภัยนาซีไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ มารดาเป็นชาวกรีกและเป็นสมาชิกกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งรอดชีวิตมาจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 

18 เดือนก่อนไดแอนเกิด แม่ของเธอเป็นนักโทษอยู่ในค่ายกักกันชื่อก้องโลก Auschwitz ในประเทศโปแลนด์ ไดแอนมักให้สัมภาษณ์อยู่เสมอ ว่าในการดำเนินชีวิต เธอมีคุณแม่เป็นต้นแบบ โดยเฉพาะคำสอนที่ว่า “fear is not an option” (ความกลัวไม่ใช่ทางเลือก)

ไดแอนเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำในออกซฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังฤษ เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมาดริด ประเทศสเปนก่อนย้ายไปเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 

หลังสำเร็จการศึกษา เธอเดินทางไปปารีส ทำงานเป็นผู้ช่วยในบริษัทช่างภาพแฟชั่น Albert Koski อยู่พักหนึ่ง แล้วจึงตัดสินใจเดินทางไปอิตาลีเพื่อฝึกงานกับผู้ผลิตอุตสาหกรรมสิ่งทอในโรงงานของ Angelo Ferretti ทำให้ได้เรียนรู้เทคนิคการตัด สีสัน และเนื้อผ้า ที่นี่เองที่เธอได้ออกแบบและผลิตชุดกระโปรงผ้าไหมชุดแรกของเธอ 
 

ไดแอนมีชื่อเดิมว่า Diane Simone Michele Halfin เธอเคยเป็นเจ้าหญิง เนื่องจากสมรสกับ เจ้าชายเอกอน แห่งเฟอร์สเทนเบิร์ก (Egon Von Fürstenberg) ตระกูลขุนนางเยอรมัน ต่อมาได้แยกกันอยู่ในปี 2515 และหย่าจากกันในปี 2526 แต่ยังคงใช้นามสกุลสามี

ปี 2520 ไดแอนเคยให้สัมภาษณ์ นิวยอร์กไทมส์ ไว้ว่า ในนาทีที่รู้ว่าจะเป็นภรรยาของเจ้าชาย เธอก็ตัดสินใจว่าจะต้องทำงาน เธอต้องการเป็นที่รู้จักในสังคมด้วยตัวของเธอเอง

ไดแอน วอน เฟอร์สเทนเบิร์ก ในช่วงเริ่มต้นอาชีพดีไซเนอร์ (credit photo: wallsdesk.com)

ไดแอนและเจ้าชายเอกอนย้ายไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์กในปี 2512 และก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นในปี 2513 สองปีต่อมา (พ.ศ. 2515) จึงก่อตั้ง แบรนด์ Diane von Fürstenberg หรือที่คุ้นเคยกันในรูปตัวอักษรย่อ DVF 

ที่นิวยอร์ก ไดแอนได้พบกับ ดิอานา วรีแลนด์ บรรณาธิการนิตยสารโว้กในขณะนั้น ดิอานาออกปากชมงานดีไซน์ของไดแอนด้วยคำว่า “มหัศจรรย์อย่างที่สุด” และใส่ชื่อไดแอนไว้ในกำหนดการของนิวยอร์กแฟชั่นวีค ธุรกิจห้องเสื้อ DVF จึงเริ่มต้น ณ บัดนั้น

DVF wrap dress คอลเลคชั่น 2021 (credit photo: dfv.com)

ผลงานที่สร้างไดแอนให้เป็นตำนานในอุตสาหกรรมแฟชั่นก็คือ wrap dress ที่ตัดเย็บด้วยผ้าทอแบบใยยืดในปี 2517 มีลักษณะเป็นชุดเดรสรัดรูปที่ชายผ้าด้านหนึ่ง ‘ป้าย’ ทบไปด้านหลังเอว ผูกเป็นโบว์ หรือไม่ก็ติดเป็นกระดุม  

wrap dress ของไดแอน ทำให้คอเสื้อชุดเดรสเป็นรูปตัววี (V-shaped) ชัดเจนและลึก และด้วยเนื้อผ้าที่ทอขึ้นแบบยืดได้ wrap dress ของไดแอนจึงกลายเป็นชุดกระโปรงที่แนบไปกับเรือนร่างสตรี ฉายความงามตามธรรมชาติที่เป็นตัวตนของผู้หญิงแต่ละคนไม่ซ้ำกัน
 

ไดแอน กับคอลเลคชั่น DVF ที่เธอเคยออกแบบ

เนื้อผ้าและรูปแบบ wrap dress  ที่ไดแอนออกแบบ ถือเป็นการปฏิวัติรูปแบบชุดกระโปรงของแม่บ้านชาวอเมริกันที่เคยสวมใส่มาตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 1930  ที่รู้จักกันในนาม The Great Depression กินระยะเวลาถึง 10 ปี

ชาวอเมริกันต้องทำงานอย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ ‘แม่บ้าน’ เนื่องจากต้องประหยัด จึงส่งผลไปถึงรูปแบบเสื้อผ้าและราคาต้องไม่แพง เกิดเป็นชุดกระโปรงง่ายๆ แบบพันรอบตัว มีเชือกผูกเอว เมื่อชุดกระโปรงนี้สกปรกจากการทำงาน ก็ถอดออกได้สะดวก แล้วเปลี่ยนเป็นตัวใหม่ได้ง่าย ขณะที่เสื้อผ้าที่สวมอยู่ด้านในยังคงสะอาดไม่เลอะเทอะ ใส่ซ้ำได้อีก ซักแค่ชุดกระโปรงที่ตัดเย็บด้วยผ้าราคาถูก ทั้งนี้ก็เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซักรีด

ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งนั้นเกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดี เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ (Herbert Hoover) นักวิจารณ์แฟชั่นอเมริกันจึงเรียกชุดกระโปรงง่ายๆ แบบมีเชือกพันรอบเอวแบบนี้ว่า Hooverette และยกให้  wrap dress ของไดแอน เป็นสัญลักษณ์ของ พลัง และ ความเป็นอิสระ สำหรับผู้หญิงรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์แฟชั่นสตรีอเมริกัน จากการทำให้แม่บ้านอเมริกันรู้สึกถึง 'ความเป็นผู้หญิง' ได้อีกครั้ง

wrap dress ทำให้สตรีอเมริกันรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงได้อีกครั้งหลังยุค The Great Depression

ปี 2517 สถาบันเครื่องแต่งกายของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน (Costume Institute of the Metropolitan Museum of Art) บรรจุผลงานออกแบบ wrap dress ที่ตัดเย็บด้วยผ้าทอใยยืดของไดแอนเข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นอเมริกาของพิพิธภัณฑ์ในฐานะสัญลักษณ์อันโดดเด่นของแฟชั่นสตรี 

เสื้อผ้าที่เธอออกแบบได้รับการสวมใส่โดยดาราและเซเลบริตี้หลายคน อาทิ แคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์, มาดอนนา, ซูซาน ซาแรนดอน, วิตนีย์ ฮิวสตัน, กวินเน็ธ พัลโทรว์, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, เคต เบ็กคินเซล, เจสสิกา อัลบา

ด้วยความสามารถด้านการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไดแอนได้รับคัดเลือกให้ขึ้นปก นิตยสารนิวส์วีก (Newsweek) ในปี 2519 บทความในนิตยสารระบุว่า เธอเป็นสตรีซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแฟชั่นมากที่สุดคนหนึ่งหลังจาก โกโก ชาเนล (Coco Chanel)

ปี 2540 ไดแอนก้าวสู่ความสำเร็จอย่างเต็มตัว เพราะได้รับรางวัลมากมาย หนึ่งในนั้นคือ  Lifetime Achievement Award จาก Council of Fashion Designers of America (CFDA) รางวัลใหญ่แห่งวงการแฟชั่นในสหรัฐอเมริกาที่เหล่าดีไซเนอร์หลายคน ใฝ่ฝันตั้งเป้าหมายจะคว้ามาให้ได้

พ.ศ.2549 เธอได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานักออกแบบแฟชั่นแห่งอเมริกา และได้รับดาวบน Fashion Walk of Fame ของ Seventh Avenue ในปี 2551

ในปี 2557 ไดแอนเข้าร่วมการรณรงค์ Ban Bossy ในฐานะโฆษกที่สนับสนุนบทบาทความเป็นผู้นำสำหรับเด็กผู้หญิง
 

ไดแอนกับสตรีซึ่งได้รับรางวัล DVF Awards

ไดแอนยังให้คำปรึกษาและก่อตั้ง มูลนิธิ The Diller - von Furstenberg Family (องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร-DVF)  และได้มอบรางวัล DVF Awards ให้กับ ผู้หญิงที่แสดงความเป็นผู้นำ ความเข้มแข็งและความกล้าหาญในความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายของตนเอง 

ล่าสุด ไดแอน วอน เฟอร์สเทนเบิร์ก เปิดตัว รายการ InCharge เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงในการเพิ่มขีดความสามารถและเป็นแนวทางให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาเอาชนะเป้าหมายของตัวเอง 

คอลเลคชั่นพิเศษ Diane von Fürstenberg X Jaspal

ดีไซเนอร์หญิงวัย 75 ปี ไดแอน วอน เฟอร์สเทนเบิร์ก พร้อมส่งมอบพลังบวก สร้างความประทับใจขั้นสุดให้กับวงการแฟชั่นไทย ด้วยการจับมือกับ Jaspal แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำสัญชาติไทย ในการส่งคอลเลคชั่นที่ดึงจุดเด่นด้านดีไซน์ของไดแอนในสไตล์ wrap dress และ floral print (ลายพิมพ์ดอกไม้) มาผสมผสานกับตัวตนของ ผู้หญิงแบบฉบับ Jaspal ที่หลงใหลในลายดอกไม้ แฝงด้วยความหวานน่าทะนุถนอม  แต่ในขณะเดียวกันก็ดูสมาร์ท มีความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ๆ และมุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนความเป็นผู้หญิง #InCharge อย่างชัดเจน 

Jaspal มีกำหนดเปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ Diane von Fürstenberg X Jaspal วันอังคารที่ 28 กันยายน 2564

*  *  *  *  *  *  *  *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

• ‘รีวิว’ ประวัติ ‘ผ้าทอ’ กรุแตก เผ่าทอง ทองเจือ ผ้าโบราณผืนงามราคาหลักพัน
• Arc de Triomphe, Wrapped เมื่อประตูชัยฝรั่งเศสถูกห่อหุ้ม
• หมี 'Bearbrick' ดีไซน์สันติภาพ ชายผู้ปาดอกไม้ข้ามกำแพงเวสต์แบงก์
• ‘การ์ตูน’ สนูปี้ กับของที่ระลึกสมทบทุนซื้อเครื่องมือ ‘แพทย์’