“ปลาตะเพียนไร้ก้าง” กินได้ทั้งตัว อร่อยมา 40 ปี
“อร่อยริมทาง” วันนี้ว่าด้วยเรื่อง “ปลาตะเพียน” ไร้ก้าง ร้านนี้มีเคล็ดลับต้มนาน 24 ชั่วโมงจน “ก้าง” เปื่อยนุ่มเคี้ยวเพลินสบายฟันแถมช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย แต่ที่นี่ร้าน “นายสุนเจริญนคร” เขาขาย เป็ด-ห่าน พะโล้ อร่อย มานาน 40 ปี
ปลาตะเพียนไร้ก้าง ทำให้หมูหวานต้องเดินทางไปเยือนฝั่งธนบุรีเพื่อชิมเมนู ปลาตะเพียน เพราะมีคนบอกว่า อร่อยไร้ก้าง ที่ไหนได้พอชิม ปลาตะเพียนต้มเค็ม สูตรนี้
ไหนว่าไร้ก้าง ยังคงมีก้างอยู่นะคะ แต่เปื่อยนุ่มจนเคี้ยวได้สบายฟัน ก็เลยกลายเป็นที่มาของคำว่า อร่อย "ยันก้าง" หรือ อร่อย "จนถึงก้าง” แทนก็แล้วกัน (ฮา)
หมูหวานชวนชิม นึกถึงปลาตะเพียนสานสีแดงๆ ที่แขวนอยู่เหนือเปลเด็กน้อย เวลาถูกแรงลมพัดก็กวัดแกว่งไปมา นั่นคือภาพจำสำหรับปลาชนิดนี้
ก่อนมารู้จักตัวปลาเป็นๆที่แหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำ เป็นปลาที่มีก้างเยอะ ก้างสอดแทรกอยู่แทบทุกอนู ราวกับเป็นปลาที่มีความหวงเนื้อหวงตัว ทำให้มนุษย์กินลำบาก
แต่มนุษย์เราก็เป็นฝ่ายชนะ หาวิธีกินจนได้ ด้วยเทคนิคแล่ปลาตามขวางเพื่อตัดกับก้าง แล้วทอดให้กรอบแค่นี้ก็รับประทานได้ทั้งก้างแล้ว ที่ ร้านนายสุนเจริญนคร แห่งนี้เขามีชื่อเสียงเรื่อง ปลาตะเพียนไร้ก้าง
เพื่อนกินสาวสวยเธอภูมิใจนำเสนอว่า แถวบ้านเธอมีอาหาร “อร่อย” หลายอย่างรวมทั้ง ปลาตะเพียนไร้ก้าง อันเป็นเมนูจานเด็ดจานโปรดของเธอ
ที่เวลาแขกไปใครมาต้องแนะนำ รวมทั้งซื้อมารับประทานเองกับเพื่อนๆบ่อยครั้ง ไหนๆหมูหวานชวนชิมก็มีโอกาสข้ามไปฝั่งธนบุรีทั้งทีก็เลยจัดไป 1 จาน โอ้โหสุดแสนประทับใจเหลือหลาย อร่อย สมคำร่ำลือจริงๆ
ร้านนายสุนเจริญนคร อยู่ปากซอยเจริญนคร 12 ตรงข้ามกับโรงแรมเพนนินซูล่า ตึกแถวหัวมุม จะเห็นกะทะใบใหญ่ทอด ปลาตะเพียน
เขาจะทอดปลาให้กรอบก่อนจากนั้นนำไปทำ ปลาตะเพียนต้มเค็ม ที่เราสามารถรับประทานได้ทั้งก้าง หมูหวานชวนชิม ชอบเกี้ยมฉ่ายที่ราดมาบนตัวปลา
มีความเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ อร่อยสุดๆ จนอยากเพิ่มตังค์ขอเกี่ยมฉ่ายเพิ่มเลยทีเดียว บอกเลยว่า ปลาตะเพียนไร้ก้าง นี้ อร่อยจนต้องซื้อกลับบ้าน
"ปลาตะเพียนไร้ก้าง" ราดเกี้ยมฉ่าย เห็นหน้าตาแบบนี้อร่อยมากนะจ๊ะ
ปลาตะเพียนไร้ก้าง มีจุดทอด ปลาตะเพียน ตรงห้องแถวหัวมุม ไม่มีที่นั่งรับประทานนะจ๊ะ หากต้องการหาที่นั่งเชิญที่ ร้านนายสุนเจริญนคร
มีป้ายเขียนหน้าร้านว่า ร้านนายสุน (ติ่ง)เจริญนคร เจ้าเก่าไม่มีสาขาอยู่ถัดไปห้องที่ 4 หน้าร้านโชว์ความเป็น ก๋วยเตี๋ยวเป็ด และ ห่านพะโล้
ซึ่ง หมูหวานชวนชิม และเพื่อนกินหม่ำทั้งเป็ดและห่าน สองแบบในจานเดียวกัน ชิมแล้วชอบเป็ดมากกว่า เพราะห่านมันจะเยอะกว่า
เสียดายที่วันนั้นไปถึงประมาณบ่ายสี่โมงกว่าเลือดเป็ดขายดีหมดเกลี้ยงไปเสียก่อน
แนะนำหน่อไม้ต้มพะโล้ กัดคำแรกยังไม่ทันเคี้ยว ก็คิดจะสั่งกลับบ้าน (โอเวอร์แอคติ้งอีกแล้ว) หน่อไม้เขาเลือกแบบอ่อนกำลังดี หอมกรุ่นกลิ่นพะโล้ โอ้ยนึกแล้วก็อยากหม่ำอีกเดี๋ยวนี้เลย
นอกจาก ปลาตะเพียนไร้ก้าง แล้ว ใครจะชิม ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ชามละ 50 บาท ก๋วยเตี๋ยวเนื้อห่าน ชามละ 60-70 บาท และเกาเหลา ขายชามละ 60-70 บาทด้วยเช่นกัน
ใครชอบประมาณข้าวราดอย่าง ข้าวหน้าเป็ด หรือ ข้าวหน้าห่าน ราคาจานละ 70 บาท หรือจะสั่งแยกส่วนชัดเจนเช่น ขาห่าน,ปีก,ไส้ ไปจนถึงเครื่องใน ก็สั่งได้นะจ๊ะ
ร้านนี้มี “เป็ดตุ๋นฟัก” และ “ปลากะพงทอดน้ำปลา” ด้วยนะเออ ตรุษจีนที่ใกล้จะถึงนี้มีเป็ด-ห่านขายทั้งตัวอีกด้วย
ส่วน ปลาตะเพียนต้มเค็มแสน อร่อย ที่ หมูหวานชวนชิม แนะนำ ราคาตัวละ 150-160 บาท ตามขนาด
ร้านนายสุนเจริญนคร อยู่ปากซอยเจริญนคร 12 ตรงข้ามโรงแรมเพนนินซูล่า เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. โทร. 02-437-9357