จบลงไปแล้วอย่างสวยงาม ค่ำคืนการประกวดรอบตัดสิน นางสาวไทย 2565 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ CentralWorld Live ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นิต้า มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน อายุ 25 ปี น้ำหนัก 58 ก.ก. ส่วนสูง 173 ซ.ม. ชนะใจกรรมการคว้ามงกุฎไปครอง
เธอ เกิดและโตที่ภูเก็ต แม่เป็นคนเชียงราย จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะ Communication arts เกียรตินิยมอันดับ 1 ทุน BU Creative
ปัจจุบันเป็นเซลล์เมเนเจอร์ และครูอาสา ในตำแหน่งวิทยากรพิเศษส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ณ โรงเรียนวัดบางไผ่นารถ อ.บางเลน จ.นครปฐม
Cr. Miss Thailand Organization
ก่อนเข้าสู่เส้นทางการประกวดนางงาม เธอเคยมีน้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม จากนั้นได้พยายามลดน้ำหนักกว่า 40 กก. ในปี 2017 ได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสแกรนด์ภูเก็ต 2017 และเข้ารอบ 12 คนสุดท้าย การประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018
Cr. Miss Thailand Organization
คำถาม ในการประกวดนางสาวไทย รอบ 5 คน ที่ ถาม ว่า
" องค์การเพื่อสตรีสหประชาชาติ ประเมินว่าในทุก 3 เดือน ที่ล็อกดาวน์ จะมีผู้หญิงต้องทนทุกข์ทรมานจากการใช้ความรุนแรงในครอบครัวถึง 15 ล้านคน"
ถ้าคุณเป็นนางสาวไทย เป็นตัวแทนผู้หญิงทั้งประเทศ คุณจะมีส่วนทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลงอย่างไร
นิต้า ตอบว่า
“มีการทำร้ายร่างกายในครอบครัว เกิดขึ้น เพราะเราถูกสอนว่าต้องทน ต้องยอมคน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เราจะต้องต่อสู้ ต้องกล้าที่จะเดินออกมา ช่วยเหลือตัวเอง ฉันจะไม่ทนกับสิ่งนี้ต่อไป กล้าที่จะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งในสังคมนี้”
Cr. Miss Thailand Organization
ส่วนคำถาม การประกวด รอบ 3 คนสุดท้ายที่ ถาม ว่า
" ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้โซเชียลมากที่สุดในโลก ถ้าคุณได้เป็นนางสาวไทยคุณจะใช้คอนเทนต์อะไรนำเสนอให้โลกรับรู้"
เธอตอบว่า
“ต้าจะนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านในชุมชน โพสต์แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ตอนที่ต้าไปอำนาจเจริญ ต้าไลฟ์ขายของให้ชาวบ้าน 1 ชั่วโมง ได้เงิน 20,000 บาท เพราะฉะนั้น 1 ปีในตำแหน่งนางสาวไทย ต้าจะพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยการเป็นทูตทางวัฒนธรรมคนใหม่อย่างแน่นอนค่ะ”
Cr. Miss Thailand Organization
ส่วนคำถามที่นางงามลูกครึ่งต้องตอบบ่อยๆ
นิต้าตอบว่า
“ไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหนก็ตาม เรานับจากการที่เราถูกหล่อหลอมจากวัฒนธรรมแบบไหนมากกว่าเชื้อชาติ อย่างใบหน้านิต้า เรา ไม่มีสิทธิเลือก ฉะนั้นเวลาที่คนเห็นนิต้า ก็จะไม่พูดไทยด้วย นิต้าก็จะบอกว่าคนไทยนะคะ พูดไทยได้นะคะ จะบอกทันทีเลยว่าเป็นคนไทย”
หลังได้รับตำแหน่ง นางสาวไทยคนที่ 53 ประจำปี 2565 เธอก็จะใช้โอกาสนี้ ทำหน้าที่ เป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว รวมทั้งทำเพื่อสังคมไทย เท่าที่เธอจะทำได้