ย้อนฟัง แตงโม นิดา เปิดใจรายการดัง เผยชีวิตมีแค่สองคนพ่อลูก ไร้งาน-หนี้ท่วม

ย้อนฟัง แตงโม นิดา เปิดใจรายการดัง เผยชีวิตมีแค่สองคนพ่อลูก ไร้งาน-หนี้ท่วม

ย้อนฟัง "แตงโม นิดา" เปิดใจผ่านรายการดัง #โหนกระแส เมื่อปีที่แล้ว เผยชีวิตมีกันแค่สองคนพ่อลูก ล้มละลายหนี้ท่วม ซ้ำเจอพิษศัลยกรรมทำหน้าพังไร้งาน แต่เจ้าตัวยังยิ้มสู้ ขณะที่กระแสโซเชียลดราม่าหนักหลัง "แม่แตงโม" เรียกเงินเยียวยา 30 ล้านจบคดี

จากกรณีการสูญเสียดาราสาว "แตงโม นิดา" หลังพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยากระทั่งพบว่าเสียชีวิตนั้น โดยเหตุเกิดในคืนวันที่ 24 ก.พ.65 ซึ่งเมื่อวานนี้(4 มี.ค.65) "แม่แตงโม" ได้ออกมาเปิดใจทุกเรื่องเกี่ยวกับคดีแตงโมในรายการ "โหนกระแส" กับพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย ว่าให้อภัย ไฮโซปอ และ โรเบิร์ต พร้อมเรียกเงินเยียวยา 30 ล้านบาท ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล

 

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ "แตงโม นิดา" ก็เคยไปออกรายการ "โหนกระแส" มาแล้ว โดยเธอมาเปิดใจถึงกรณีศัลยกรรมทำพิษจนใบหน้าผิดรูปไร้งาน แถมยังเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งออกอากาศในวันที่ 11 มี.ค.64 ปีที่แล้ว หัวข้อรายการวันนั้นคือ "ศัลยกรรมเป็นพิษ! "แตงโม" เจอมรสุมใบหน้าผิดรูป บ้านล้มละลาย  EP.900 11 มี.ค.64 #โหนกระแส" โดยแตงโมเปิดใจตอบทุกคำถามว่า

 

ที่มาที่ไปทำไมแตงโมต้องไปทำศัลยกรรม คนก็พูดกันเยอะว่าก็สวยอยู่แล้วไปทำทำไม?

 

แตงโม : เราก็มีชีวิตที่ปกตินี่แหละค่ะ แต่ว่าวันนึงเราประสบอุบัติเหตุ วันนั้นเย็บไป 140 เข็มที่หน้า เมื่อ 14 ปีก่อนบนทางด่วน วันนั้นหลับในและเราก็ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ตัวโมกระเด็นออกจากรถและหน้าก็ไถไปกับถนนทางด่วน ก็ลากไกลเหมือนกัน หางตาซ้ายขาดต้องเย็บติด คางทะลุค่อนข้างเยอะ สมัยเราสาวๆผิวยังเต่งตึงพอเย็บกลับมาก็สวยปกติ แต่เวลาเปลี่ยนไปผิวก็หย่อนคล้อยลง สภาพผิวกับแผลไม่ไปด้วยกันเพราะแผลตึง แต่ผิวเราหย่อน เราก็ต้องไปซ่อมโน่นซ่อมนี่ ทำตรงโน้นตรงนี้เพื่อให้มันดีขึ้น

 

หลังเกิดอุบัติเหตุไปทำอะไรกับใบหน้าบ้าง?

 

แตงโม : ก่อนรถคว่ำเคยฉีดฟิลเลอร์ที่คางกับจมูกมาก่อน แต่หลังรถคว่ำไปแล้วไม่ได้ทำ จนแผลเริ่มเข้าที่หลังจากนั้นเริ่มมีเรื่องแผลที่คางมันดึงรั้ง ผิดรูป มีปัญหาเวลาเข้ากล้องผลมาจากฟิลเลอร์เก่า ซึ่งก็มีคุณหมอหลายๆท่านเตือนว่าฟิลเลอร์คือสารแปลกปลอมอย่างหนึ่ง ถ้าอยากให้อยู่กับเราไปนานๆและจบเลยก็ขูดออกแล้วใส่ซิลิโคนดีกว่า เพราะฟิลเลอร์มันไม่จบ เดี๋ยวก็สลายและไม่เท่ากันด้วย แต่ผลของการทำแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน ผลออกมาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แล้วโมเป็นคนเซ็นให้เขาทำ เลยไม่คิดไปฟ้องร้องใคร

 

ย้อนฟัง แตงโม นิดา เปิดใจรายการดัง เผยชีวิตมีแค่สองคนพ่อลูก ไร้งาน-หนี้ท่วม

 

 

แตงโมเป็นคนเสพติดศัลยกรรม?

 

แตงโม : เหมือนเป็นการเสพติดเพราะโมต้องซ่อมอยู่เรื่อยๆเพื่อให้มันใช้งานได้ยาวนาน ทั้งชีวิตที่ผ่านมาโมทำงานอย่างเดียวไม่มีอย่างอื่นต้องทำ โมต้องอยู่และโมต้องซ่อมหน้าจริงๆ

 

เป็นนักแสดงต้องขายหน้าตาแต่พอทำแล้วไม่เป็นอย่างที่เราคิด?

 

แตงโม : มันเสียหายหนักกว่าคนอื่นเขา ยอมรับว่าเราก็เคยฉีดมาเยอะ หลายตำแหน่ง ขูดค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นหน้ามันก็เลยเสียหาย

 

หลายคนสงสัยมีช่วงที่สวยที่สุดแล้ว ทำไมไม่พอ?

 

แตงโม : บางคนบอกสวย บางคนรุมด่า คางยาวเป็นไอติมเลย นั่นคางหรือมะม่วง ช่วงนั้นหวั่นไหวค่ะ อย่างเช่นตอนถ่ายละคร ถ่ายละครออกมาแล้วแบบ โอ้โห! คางยาวเหมือนคางตูม เกิดจากพังผืดที่สะสมมาเรื่อยๆ ไม่ได้ไปฉีดลดอะไร จนวันนึงโอเคก็ขูดไปเลย

 

พัฒนาการใบหน้าของคุณไล่เรียงมา สวยทุกรูปทำไมมองว่าคางเป็นมะม่วง?

 

แตงโม : แต่ลึกๆก็เป็นคนไม่มั่นใจในหน้าตาตัวเอง ตอนเป็นมะม่วงไม่ใช่ช่วงเวลานี้ค่ะ อันนี้นานแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ปี

 

ล่าสุดที่เกิดขึ้นแตงโมไปทำศัลยกรรมมาที่นึงแล้วเส้นประสาทในใบหน้าถูกตัดขาด อันนี้จริงมั้ย?

 

แตงโม : โมไม่แน่ใจว่ามันถูกตัดขาดหรือแค่เสียหาย ไม่ทราบว่ามันรุนแรงขนาดไหน เพียงแต่โมรู้สึกว่ามันไม่ธรรมชาติแล้ว มันไม่เหมือนเดิม ปากล่างชามากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคนไปทำฟันแล้วไม่หายชาซักที

 

ย้อนฟัง แตงโม นิดา เปิดใจรายการดัง เผยชีวิตมีแค่สองคนพ่อลูก ไร้งาน-หนี้ท่วม

 

เอาเข็มมาจิ้มรู้สึกมั้ย?

 

แตงโม : รู้สึกๆ แต่เหมือนฉีดยาชามาเมื่อวาน แต่วันนี้ควรหายก็ไม่หาย คือหายแค่ 50 เปอร์เซ็นต์

 

ที่บอกใบหน้าผิดรูป อย่างเช่นจมูกผิดรูปมั๊ย?

 

แตงโม : ผิดรูปมั้ยคะ (ถามกลับหนุ่มกรรชัย)

 

ปากคุณเท่ากันมั้ย?

 

แตงโม : ไม่เท่าค่ะ เกิดจากมันชานี่แหละ เส้นประสาทที่ถูกรบกวน เวลายิ้ม ข้างนึงยกสูง ข้างนึงยกต่ำ เวลาพูดเราจะงับคำไม่ได้เท่ากัน การควบกล้ำเมื่อก่อนโมเป็นคนที่ควบกล้ำดีมาก มาถึงทุกวันนี้ค่อนข้างยาก เวลาบังคับริมฝีปากล่างเราก็ไม่ค่อยเป็นไปตามธรรมชาติ

 

เรื่องใบหน้าจะทำยังไงต่อไป จะแก้ไขยังไง มีคุณหมอมาดูแลหรือยัง?

 

แตงโม : มีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกกำลังใจทุกคุณหมอที่แนะนำเข้ามา ที่บอกว่าที่นั่นที่นี่ดีมากๆ ยินดีที่จะรักษาให้ แต่ว่าโมได้ปรึกษาคุณหมอท่านนึงไว้แล้ว และกำลังจะไปแก้ไขในบางส่วน เยียวยาบางส่วนให้ดีขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลา บางคนปีนึง บางคน 3 ปีก็แล้วแต่

 

ย้อนฟัง แตงโม นิดา เปิดใจรายการดัง เผยชีวิตมีแค่สองคนพ่อลูก ไร้งาน-หนี้ท่วม

 

สมมติว่าถ้ามันกลับมาไม่ได้จะทำยังไง?

 

แตงโม : ก็ต้องอยู่อย่างนี้แหละค่ะ สู้ต่อไปค่ะ

 

แตงโมไม่มีงาน?

 

แตงโม : ใช่ เราเกรงใจผู้ใหญ่มากๆ บางคนบอกว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรมากเลย น่าจะทำงานได้นี่ แต่ด้วยเราเห็นหน้าตัวเองทุกวัน เราจะรู้ว่าต้องใช้หน้าตาแสดงละเอียดมาก ถ้าเล่นบทร้ายเราใช้มุมปากในการยิ้มแน่นอน แล้วอันนี้โมทำไม่ได้แล้ว โมก็เกรงใจผู้ใหญ่ แต่งานอื่นภาพนิ่งหรือไม่ได้ซีเรียสกับสีหน้ามากเกินไปนักอันนี้โมก็ยังรับได้ แต่ก็ยังมีวนเวียนไปออกรายการอยู่

 

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกระทบเรื่องงาน?

 

แตงโม : ที่สำคัญที่สุดด้านจิตใจช่วงแรกๆที่เป็นก็เกือบตาย ไม่เคยพูดที่ไหนเลย แต่วันนี้ขอพูดอีกมุมนึงในมุมลึกๆ คุณพ่อเราเพิ่งเสียและหนักมามากๆกับช่วงเวลาก่อนคุณพ่อป่วย เราก็เป็นต่อมหมวกไตล้า เป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องคุณพ่อ โมก็เครียดมาก แล้วคุณพ่อจากไปไว โมกับพ่อมีกันอยู่สองคนบนโลกใบนี้ โมไม่เหลือใครแล้ว โมรู้สึกว่าที่ปรึกษาเราหายไป กำลังใจเราหายไป

โมรักการแสดงมากๆ โมรักการอยู่ในวงการมากๆ แต่วันนึงที่รอยยิ้มเราหายไป เราใจหายเลย เรายิ้มเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เราพูดเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว มันช้ำมาก อย่างพี่หนุ่มเป็นคนอ่านข่าว วันนึงเสียงหายจะทำยังไง มันค่อนข้างแย่มากๆ มันทำให้ ณ เวลานั้นสักประมาณเกือบปีที่แล้วเรื่อยมา อาการซึมเศร้าค่อนข้างหนักมาก ลุกไปไหนไม่ได้ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย ร้องไห้ๆๆๆๆ แต่พอเวลาผ่านไปเราเจอกำลังใจดีๆ ได้เจอคนดีๆ ได้เจอคุณหมอดีๆ ได้เจอคนรอบข้างดีๆ มีลูกที่ให้กำลังใจเรา มีพระเจ้าที่อยู่กับเรา โมก็เริ่มพัฒนาจิตใจตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จนโมออกมาพบเจอสังคมได้

 

ไม่ออกไปไหนเลยเหรอ?

 

แตงโม : เกือบปีค่ะ ไม่โผล่ออกจากบ้านเลย ไม่ได้ออกไปเจอใครเกือบปี ต้องใช้เงินเก่าแล้วลามไปถึงใช้เงินลูก จนตอนนี้รถตู้ขายแล้วค่ะ เขาซื้อเราด้วยการช่วยเหลือ เขาเห็นเราลำบาก รถตู้โมใช้มานานแล้ว รถคู่ใจของโมทำมาหากินมาเป็น 10 ปี เรารักมากจริงๆ แล้วราคามันตกมากแต่เขามาช่วยเราในราคาไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ต้องขอบคุณมากๆ

 

ต้องขายทุกอย่าง?

 

แตงโม : ใช่ค่ะ

 

เห็นว่าบ้านล้มละลาย?

 

แตงโม : มันดูรุนแรงใช่มั้ยคะ บ้านหนูตอนนี้นอกจากขายรถไปแล้ว ใช้เงินเก็บไปแล้ว ตอนนี้ยอมรับตามตรงเลยนะเงินเก็บทั้งบ้านมีไม่เกิน 2 ล้าน เมื่อก่อนโมไม่เคยบริหารเงินเองเป็นคุณพ่อซะเป็นส่วนใหญ่ โมทำงานมาให้เงินคุณพ่อไปจัดแจงทั้งหมด ทั้งบริษัท ทุกอย่าง คุณพ่อเป็นคนไปจ่าย พอคุณพ่อเสียเราเพิ่งมารู้ว่าที่เราผ่อนๆไป เราผ่อนแค่ดอกของบ้าน เราแทบไม่ได้ทบต้นเลย วันนึงก็ไปเช็คกับทางธนาคาร สรุปว่าเรายังค้างยอดเขาอยู่ 10 ล้าน แต่เรามีเงินเก็บ 2 ล้าน และลูกก็ยังต้องเลี้ยง

 

ย้อนฟัง แตงโม นิดา เปิดใจรายการดัง เผยชีวิตมีแค่สองคนพ่อลูก ไร้งาน-หนี้ท่วม

 

จะเลิกเล่นละคร?

 

แตงโม : ไม่ใช่ไม่รับนะคะ แต่เราจะบากหน้าเอาหน้าที่ไม่สมบูรณ์แบบไปทำงานให้เขา เราก็เกรงใจ ถ้ามีผู้ใหญ่เมตตา หนูกราบขอบพระคุณเลย แต่ถ้าจะเอาหน้าตัวเองแบกหน้าไปของาน แต่หน้าเป็นแบบนี้ มันคงยากค่ะ

 

ถ้ามีคนติดต่อมาวันนี้แต่ลดบทบาทมาเป็นตัวสองตัวสาม?

 

แตงโม : ยินดีค่ะ หนูเล่นแบบนั้นมาตลอด เมื่อก่อนก็เล่นนางเอก นางร้าย ตัวเพื่อน ตัวสอง หนูก็เล่นได้

 

ถ้าลดระดับไปมากกว่านั้นอีก?

 

แตงโม : ถ้าลดระดับไปเล่นคนใช้ก็ไม่ไหวนะพี่หนุ่ม ต้องดูว่าบทมีอะไรท้าทายให้เล่นหรือเปล่า ไม่เกี่ยงเลย

 

ชีวิตตอนนี้จะเอายังไงต่อไป งานไม่มี ไม่มีคนจ้าง ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า?

 

แตงโม : ตอนนี้โรคซึมเศร้าดีขึ้นเยอะมากๆ แต่ที่ไม่ค่อยดีคือต่อมหมวกไตล้า มันจะผลิตสารที่ชื่อว่าคอร์ติซอล กับ DHEA เพื่อสู้กับความเครียดของคนเราในแต่ละวัน ทุกคนมีสารเหล่านี้จากธรรมชาติของร่างกาย แต่ของโมไม่หลั่งเลย ตื่นมาปุ๊บเครียดเลย สู้กับอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เมื่อก่อนรักษาจนดีขึ้นรอบนึง พอเครียดรอบนี้ ยังไม่ได้กลับไปเช็คเพิ่ม

 

ใบหน้าจะไปแก้ไขอะไรอีกมั้ย?

 

แตงโม : ต้องทำค่ะ ถ้าอยู่ในลักษณะแบบโมแล้วคุณไม่ทำโมว่าแปลกแล้ว ถ้ารักจะอยู่ในวงการก็ต้องทำ ใครจะบอกว่าโมไม่หยุดทำศัลยกรรมสักทีก็ในเมื่อมันเป็นแบบนี้จะไม่ทำได้ยังไง เราก็ต้องแก้ไขส่วนที่มันผิดพลาด

 

โดนบูลลี่เยอะมาก?

 

แตงโม : โมโชคดีมาก ที่ยุคนี้เป็นยุคที่คนไทยลำบาก เป็นยุคโควิดที่ทำให้คนไทยให้กำลังใจกันมากขึ้น การบูลลี่เลยลดลงไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนโมทำอะไรโมโดนบูลลี่ทุกเรื่อง ปัจจุบันนี้คนรักโมเยอะมาก คนบูลลี่ลดลง นี่เป็นกำลังใจหลักๆเลย

 

ถ้ายังไม่ได้ทำงานจะทำอะไรต่อไป?

 

แตงโม : โมต้องศึกษาเลยว่าธุรกิจทำยังไง โมมีเซรั่มของโมอยู่ตัวนึงแต่เพิ่งเกิด อาจไม่โตพรึ่บพรั่บแล้วรวย ต้องศึกษาเรื่องอื่นๆด้วยที่เราสามารถทำได้ และพยายามทำจิตใจ ร่างกายให้ดีขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งก่อน แล้วเดี๋ยวสติปัญญาจะมาเอง จะคิดได้เองว่าเราจะไปทางไหนที่เราถนัด

 

แต่วันนี้สู้แน่นอน?

 

แตงโม : ต้องสู้ค่ะ หน้าก็ต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อาจจะ 3-5 ปี ก็ต้องทำค่ะ ภาวนาขอให้มันหาย

 

 

คลิปจาก youtube : โหนกระแส (Hone-Krasae) Official