‘Adidas Predator Edge’ นักล่าในตำนานสู่ประวัติศาสตร์บทใหม่
เปิดตำนาน “รองเท้าสตั๊ด” ระดับไอคอนิก ลำดับวิวัฒนาการของ “Adidas Predator” ที่เป็นมากกว่ารองเท้าฟุตบอล สู่นักล่าสายพันธุ์ใหม่ “Adidas Predator Edge”
ขึ้นชื่อว่านักล่า จะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงความเป็นนักล่าอยู่ดี เฉกเช่นดียวกับ Adidas Predator หนึ่งในสุดยอด รองเท้าสตั๊ด ที่ไม่เคยทิ้งคราบความเป็นตำนานของ รองเท้าฟุตบอล ซึ่งหาตัวจับได้ยาก ทั้งเรื่องคาแรกเตอร์ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น หรือพลังการล่าที่สานต่อจากซีรีส์สู่ซีรีส์ จนมาถึงวันนี้พรีเดเตอร์กลับมาในสายพันธุ์ล่าสุด Adidas Predator Edge ยังคงเอกลักษณ์รองเท้าสาย Power กับแถบปั่นแบบใหม่ ช่วยให้ “ปั่นโค้งๆ” ดีกว่าเดิม
ก่อนพบกับตำนานบทใหม่ ย้อนประวัติศาสตร์หน้าเดิมกันก่อน เพราะ “รองเท้าสตั๊ด” รุ่น Predator ค่ายสามแถบอย่างอาดิดาสเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี1994 ถือเป็นการพลิกโฉมวงการรองเท้าฟุตบอลยุคนั้นแบบสุดขั้ว เพราะรองเท้ารุ่นนี้มาด้วยดีไซน์แปลกตา คือมีปุ่มยางริ้วๆ บริเวณปลายเท้า ใช้เพื่อเพิ่มการยึดเกาะผิวของลูกฟุตบอล ช่วยเพิ่มแรงปะทะระหว่างรองเท้ากับลูกฟุตบอล ทั้งในการยิง ส่ง ปั่น หรือแม้กระทั่งจับบอล ซึ่งปุ่มยาง แถบยาง ดังกล่าวได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของรองเท้าในตระกูลพรีเดเตอร์นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ถัดจากนั้นมาเพียงหนึ่งปี ใน ค.ศ.1995 “รองเท้าสตั๊ด” สายพันธุ์นักล่าได้ถือกำเนิดอีกครั้งในรุ่นที่สองคือ Predator Rapier ที่แม้จะโดยรวมคล้ายเดิม ทว่ามีจุดเด่นเพิ่มเติมคือลิ้นรองเท้าแบบยาวที่พับลงมาปิดเชือกรองเท้าได้
ในปีต่อมาๆ แฟนๆ “Predator” จะได้เห็นวิวัฒนาการของรองเท้ารุ่นนี้ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการพัฒนาแถบปั่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีหน้าตาเข้าที่เข้าทางมากขึ้น เช่น การลดขนาดริ้วของปุ่มยางในรุ่นแรกๆ แล้วเพิ่มจำนวนปุ่มโดยแบ่งเป็นโซนๆ ครอบคลุมจุดสัมผัสของหน้าเท้า ข้างเท้า และปลายเท้า
Adidas Predator Rapier
มาจนถึงอีกหนึ่งการอัพเกรดครั้งใหญ่ของ “Predator” ในปี 1988 ซึ่งตรงกับมหกรรมฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส หรือ France 98 ด้วยดีไซน์ใหม่หมด ตั้งแต่แถบสีขาวสามแถบขนาดใหญ่สะดุดตาโค้งรับกับทรงรองเท้า และแน่นอนว่ายังคงเอกลักษณ์แถบปั่นเอาไว้อย่างลงตัว จนทำให้ Predator Accelerator เป็นหนึ่งในรองเท้านักล่าที่ขายสุดตลอดกาล โดยในปีนั้นมีซูเปอร์สตาร์อย่างซีเนอดีน ซีดาน และเดวิด เบ็คแฮม สวมใส่
เอาเข้าจริง “รองเท้าสตั๊ด” ในตระกูล “ Predator” ไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาก็ได้รับความนิยมและขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาตลอด และถือเป็นหนึ่งในซีรีส์รองเท้าฟุตบอลที่ลากยาวมาได้นานจนถึงตอนนี้ก็ร่วม 28 ปี จะเล่าถึงพรีเดเตอร์ทุกรุ่นคงยาวเป็นหางว่าว เพราะยังมีอีกมากมายหลายรุ่นยอดฮิตที่อาจเป็นหนึ่งในดวงใจของใครหลายคน เช่น Predator Precision (ปี 2000) ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในตระกูลพรีเดเตอร์, Predator Mania (ปี 2002) อีกรุ่นดังที่อาดิดาสถึงขนาดต้องรีเมกมาขายใหม่ถึงสองรอบ
Adidas Predator Mania
หรือจะเป็น Predator Absolute (ปี 2006) หนึ่งในพรีเดเตอร์ที่สวยและโฉบเฉี่ยวที่สุด แต่ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ฉาวของวงการฟุตบอลเช่นกัน ทั้งตอนที่ซีดานเอาหัวโขกมาเตรัชซี่ในฟุตบอลโลกปี 2006 หรือการประกาศยุติการใช้หนังจิงโจ้ผลิตรองเท้าพรีเดเตอร์โดยเบ็คแฮม
ถึงจะได้รับความนิยมมากเท่าไร แต่ก็มีช่วงสะดุดเหมือนกัน “รองเท้าสตั๊ด” ตระกูล “Predator” เคยถูกถอดออกจากไลน์การผลิตไปหลังจากมี Predator Instinct ซึ่งออกมาในปี 2014 หรือครบรอบ 20 ปีพอดี จนทำให้รองเท้า Adidas Predator เกือบกลายเป็นตำนานที่ไม่มีลมหายใจ
แต่ถึงแม้อาดิดาสจะพยายามสร้างรองเท้าฟุตบอลซีรีส์ใหม่อย่าง Ace ขึ้นมาแทนที่ แต่ก็ไม่มีอะไรแทน “Predator” ได้จนต้องกลับมาปลุกตำนาน “รองเท้าสตั๊ด” นักล่าขึ้นอีกครั้งในปี 2018 ใน Predator 18 และพัฒนารองเท้าตระกูลมาอย่างต่อเนื่องตราบจนปัจจุบัน ล่าสุดคือ “Adidas Predator Edge”
สำหรับรูปร่างหน้าตาของ “Predator Edge” นั้นแวบแรกดูจะละม้ายคล้ายรุ่นพี่ปี 2012 อย่างเจ้า Predator LZ ซะเหลือเกิน ทั้งโทนสีตัวรองเท้า สีแถบปั่น แตกต่างกันในรายละเอียด
เรื่องแรกที่เป็นจุดเด่นของ “Predator Edge” คือแถบปั่นที่เรียกว่าZone Skin แบ่งเป็น 4 โซน ครอบคลุมจุดสัมผัสสำคัญในการเล่นฟุตบอล เมื่อเพ่งดูระยะใกล้ๆ แถบยางที่ว่ามีความสูงและเหลี่ยมเป็นสันขึ้นมาพอสมควร วางใจได้ในประสิทธิภาพช่วยทั้งยิง คอนโทรล ส่ง หรือจับบอล
ส่วน Outsole หรือพื้นรองเท้าจะคล้าย Predator Freak ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า ในเรื่องตำแหน่งและจำนวนปุ่ม แตกต่างที่ทรงของปุ่มปัจจุบันเป็นทรงสามเหลี่ยม และมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Facet Frame ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความหนาทำให้สัมผัสระหว่างเท้ากับปุ่มรองเท้าเป็นมิตรมากขึ้น เมื่อผนวกกับเทคโนโลยี Power Facet ที่อาดิดาสใส่ตุ้มถ่วงไว้ที่ปลายเท้า ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงมากขึ้นเวลาเตะ ซึ่งในการเตะจริงๆ เทคโนโลยีเหล่านี้เห็นผลจริงๆ
อีกความน่าสนใจใน “Predator Edge” คือการเพิ่มพื้นที่ Toe Box จนกลายเป็น “รองเท้าสตั๊ด” ที่คนหน้าเท้ากว้างก็ใส่ได้สบาย แต่ด้วยความที่เป็นผ้าถัก Primeknit จึงหมดห่วงเรื่องความกระชับและยืดหยุ่นในคราวเดียวกัน แตกต่างจากพรีเดเตอร์รุ่นก่อนๆ หลายรุ่นที่ไม่เป็นมิตรกับคนเท้าบาน เท้ากว้าง
จากตำนานที่เคยเกือบไร้ลมหายใจ สู่การกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นี่เป็นการกลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้คำว่า “นักล่า” ยังเข้มขลังไม่เสื่อมคลาย เพราะนี่คือหนึ่งใน “รองเท้าสตั๊ด” ที่ลงตัวมากที่สุดคู่หนึ่ง ณ ตอนนี้เลยทีเดียว