รู้ทัน "ฝ้าแดด" 4 วิธีป้องกัน 3 วิธีรักษา หญิงเป็นมากกว่าชายจริงหรือ

รู้ทัน "ฝ้าแดด" 4 วิธีป้องกัน 3 วิธีรักษา หญิงเป็นมากกว่าชายจริงหรือ

เคล็ดลับง่ายๆ 4 วิธีป้องกัน "ฝ้าแดด" แบบรู้ทันตัวปัญหา แม้ไม่มีวิธีรักษาแบบหายขาด แต่ก็มี 3 วิธีทำให้ฝ้าแดดจางลงได้ ผิวสวยเพิ่มความมั่นใจใช้ชีวิต

แสงแดดประเทศไทย นอกจากมีบ่อย มีมาก มีเป็นระยะเวลานาน ยังมีความร้อนแรงอีกต่างหาก แค่ยืนอยู่ในที่ที่มีร่มเงา ไอร้อนของแสงแดดยังระอุรู้สึกได้บนใบหน้า ทำให้ใบหน้าสูญเสียความชุ่มชื่น ทำลายสุขภาพผิวหน้าลงไปอีก

ยิ่งถ้าไม่ทา ครีมกันแดด รังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) ในแสงแดดก็ยิ่งทำร้ายผิวหน้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเกิด ฝ้าแดด ที่ทำให้ใบหน้าแทนที่จะดูสวยใสกลับหมองคล้ำ ทำให้หมดความมั่นใจได้ง่ายๆ

 

ก่อนที่จะเป็นรู้ วิธีการรักษาฝ้าแดด เรามารู้สาเหตุที่ทำให้เกิด "ฝ้าแดด" กันก่อน รมย์รวินท์ คลินิก (Romrawin Clinic) ระบุว่า ชื่อก็บอกอยู่แล้ว "ฝ้าแดด" ดังนั้น แสงแดด นี่เองที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด ฝ้า บนผิวหน้า

เพราะ แสงแดด สามารถกระตุ้นการทำงานของ "เอนไซม์ ไทโรซิเนส" ให้มีการผลิต เม็ดสีเมลานิน ซึ่งมีหน้าที่กรองรังสี UVA และ UVB เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นกว่าปกติ จึงเป็นเหตุให้เกิดปัญหา ฝ้าแดด นั้นเอง 

อย่างไรก็ตาม ยังมีสาเหตุและปัจจัยอีกหลายอย่างที่ สามารถกระตุ้นสร้างความรุนแรงของเม็ดสีให้เกิดฝ้าบนใบหน้าของเรา ซึ่งก็มีระดับความลึกและตื้นไม่เท่ากัน

สังเกตได้จาก "สีของฝ้า" ถ้าฝ้าเป็น สีน้ำตาลเข้ม จะเป็นฝ้ากลุ่มที่ยังไม่ฝั่งตัวลึกมาก แต่ถ้าหากเป็นฝ้า สีเทา แสดงว่าเป็นฝ้าที่ฝักรากลึกใต้ผิวหนังเรียบร้อยแล้ว

แต่นอกจากแสงแดดแล้ว ก็ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า

  • สีผิว ก็มีส่วน สำหรับคนที่มีสีผิวเข้มจะมีความเสี่ยงเกิดฝ้าได้ง่ายมากกว่าคนผิวขาวได้ ไม่เว้น
  • ภาวะที่เกี่ยวข้องกับ ฮอร์โมน ส่งผลกระทบให้เกิดฝ้า ก็อย่างเช่น โรคไทรรอยด์ รวมทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเทอโรนในร่างกาย และการใช้ฮอร์โมนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การรักษาด้วยฮอร์โมน
  • อายุ ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปี เป็นช่วงอายุที่เกิดฝ้าได้ง่าย และจะพบในกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 

รู้ทัน \"ฝ้าแดด\" 4 วิธีป้องกัน 3 วิธีรักษา หญิงเป็นมากกว่าชายจริงหรือ

ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการรักษาฝ้าแดดให้หายขาด แต่สามารถรักษาให้ฝ้าจางลงได้ ที่นี้เรามาดูวิธีการรักษาฝ้าแดดแบบง่าย ๆ ที่ทุกสามารถทำได้อย่างแน่นอน

 3 วิธีการรักษาฝ้าแดด 

  1. บำบัดผิวด้วยการทำทรีทเม้นท์ เปรียบเสมือนการทาครีม แต่มีการใช้คลื่นพลังงานเปิดรูขุมขน และผลัดตัวยา/วิตามินต่าง ๆ ลงสู่ชั้นผิว สามารถทำได้บ่อย สัปดาห์ละครั้ง แถมยังช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้น ดูกระชับ ลดเลือนจุดด่างดำ ผิวหน้าชุมชื้น มีชีวิตชีวาอีกด้วย
  2. ใช้การรักษาด้วยการทายา  ยารักษาฝ้ามีหลายชนิด เช่น กลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) กรดอะซีลาอิก(Azelaic Acid) กรดโควิก(Kojic Acid) คอร์ติโคสเตียรอยด์(Corticosteroids)  กรดไกลโคลิก(Glycolic Acid) ซึ้งความเข้มข้นของสารในครีมทา มีปริมาณแตกต่างกัน จึงไม่ควรซื้อใช้เอง เพราะอาจทำให้ผิวหน้าแสบแดงหรือเป็นขุยได้ ควรพบแพทย์ก่อนใช้ยา
  3. ใช้การรักษาฝ้าแดดด้วย "เลเซอร์"  การใช้เลเซอร์รักษาเป็นวิธีที่ค่อนข้างรวดเร็วด่วนทันใจของหลาย ๆ คนมักพบในปัจจุบันที่ใช้เลเซอร์ อาทิ เลเซอร์ระบบคิวสวิตช์ G-Switched Laser หรือ YAG Laser, Dual Yellow, Picoway การทำงานของเลเซอร์ จะส่งตรงพลังงานลงไปในชั้นเม็ดสี ที่เกิดฝ้าโดยตรง แสงของเลเซอร์ จะช่วยทำลายกลุ่มก้อนของเม็ดสีที่รวมตัวกันอย่างผิดปกตินี้ ให้แตกกระตายตัวออกจากกัน และเมื่อเม็ดสีบางส่วนถูกทำลาย ก็จะปล่อยให้ขบวนการของร่างกายมาเก็บกินขิองเสียและขับออกไป แต่ยังไงก็ควรพบแพทย์ก่อนตัดสินใจรักษา เพื่อการรักษาที่ตรงจุดกับปัญหาของแต่ละคน

รู้ทัน \"ฝ้าแดด\" 4 วิธีป้องกัน 3 วิธีรักษา หญิงเป็นมากกว่าชายจริงหรือ

 4 วิธีป้องกันการเกิดฝ้าแดด 
เราได้รู้สาเหตุที่มา/วิธีการรักษา ของฝ้าแดดกันไปแล้ว แต่ใครๆ ก็คงไม่อยากให้เกิดปัญหาฝ้าแดดนี้ ใครที่มีปัญหานี้อยู่แล้วก็คงไม่อยากที่จะให้เกิดซ้ำและเกิดเพิ่ม

วิธีป้องการการเกิดฝ้าแดดที่ดีที่สุด ก็คือ การหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง เป็นหนึ่งวิธีในการป้องกันฝ้าที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด และเคล็ดลับง่ายๆ ตามนี้

  1. หลีกเลี่ยง แสงแดด เมื่อไม่จำเป็น โดยเฉพาะแดดช่วง 10.00-16.00 น. หรือถ้าจำเป็นต้องเจอก็อาจจะสวมหมวก สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังได้อย่างมิดชิด หรือใช้ผ้าคลุม แม้แต่การกางร่ม 
  2. ครีมกันแดดที่มี SPF 30 +  ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB และมีค่าป้องกัน PA++ ขึ้นไป ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 30 นาที
  3. ใช้ครีมสำหรับทาผิวที่มีส่วนผสมของ กรดผลไม้ หรือ ครีมไวท์เทนนิ่ง เพื่อป้องกันผิวหน้าไม่ให้มีสีเข้มขึ้น
  4. ดูแลตัวเองอย่างง่าย ๆ เป็นพื้นฐานเบื้องต้น อาทิ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง/วัน หลีกเลี่ยงความเครียด รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

การดูแลผิวบนใบหน้าของแต่ละคน ก็คงจะแตกต่างกันออกไป ตามรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน ฮอร์โมน อายุ กรรมพันธุ์

บางคนเป็นฝ้าลึก เลือกวิธีการรักษาฝ้าแดดด้วย "เลเซอร์" บางคนเป็นฝ้าตื้นๆ เลือกวิธีการรักษาฝ้าแดด แบบการ "ทายา"

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากย้ำ คือเรื่อง การปฏิบัติตัว ที่เลี่ยงการเกิดฝ้าแดดอย่างเคร่งครัด เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับคุณในอนาคต