งานออสการ์ “เกือบล่ม” เพราะเหตุการณ์ใดบ้าง
ไม่ใช่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเท่านั้นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในงานออสการ์ประจำปี 2022 นี้ แต่งานออสการ์ในอดีตก็เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองในสหรัฐ และเหตุการณ์ระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง มีเรื่องอะไรบ้างต้องตามไปอ่านกัน
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก่อนวันประกาศรางวัลออสการ์ประจำปี 2022 ไม่ว่าจะเรื่องที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ แห่งยูเครน ขอขึ้นกล่าวคำปราศรัยบนเวที, ฌอน เพนน์ นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ออกมาประกาศว่าจะเผารางวัลออสการ์ที่ตัวเองเคยได้รับทิ้ง ถ้าทางคณะกรรมการจัดงานไม่ยอมให้ผู้นำยูเครนขึ้นพูด ฯลฯ
สะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้เวทีออสการ์จะเป็นเวทีประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ แต่คนบันเทิงเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ดังนั้น ในยามที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นบนโลกก็ย่อมส่งผลกระทบถึงตัวงานอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน
วันนี้เราจะพาคุณไปย้อนรอยกันว่าเคยมีเหตุการณ์ทางสังคมและการเมืองใดบ้างที่ทำให้งานออสการ์เกือบล่มกันมาแล้ว เหมือนเช่นที่สงครามรัสเซียถล่มยูเครนส่งผลต่องานออสการ์อยู่ในตอนนี้
- การลอบสังหาร “มาร์ติน ลูเทอร์ คิง”
Credit : Robyn Beck / AFP
“มาร์ติน ลูเทอร์ คิง” นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองคนสำคัญที่สุดของสหรัฐ ถูกลอบสังหารในวันที่ 4 เมษายน 1968 แน่นอนว่าชาวอเมริกันแทบทุกคน รวมถึงนักร้องนักแสดงชื่อดัง ต่างต้องการไปร่วมพิธีศพของเขาด้วยกันทั้งนั้น แต่ปรากฎว่างานศพของคิงมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 9 เมษายน หลังวันประกาศรางวัลออสการ์เพียงแค่วันเดียว
เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาสำหรับศิลปินเบอร์ใหญ่อย่าง ซิดนีย์ พอยเทียร์, หลุยส์ อาร์มสตรอง, ไดฮานน์ แคร์รอล (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พอยเทียร์” ที่นำแสดงในหนังที่ได้เข้าชิงรางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” ถึง 2 เรื่อง ในปีนี้ คือ In the Heat of the Night และ Guess Who's Coming to Dinner) เพราะถ้าหากว่าพวกเขาเข้าร่วมงานออสการ์ก็จะทำให้ไปร่วมงานศพ มาร์ติน ลูเทอร์ คิง ไม่ทัน
ด้วยเหตุนี้เองทางคณะกรรมการจัดงานออสการ์จึงต้องประกาศเลื่อนวันจัดงานออกไปแบบกระทันหัน จากเดิม 8 เมษายน (ก่อนพิธีศพ) ไปเป็นวันที่ 10 เมษายน (หลังพิธีศพ) แถมยังยกเลิกการจัดงาน Governors Ball ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองหลังพิธีประกาศรางวัล รวมไปถึงมีการกล่าวคำไว้อาลัย “มาร์ติน ลูเทอร์ คิง” ในช่วงเปิดงานด้วย
- ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ถูกลอบยิง
Credit : wikipedia
งานออสการ์ครั้งที่ 53 ประจำปี 1981 ต้องถูกเลื่อนออกไปแบบกระทันหันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ภายหลังจากที่ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ซึ่งมีกำหนดจะมากล่าวเปิดงานในปีนั้น ถูกลอบสังหาร
กำหนดการเดิมมีอยู่ว่า พิธีเปิดงานจะเริ่มต้นด้วยคำปราศรัยจากประธานาธิบดีเรแกน ถึงผลกระทบที่งานออสการ์มีต่อทั่วโลก โดยผู้นำสหรัฐ ซึ่งเคยเป็นดาราภาพยนตร์มาก่อน ได้อัดเทปคำปราศรัยนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
พอถึงวันงาน พิธีกรก็กล่าวเปิดงานด้วยการบอกว่าท่านประธานาธิบดีมีอาการดีขึ้นมาก และได้แสดงความปรารถนาที่จะให้ทางผู้จัดงานเปิดเทปคำปราศรัยที่ท่านอัดไว้ล่วงหน้าต่อไปเหมือนเดิม
- สหรัฐก่อสงครามอิรัก
สหรัฐยกพลเข้าบุกอิรักเพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีงานออสการ์ ประจำปี 2003 ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียดว่าสมควรที่จะจัดงานต่อไปตามกำหนดเดิม หรือเลื่อนการจัดงานออกไปดี
เรื่องนี้หนักหนาถึงขนาดที่ Gil Cates โปรดิวเซอร์ผู้จัดงานในปีนั้นออกมาบอกว่า ในบรรดางานที่เขาทำมาทั้งหมด งานนี้หินที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ขณะที่หนังสือพิมพ์ “เดอะ ไทม์ส” ก็พูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า “เป็นช่วงสัปดาห์ที่แปลกประหลาด และเคร่งเครียดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ออสการ์” กันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ผลการตัดสินออกมาให้มีการจัดงานตามกำหนดเดิม แต่ให้ยกเลิกการเดินพรมแดงออกไป
ในงานเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อ ไมเคิล มัวร์ ผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์ ขึ้นไปรับรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากเรื่อง Bowling for Columbine ได้กล่าวประณามสงครามอิรัก และเรียกประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐในครั้งนั้นว่าเป็น “ประธานาธิบดีที่กุเรื่องขึ้นมาเอง” ทั้งยังบอกด้วยว่า “ผมอับอายแทนคุณจริงๆ มิสเตอร์บุช” ซึ่งทำให้เกิดเสียงโห่แสดงความไม่พอใจจากด้านล่าง ทำให้ไมเคิล มัวร์ ต้องรีบลงจากเวทีไป
นอกเหนือจากเหตุการณ์ทางการเมืองทั้ง 3 ครั้งนี้แล้วงานออสการ์ยังเคยถูกเลื่อนออกไปเพราะเหตุการณ์อื่นอีก 2 ครั้ง ได้แก่ เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในแอลเอเมื่อปี 1938 ที่ทำให้ต้องเลื่อนออกไปหนึ่งสัปดาห์
ล่าสุดก็คือเมื่อปี 2021 นี่เองที่การระบาดของโควิด-19 ทำให้การจัดงานออสการ์ครั้งที่ 93 ต้องเลื่อนจากวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2021 ไปเป็นวันที่ 25 เมษายน 2021 ถือเป็นการเลื่อนออกไปมากถึง 8 สัปดาห์กันเลยทีเดียว