รู้จัก “เจดา พินเก็ตต์ สมิธ” ผู้หญิงของ “วิล สมิธ”
นักแสดงนำรางวัลออสการ์ “วิล สมิธ” คงเป็นข่าวตลอดหลายวันที่ผ่านมา ส่วนภรรยา “เจดา พินเก็ตต์ สมิธ” ยังคงไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ นาทีนี้ “ความเงียบ” คือความเห็น
เจดา พินเก็ตต์ สมิธ (Jada Pinkett Smith) นอกจากเป็นศรีภรรยาของพระเอกออสการ์ วิล สมิธ (Will Smith) เธอยังเป็นอะไรอีกหลายอย่าง ตั้งแต่นักแสดง นักร้อง นักแต่งเพลง นักธุรกิจ และเป็นแม่ของลูกชายหนึ่ง ลูกสาวหนึ่ง เจเดนและวิลโลว์ สมิธ
เจดา จากซีรีส์ Gotham (Credit: spalha-factors.com)
เจดา เกิดที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ได้สายเลือดศิลปินจากแม่ ที่เป็นนักแสดงละครทีวี มีเชื้อสายจาไมกันกับบาร์บาโดส พ่อและแม่เป็นวัยรุ่นที่มีเธอก่อนเรียนจบ แม้แต่งงานกันแต่ก็หย่ากัน เจดาอยู่กับพ่อแต่ก็สนิทกับแม่ เธอเล่าว่า เธอกับแม่ใกล้ชิดกัน แม่กับลูกสาวคือความสัมพันธ์ที่ซื่อสัตย์ที่สุด
สาวน้อยจากบัลติมอร์ สนใจการแสดงตั้งแต่เด็ก เธอเข้าเรียนที่ Baltimore School for the Arts เลือกเรียนสาขาเต้นรำและการแสดง ตอนนั้นเธอมีเพื่อนสนิทคือแรปเปอร์ชื่อดัง Tupac Shakur เจดาเล่าว่าตอนรู้จักกับ Tupac เธอเป็นเด็กขายยา เพราะแม่เธอติดยา
เจดา ใน Gotham (Credit: irishmirror.com)
เมื่อเรียนจบ เจดาเข้าวงการบันเทิง แสดงซีรีส์เรื่องแรก True Colors (1990) และอีกหลายต่อหลายเรื่อง มาเล่นจอใหญ่ครั้งแรกกับ Eddie Murphy หนังตลกที่โกยเงินไปเยอะเรื่อง The Nutty Professor (1996) ทำให้นักดูหนังเริ่มรู้จัก
นักแสดงผิวสีหน้าคมแสดงทั้งหนังทีวีและภาพยนตร์หลายเรื่อง พบกับ วิล สมิธ เมื่อปี 1994 เจดา ไปทดสอบบทในซีรีส์เรื่อง The Fresh Prince of Bel-Air บทที่ว่าคือแสดงเป็นแฟนพระเอก วิล เจดาไม่ได้บทนั้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นของคู่รักในเวลาต่อมา
Credit: click2houston.com
ปี 1997 ทั้งคู่เข้าพิธีวิวาห์กัน ตอนนั้นเจดาตั้งท้องได้ 3 เดือน เธอมาเล่าภายหลังว่าจริง ๆ แล้วไม่อยากแต่ง ในขณะที่ วิล สมิธ เป็นพ่อหม้ายลูกติด อยากแต่งมาก เขาฝันอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วเขาก็เป็นเช่นนั้น...
ตลอดชีวิตสมรส ทั้งคู่ก็มีเรื่องจุกจิกกวนใจอยู่บ้าง (ซึ่งถูกใจกระจอกข่าวยิ่งนัก) เช่น เจดา ออกมาสารภาพว่าเคยมีความสัมพันธ์กับนักร้องหนุ่มเพื่อนของลูกชาย ในช่วงที่วิลและเจดาแยกกันอยู่ ส่วนวิล ก็เคยมีข่าวพัวพันกับนักแสดงสาว Margot Robbie หลังจากแสดงหนังด้วยกันใน Suicide Squad ช่วงนั้นกระจอกข่าวเล่าว่า วิล ไม่ได้สวมแหวนแต่งงาน
Credit: FB: Jada Pinkett Smith
ปี 2015 ก็มีข่าวเตียงหัก กระนั้นทั้งคู่ก็กลับมารักกันเหมือนเดิม ชีวิตคู่ก็ธรรมดานะ มีทะเลาะกันบ้าง ห่าง ๆ กันบ้าง เจดายอมรับว่าตั้งแต่ตกลงแต่งงาน สามีภรรยาก็ยอมรับว่าเป็นการร่วมชีวิตกันแบบ Open Marriage หมายถึงเปิดกว้าง ให้อิสระ เกิดใครอยากไปมีชีวิตใหม่ เจดา บอกว่า...ก็โต ๆ กันแล้ว ทุกคนเป็นเจ้าของตัวเอง
Credit: FB: Jada Pinkett Smith
ชีวิตคู่ผ่านมรสุมร้อนหนาวมาตลอด 25 ปี ทำอะไรร่วมกันหลายอย่าง อาชีพเหมือนกันย่อมเข้าใจกัน ทั้งคู่ต่างร่วมสนับสนุนในองค์กรการกุศลหลายแห่ง เช่น ตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กที่ต้องออกจากโรงเรียนด้วยเงื่อนไขบางอย่าง (อย่างเช่นพ่อแม่ของเจดาที่มีลูกตอนวัยเรียน) ยังมีกองทุนช่วยผู้ป่วยโรค SLE สนับสนุนโรงเรียนสอนศิลปะ และบริจาคเงินช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ
Credit: toofab's.com
วิล แสดงภาพยนตร์มีผลงานต่อเนื่อง ในขณะที่เจดา ทำหลายอย่าง เธอก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น Maja เมื่อปี 1994 ออกแบบเสื้อยืดและเดรส สโลแกนคือ Sister Power และเปิดบริษัทผลิตเพลงโดยผู้หญิง 100% ไปทำรายการทีวีประเภททอล์คโชว์ก็ดัง รวมถึงก่อตั้งวงดนตรีแนว Nu Metal ชื่อวง Wicked Wisdom รับบทนักร้องนำ เจดาบอกว่าตอนเด็ก ๆ ชอบ Metallica และ Guns N’ Roses มาก นี่คือแรงบันดาลใจ
นอกจากนี้ยังตั้งบริษัทโปรดักชั่นผลิตงานดนตรี ด้วยลูก ๆ ก็เดินตามรอยพ่อแม่ คือเป็นนักแสดง-นักร้อง ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น...
เจดา ใน The Matrix (Credit: wegotthecovered.com)
นักดูหนังส่วนใหญ่จะรู้จัก วิล สมิธ แต่ที่จริง เจดา พินเก็ตต์ สมิธ เล่นหนังเยอะมาก ยกตัวอย่างหนังดังที่รู้จักกัน เช่นหนังแฟรนไชส์ The Matrix Revolutions (2003), Resurrections (2021), พากย์เสียงฮิปโปสาวใน Madagascar (3 ภาค), รับบท FBI ใน Angel Has Fallen (2019) และบทที่คนจดจำเพราะสวยเฉียบ เฟี้ยวดุ ในซีรีส์ Gotham (2014-2017) รับบทตัวร้าย Fish Mooney เป็นเรื่องของบรู๊ซ เวย์น วัยเด็กก่อนจะเป็น Batman
เมื่อปี 2018 เจดาเปิดเผยว่าเธอเป็นโรคผมร่วง (Alopecia) และถ่ายวิดีโอลง IG เมื่อปี 2021 ว่าโกนผมออกหมดแล้ว โรคนี้หมอบอกว่าเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เครียด ฮอร์โมนผิดปกติ ขาดวิตามิน ระบบภูมิคุ้มกันเซลล์เม็ดเลือดขาวเสียหาย ในอเมริกามีผู้ป่วยโรคนี้ราว 6.6 ล้านคน พบมากในคนผิวดำ ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก
Credit: huffpost.com
ไม่มีใครควรหยิบยกความเจ็บปวดไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจของคนอื่น มาล้อเล่นเรียกเสียงหัวเราะ วิล สมิธ ก็คิดเช่นนั้น ถึงแม้เขาจะใช้ความรุนแรงตอบโต้ แต่ก็แมนพอที่ออกมาขอโทษ และยอมรับผลที่จะตามมา
เพราะนี่ถือวิถีแห่งสุภาพชน ...