“Take Your Seat, together ไปด้วยกัน” นิทรรศการภาพถ่ายเชื่อมโยง 2 แผ่นดิน
ชมภาพถ่ายความเหมือนในความต่าง ในนิทรรศการฉลอง 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตแคนาดา-ไทย จากฝีมือ 2 ช่างภาพชาวแคนาดาเดินทางจากยอดเขาจรดผืนทะเลในประเทศไทย ความมหัศจรรย์จับคู่ธรรมชาติให้เหมือนกันแม้ 2 แผ่นดินอยู่คนละซีกโลก
กำลังเปิดให้เข้าชมอยู่ในขณะนี้ สำหรับ นิทรรศการ “Take Your Seat, together /ไปด้วยกัน : ถ่ายทอดเรื่องราวของประเทศแคนาดาและไทยผ่านมุมมองของคนไกลที่มาชวนไปด้วยกัน” เป็นนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตของประเทศแคนาดาและประเทศไทย
นิทรรศการนี้เป็น “นิทรรศการภาพถ่าย” แต่ละภาพแสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน แม้ว่า ความห่างทางภูมิศาสตร์ และ ความแตกต่างทางสภาพภูมิอากาศ จะแยกสองประเทศห่างจากกัน แต่หลายสิ่งที่อยู่ใน ค่านิยม ทัศนคติ และจิตวิญญาณของผู้คน ได้เชื่อมโยงสองประเทศที่อยู่ห่างกัน 11,604 กิโลเมตร ไว้ด้วยกัน
ภาพถ่ายในนิทรรศการ “Take Your Seat, together ไปด้วยกัน” เป็นผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพสองพ่อลูกชาวแคนาดาที่เดินทางถ่ายภาพผลงานมาแล้วทั่วโลก แรนดี้ แวนเดอร์สตาร์เรน (Randy VanDerStarren) ในฐานะช่างภาพหลักผู้ที่ริเริ่มการเล่าเรื่องราวทั่วโลกผ่านภาพชุด “Take Your Seat” และลูกชายของเขา สเปนเซอร์ แวนเดอร์สตาร์เรน (Spencer VanDerStarren) ในฐานะช่างภาพรองและผู้กำกับงานดิจิทัลของนิทรรศการครั้งนี้
ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายทอดเรื่องราวมุมมองต่างๆ จากสถานที่ที่ทั้งสองได้เดินทางไปทั้งในประเทศแคนาดาและประเทศไทยก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระดับรุนแรง โดยใช้สัญลักษณ์ เก้าอี้สีแดง ตั้งเด่นอยู่ภายในภาพ
มร.แรนดี้ กล่าวว่า เก้าอี้สีแดง คือการเชิญให้ทุกคนไปนั่งอยู่ท่ามกลางภาพ และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรื่นเริงและความรับผิดชอบร่วมกันที่จะ รักษาโลก ตัวเรา การดูแลกันและกัน และเพิ่มคำบรรยายที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางศิลปะ
เชิญนั่ง "เก้าอี้สีแดง" แล้วแบ่งปันการรักษ์โลกไปด้วยกัน
ภาพถ่ายในนิทรรศการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง ความงามที่แท้จริง และมี เอกลักษณ์ รวมทั้ง ความเหมือนของประเทศไทยและแคนาดา แม้สองประเทศต่างกันด้วยสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศ สะท้อนความพิเศษและความหลากหลายของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติในสองประเทศ
ลองมาชมตัวอย่างผลงานภาพถ่าย "ความเหมือนในความต่าง" จากนิทรรศการ “Take Your Seat, together ไปด้วยกัน” ครั้งนี้
ภาพถ่ายกรุงเทพฯ และกรุงโทรอนโต
"อะไรคือสิ่งที่เชื่อมโยงเรากับเมืองแห่งหนึ่งเข้าด้วยกัน กรุงเทพฯ และโทรอนโตมีคำตอบร่วมกันมากมาย เหนือสิ่งอื่นใดคือความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอนว่า ณ ที่แห่งนี้ สิ่งใดก็เป็นไปได้" คือคำบรรยายที่ มร.แรนดี้ ให้ไว้กับภาพถ่ายกรุงเทพฯ และกรุงโทรอนโต เมืองเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่ริมสายน้ำ
ฝูงวัวย่านชนบทของแคนาดา กับ ฝูงวัวชานเมืองตรัง
ฝูงวัว..ความเหมือนในความต่างของสองแผ่นดิน "เราตามหาฝูงวัว แล้วเราก็พบพวกมันอยู่ท่ามกลางต้นยางและต้นหญ้าสูงแถบชานเมืองตรัง เราได้พบฝูงวัวอีกครั้งที่ทางหลวงทรานส์-แคนาดา ในชนบทของ ซัสแคนเชวัน ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน เหล่าวัวของทั้งสองประเทศเดินมาที่เก้าอี้ของเราอย่างช้าๆ ความอยากรู้อยากเห็นเหมือนๆ กัน ทำให้เราเชื่อมโยงกันได้"
สีของแม่น้ำในแคนาดาและอุทยานแห่งชาติเขาสก
ผืนน้ำคนซีกโลก แต่มีสีเดียวกันได้ "กระแสน้ำในแม่น้ำยูคอนเป็นสีเขียวมรกต อุทยานแห่งชาติเขาสกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีก็มีน้ำสีเดียวกันและงดงามเสมอกัน เราลื่นไหลไปตามกระแสน้ำแห่งความเป็นไปได้ เชื่อมโยงผืนแผ่นดิน และเชื่อมโยงกันและกัน" มร.แรนดี้และมร.สเปนเซอร์ บรรยายเอาไว้
ป่าจังหวัดตรังกับเทือกเขาร็อกกี้
เช่นเดียวกับที่ความมหัศจรรย์ได้จับคู่ยอดเขาในป่าของจังหวัดตรัง กับเทือกเขาร็อกกี้ในแอลเบอร์ตาเข้าด้วยกัน ความเงียบสงบหลอมรวมแหล่งน้ำในเมืองร้อนกับทะเลสาบน้ำแข็ง ธรรมชาติสร้างความประทับใจที่เป็นหนึ่งเดียวและยืนยาวโดยไม่ได้ตั้งใจ
มร.แรนดี้ แวนเดอร์สตาร์เรน (Randy VanDerStarren)
มร.แรนดี้ ให้สัมภาษณ์กับ “Art & Living กรุงเทพธุรกิจ” เกี่ยวกับ “ความต่างในความเหมือน” ที่เกิดขึ้นผ่านการถ่ายภาพชุดนี้ว่า เขาได้ถ่ายรูปสวยๆ ทั้งในประเทศไทยและแคนาดา เมื่อแยกกันดูก็สวยงามทั้งสองภาพ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ ในความต่างมีความเหมือน โดยยกตัวอย่าง ภาพป่าในบริติชโคลอมเบีย กับ ภาพป่าในสุราษฎร์ธานี เมื่อนำมาวางข้างๆ กัน มีเก้าอี้ตัวเดียวกันในทั้งสองภาพ ผู้คนที่ได้ชมภาพบอก “เป็นไปไม่ได้ ประเทศเราอยู่ห่างกันนับหมื่นกิโลเมตรและตั้งอยู่คนละภูมิศาสตร์โลก” แต่ทั้งสองภาพดูเหมือนเป็นป่าแห่งเดียวกัน
ภาพป่าในสุราษฎร์ธานีกับภาพป่าในบริติชโคลอมเบีย
นอกจากความต่างทางภูมิศาสตร์โลกที่กลับมีความเหมือนกันได้ ในความต่างทางวัฒนธรรม ก็ยังมีจุดที่เชื่อมโยงคล้ายกัน
“ผมมีความเชื่อว่า ไม่ว่าเราจะมีความต่างกันที่ภาษาพูด อาหารที่เรากิน แต่คนเราเชื่อมโยงกันด้วยระดับที่ลึกมากกว่านั้น ยิ่งผมเดินทางมากเท่าใด ยิ่งผมถ่ายภาพมากเท่าใด ผมก็ยิ่งเชื่อว่า มีหลายสิ่งที่เราเหมือนกัน นั่นก็คือเราแต่ละคนต้องการเป็นที่รักของใครสักคน ได้รับการนับถือ เราอยากให้ครอบครัวเติบโตอย่างมั่นคง ปลอดภัย และได้รับการศึกษา ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ จุดใดของโลก...
ผมเดินทางมายังประเทศไทย ผมคือผู้ที่มาจากต่างแดน แต่ผมรู้แล้วว่าผู้คนเป็นอย่างไร ตรงที่หัวใจเราเหมือนกัน และมันทำให้ง่ายสำหรับการค้นหาจุดเชื่อมกันทางวัฒนธรรม ง่ายสำหรับการค้นหาแง่มุมที่สวยงาม ผู้คนถูกกำหนดให้ต่างกันด้วยที่ตั้งภูมิศาสตร์ แต่คนไทยมีไมตรีจิต จิตใจโอบอ้อมอารีย์ ผมหลงเสน่ห์ในสิ่งเหล่านี้ เพราะเรามีหัวใจที่เหมือนกัน...
ด้วยกล้องถ่ายรูปของผมและวิธีการทำงานของผม ผมรู้ว่ากำลังมองหาอะไร” มร.แรนดี้ กล่าวหลังจากมีโอกาสเดินทางถ่ายรูปในประเทศไทยเพื่อสร้างสรรค์ นิทรรศการภาพถ่าย ครั้งนี้
ภาพเรือน้อยล่องผ่านพรมที่มีชีวิตพร้อม "เก้าอี้สีแดง"
นิทรรศการ “Take Your Seat, together ไปด้วยกัน : ถ่ายทอดเรื่องราวของประเทศแคนาดาและไทยผ่านมุมมองของคนไกลที่มาชวนไปด้วยกัน” เปิดแสดงให้ชมแล้วตั้งแต่ วันนี้ - 30 เมษายน 2565 ณ ICONLUXE Pop Up Space ชั้น 1 ไอคอนสยาม
เป็นนิทรรศการที่ร่วมกันจัดโดย สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย, ไอคอนสยาม และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์, โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ, ฟูจิ ฟิลม์ ปรินท์ไลฟ์, สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์, ไฟลท์เซ็นเตอร์, มูลนิธิเส้นทางธรรมชาติแห่งแคนาดา, สมาคมภูมิศาสตร์แห่งแคนาดา และกระทรวงการต่างประเทศ
ยังมีภาพถ่ายในประเทศไทยอันน่าจดจำอีกหลายภาพของสองช่างภาพชื่อดังจากแคนาดาในมุมมองที่คนไทยอาจนึกไม่ออกว่าคือที่นี่หรือ เพราะไม่เคยเห็นภาพจากมุมนี้มาก่อน
ร่วมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 60 ปี ระหว่างประเทศแคนาดาและไทยได้ด้วยการชมนิทรรศการตามวันเวลาข้างต้น
* * * * * *
มร.แรนดี้ และ มร.สเปนเซอร์ แวนเดอสตาร์เรน
เกี่ยวกับ มร.แรนดี้ แวนเดอสตาร์เรน
ช่างภาพหลักและผู้ก่อตั้งโครงการถ่ายภาพ Take Your Seat
บัณฑิตสาขาภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยควีนส์ คิงส์ตัน ออนแทรีโอ ได้ร่วมงานกับบริษัทโฆษณาข้ามชาติหลายแห่งในแคนาดาและในต่างประเทศ อาทิ โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์, ยัง แอนด์ รูบิแคม, บีบีดีโอ และสกาลี แมคเคบ สโลฟส์ โดยผลิตผลงานโฆษณาให้กับแบรนด์ระดับโลกอย่างโคคา-โคล่า, เมอร์เซดีส, คาร์ลส์เบิร์ก เอเอส, และคราฟท์ ฟูดส์
การศึกษาด้านพาณิชย์ศิลป์และการโฆษณา ประกอบกับฉันทะที่มีให้กับการถ่ายภาพ ทำให้แรนดี้รังสรรค์ภาพที่มีเอกลักษณ์ที่นอกจากจะโดดเด่นในโลกทัศนศิลป์ ภาพถ่ายยังเป็นการร่วมแบ่งปันเรื่องราวกับผู้ชมทางอารมณ์ในระดับปัจเจก ภาพถ่ายและเรื่องราวที่ถ่ายทอดได้จัดแสดงในห้องแสดงผลงานศิลปะที่เป็นที่รู้จักระดับสากล, สนามบิน, สถานทูต และแม้กระทั่งที่โตรอนโต้ ซิมโฟนี่
มร.แรนดี้ และ มร.สเปนเซอร์ แวนเดอสตาร์เรน วันเปิดนิทรรศการที่ไอคอนสยาม
เกี่ยวกับ มร.สเปนเซอร์ แวนเดอสตาร์เรน
ช่างภาพและผู้กำกับดิจิทัล
บัณฑิตสาขาธุรกิจระหว่างประเทศที่ยั่งยืนจากวิทยาลัยวิทธิเออร์ ลอส แองเจอลิส แคลิฟอร์เนีย มร.สเปนเซอร์เคยพำนักและทำงานในกรุงโตเกียว, กรุงปารีส, ลอส แอนเจลิส, โทรอนโต และมอนทรีอัล
มุมมององค์รวมของ มร.สเปนเซอร์ต่อการพิทักษ์โลกฉายชัดผ่านทางรูปถ่ายและผลงานดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาในฮ่องกง หรือชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ภาพผลงาน together (ไปด้วยกัน) ก่อตัวขึ้นมาจากความรักโลก และความสามารถของช่างภาพในการถ่ายทอดความรักนั้นผ่านทางภาพได้ จิตรกรรมฝาผนังและศิลปะดิจิทัลผนังขนาดใหญ่, แกลลอรี่พรินท์และคอนเทนต์ออนไลน์ ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของเขาในการผลิตงานศิลปะ
พ่อและลูกชายได้ร่วมกันทำให้ เก้าอี้สีแดง เปล่งเสียง เป็นเสียงที่ใช้ภาษาสากลถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียว ความรับผิดชอบ และพลังของปัจเจก แบ่งปันให้กับผู้ชมทั่วโลก
แรนดี้และสเปนเซอร์ได้เป็นตัวแทนแคนาดาในงานเอ็กซ์โปปี 2020 ที่ดูไบ รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศแคนาดาในการประชุมสูงสุดของทวีปอเมริกาที่ ลอส แอนเจลีส ในเดือนมิถุนายน 2565
ภาพถ่ายชุด together (ไปด้วยกัน) ได้จัดแสดงในรูปแบบอินสตอลเลชั่นที่สนามบินนานาชาติโทรอนโต ซึ่งมีการจัดแสดงภาพประเทศไทยถึงสองครั้งด้วยกัน
เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย, รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม, ผู้บริหารไอคอนสยาม, ศิลปิน
อิทธิพล คุณปลื้ม รมต.กระทรวงวัฒนธรรม เยี่ยมชมภาพถ่ายนิทรรศการ โดยมี มร.แรนดี้ นำชม
นึกออกมั้ยที่นี่คือ "ตลาดนัดรถไฟรัชดาในกรุงเทพฯ" คุณหา "เก้าอี้สีแดง" เจอมั้ย
"เก้าอี้สีแดง" กับวันปีใหม่ไทย วันปีใหม่ที่โทรอนโตก็มีคลื่นมนุษย์แบบเดียวกัน
ICONLUXE Pop Up Space ชั้น 1 ไอคอนสยาม