2 ศิลปินไทย สร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยจาก "มรดกวัฒนธรรม" บนเต็นท์แคมป์ปิ้ง
“The Camp of the Wayfarers in Love” นิทรรศการเวิลด์ทัวร์ ศิลปะร่วมสมัยจาก "มรดกวัฒนธรรม" หลายเชื้อชาติ ประเดิมด้วยผลงานจาก 2 ศิลปินไทยชื่อดัง อินสนธิ์ วงค์สาม, รำพัด โกฏแก้ว ชมได้วันนี้ก่อนจัดแสดงต่อไปที่จีน
นิทรรศการ “The Camp of the Wayfarers in Love” ริเริ่มโดยศิลปินชาวอิตาลี ชื่อ "Tarshito" ด้วยแรงบันดาลใจในการใช้ศิลปะเพื่อสื่อถึงการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของชาวท้องถิ่น รวมถึงมรดกที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของแต่ละประเทศ
รากฐานในการสร้างผลงานศิลปะในนิทรรศการนี้ เริ่มจากการที่ Tarshito เดินเท้าเข้าไปศึกษาและทำความเข้าใจความเป็นมาของแคว้นอะพิวเลีย (Apulia) ประเทศอิตาลี และเชื่อมโยงความรู้ที่ได้เข้ากับสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมสากล
ในนิทรรศการ “The Camp of the Wayfarers in Love” ศิลปิน Tarshito เข้าไปสำรวจแนวคิดของชนเร่ร่อน (nomadism) ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานที่ประกอบไปด้วย เต็นท์แคมป์ปิ้ง ร่วมกับศิลปินและช่างฝีมือจากหลากประเทศทั่วโลก
และ ศิลปินไทย เป็นศิลปินประเทศแรกที่ได้เข้าร่วมในการสร้างสรรค์นิทรรศการ “The Camp of the Wayfarers in Love” ครั้งนี้
เต็นท์แคมป์ปิ้งที่ร่วมการสร้างสรรค์โดย Tarshito, อินสนธิ์ วงค์สาม และ รำพัด โกฏแก้ว
Veronica Caciolli ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ในนิทรรศการนี้ ได้พา "Tarshito" มาพบกับศิลปินชาวไทย 2 ท่านผู้เต็มไปด้วยความสามารถ ได้แก่ อินสนธิ์ วงค์สาม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ประติมากรรม ประจำปี พ.ศ.2542 และ รำพัด โกฏแก้ว
ซึ่งแต่ละท่านก็มีการสร้างงานศิลปะที่มีพื้นฐานจากการเดินเท้าเข้าไปคลุกคลี ศึกษา และสืบทอดผลงานช่างฝีมือท้องถิ่นอย่างจริงจัง สมชื่อนิทรรศการที่สร้างสรรค์ขึ้นจาก "ความรัก" ที่ได้พบเจอมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่นของ ผู้เดินทาง โดยเฉพาะเดินทางโดยใช้การย่ำเท้า (Wayfarers)
ศิลปินทั้งสามได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงานจนเกิดเป็น เต็นท์แคมป์ปิ้ง 2 หลัง พร้อมด้วยภาพวาดของ Tarshito และ อินสนธิ์ วงค์สาม ร่วมด้วยผ้าไหมล้านนาโบราณคัดสรรโดย รำพัด โกฏแก้ว
Tarshito ศิลปินชาวอิตาเลียน
Tarshito
Tarshito เกิดปีพ.ศ.2495 ที่แคว้นปุลยา (Puglia) ประเทศอิตาลี เขาจบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรม ที่มหาวิทยาลัยฟลอเรนซ์
หลังจากท่องเที่ยวที่ประเทศอินเดียในปีพ.ศ. 2522 เขาได้ออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกด้วยความรู้สึกประทับใจในการได้เข้าไปสัมผัสวัฒนธรรมอันหลากหลาย
ผลงานของเขาแสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของการเดินทาง ทั้งภายในและภายนอกของขอบเขตของกาล-อวกาศ แห่งความเป็นจริง
ผลงานของ Tarshito เคยจัดแสดงที่แกลลอรีและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก เช่น Venice Biennale (2011) , Bengal Art Foundation ประเทศบังกลาเทศ และ Museum of Sacred Art ประเทศเบลเยียม
ลายเส้นของ อินสนธิ์ วงค์สาม บนเต็นท์ในนิทรรศการฯ
อินสนธิ์ วงค์สาม
อินสนธิ์ วงค์สาม เกิดวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2477 ที่จังหวัดลำพูน ประเทศไทย เป็นบุตรของนาย "หมื่น" ผู้มีเชื้อสายเจ้าเมืองยอง ย้ายถิ่นมาจากทางตอนใต้ของประเทศจีน นายหมื่นเป็นช่างทองผู้มีฝีมือชั้นสูงและอินสนธิ์ได้สืบทอดความรู้ทักษะทางช่างเหล่านี้
อินสนธิ์ เป็นลูกศิษย์ของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สร้างผลงานประติมากรรม จิตรกรรม วาดเส้น และภาพพิมพ์ไว้เป็นจำนวนมาก และเป็นผู้ขี่สกูตเตอร์แลมเบรตต้าออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ฟลอเรนซ์ ในปีพ.ศ.2505 เพื่อตามรอยอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้เป็นอาจารย์ของเขา
ผลงานของ อินสนธิ์ ได้รับการชื่นชมทั่วประเทศไทย รวมถึงนักนิยมศิลปะในประเทศญี่ปุ่น อินเดีย ปากีสถาน ตุรกี ออสเตรีย สหรัฐอเมริกา บราซิล ฝรั่งเศส จีน และอิตาลี
นอกจากนั้น อินสนธิ์ ยังได้รับยกย่องให้เป็นผู้บุกเบิกภาพพิมพ์แกะไม้ยุคแรกๆ ในประเทศไทย ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย
ผ้าไหมล้านนาโบราณ คัดสรรโดย รำพัด โกฏแก้ว สร้างสรรค์บนเต็นท์ในนิทรรศการฯ
รำพัด โกฏแก้ว
รำพัด โกฏแก้ว ผู้อุทิศเวลาหลายปีทำงานเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา ผ่านการก่อตั้ง "บ้านม่อนฝ้าย" ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมล้านนาที่จังหวัดเชียงใหม่
"บ้านม่อนฝ้าย" ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่ออนุรักษ์มรดกเมืองเหนือ และ ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น การบูรณะชิ้นงาน การแต่งกายแบบล้านนา งานเลี้ยงต้อนรับแบบล้านนา และพิธีแต่งงานแบบล้านนา
นอกจากนั้น ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ถ่ายทอดศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นสู่นักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัย บุคคลทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
โครงการ Ne-Na Contemporary art space ได้รับความร่วมมือจาก ศาสตราจารย์ชูกิจ ปานมงคล ซึ่งเป็นโครงการศิลปะนานาชาติที่ใช้ "ม่อนฝ้าย" ในการต้อนรับศิลปินจากทั่วโลกให้เข้ามา
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ “The Camp of the Wayfarers in Love”
Veronica Caciolli
Veronica Caciolli เกิดปีพ.ศ.2520 ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ นักวิจารณ์ ภัณฑารักษ์ และอาจารย์ผู้บรรยาย โดยเธอให้ความสนใจในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะร่วมสมัยและของโบราณ
เวอโรนิกา จบการศึกษาทางด้านปรัชญาจากมหาวิทยาลัยฟลอเรนซ์และมนุษยศาสตร์ที่ DAMS (Disciplines of Visual Arts, Music, Theatre, TV, and Cinema – มหาวิทยาลัยโบโลญญา) หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อทางด้านภัณฑารักษ์และการวิจารณ์ศิลปะ ประวัติศาสตร์ศาสนา มานุษยวิทยาศิลปะและลัทธิตะวันตกที่เบอร์ลิน โรม มิลาน และลอนดอน
เวอโรนิกา ได้จัดนิทรรศการมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงที่ Mart Museum และ Palazzo Pretorio Museum ประเทศอิตาลี "Re-Enchanting the World" เป็นนิทรรศการครั้งล่าสุดของเธอซึ่งจัดที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565
อินสนธิ์ วงค์สาม กับลายเส้นบนเต็นท์
ลายเส้นบนเต็นท์ในนิทรรศการ The Camp of the Wayfarers in Love
รำพัด โกฏแก้ว กับผ้าทอล้านนาในนิทรรศการครั้งนี้
นิทรรศการ The Camp of the Wayfarers in Love
นิทรรศการ “The Camp of the Wayfarers in Love” จัดแสดง ณ ห้อง 248 ชั้น 2 ศูนย์การค้า ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก สี่พระยา กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 22 กันยายน – 22 ตุลาคม 2565 เข้าชมฟรี
นิทรรศการที่ประเทศไทยในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนของสถานทูตเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และองค์กรความร่วมมือ แคว้นอะพิวเลีย ประเทศอิตาลี
หลังจากจัดแสดงที่ประเทศไทย นิทรรศการ “The Camp of the Wayfarers in Love” จะจัดแสดงอย่างต่อเนื่องที่จีน อินเดีย อินโดนีเซีย บราซิล ซานโตโดมิงโก อิสราเอล และบังกลาเทศ