Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

Night at The Museum festival 2023 มิวเซียมสยาม จัดนิทรรศการพิเศษ รวมมิตรเรียนรู้ ‘ช้างไทย’ ผ่านความเชื่อหลากวัฒนธรรม ฟังเรื่องเล่ามนตราพระเพทราชา ทางช้างเผือก ช้างศึกส่งออก คเณศจตุรถีถึงกางเกงลายช้าง สักการะหุ่นพระคเณศจากตระกูลโจหลุยส์ ชม Mapping เรื่องช้างบน BOB

มิวเซียมสยาม (Museum Siam) เข้าร่วม เทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน หรือ Night at The Museum festival 2023 เป็นครั้งที่ 13 ด้วยการจัดนิทรรศการพิเศษที่มีชื่อค่อนข้างยาวว่า 

“งานช้างไปพลางก่อน An Elephantastic Night at the Museum : Tales from the Trunk สัมผัสเรื่องเล่าจากปลายงวงเจ้าสี่ขางางอน จากธรรมชาติสู่อำนาจทางวัฒนธรรม”

นิทรรศการพิเศษนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวของ ช้างไทย สัตว์บกขนาดใหญ่ชนิดเดียวที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคนไทยอย่างลึกซึ้งมาช้านาน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย ใบปิดงาน Night at The Museum festival 2023 ของ มิวเซียมสยาม

“Night at the Museum ปีนี้ มิวเซียมสยามจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ ‘ช้าง’ เพราะสื่อถึงประเทศไทย และความเป็นมาต่างๆ โดยนำมาตีความเป็นกิจกรรมสนุกสนาน ส่งต่อความรู้แบบพิเศษ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์พิเศษ” นางสาวสุขุมาล ผดุงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (Museum Siam) กล่าว

ขณะที่นางสาวชนน์ชนก พลสิงห์ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม กล่าวว่า การจัดนิทรรศการสำหรับ ‘เทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน’ ครั้งนี้ นำเสนออำนาจวัฒนธรรม 2 ด้านเกี่ยวกับ ‘ช้าง’ คือ สิ่งที่ตาเห็น กับ ความเชื่อ โดยมีไฮไลต์กิจกรรมของงาน ดังนี้

 

ช.ช้างสร้างเมือง

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

สนุกเพลิดเพลินกับ ช้างหุ่นสาย สเตโกโลโฟดอน ที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ หุ่นสายรูปตัวช้างขนาดใหญ่ สร้างสรรค์โดย ครูหนืด-นิมิตร พิพิธกุล และ ‘มูลนิธิหุ่นสายเสมา ศิลปะเพื่อสังคม’ ซึ่งอยู่กับหุ่นมามากกว่า 20 ปี

สเตโกโลโฟดอน เป็นช้าง 4 งา สายพันธุ์ดึกดำบรรพ์ พบซากฟอสซิลที่จังหวัดนครราชสีมา ครูหนืดและมูลนิธิหุ่นสายเสมาฯ สร้าง ‘หุ่นสายช้างสเตโกโลโฟดอน’ ครั้งแรกเพื่อร่วมแสดงในงาน Thailand Biennale ซึ่งจัดที่นครราชสีมา เมื่อพ.ศ.2564

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย ช้างหุ่นสาย สเตโกโลโฟดอน (credit photo: มูลนิธิหุ่นสายเสมาฯ)

ช้างหุ่นสาย สเตโกโลโฟดอน ได้รับการนำมาจัดแสดงอีกครั้งในงานนิทรรศการ ‘ด้วยรักแห่งแผ่นดิน’ เพื่อร่วมเรียนรู้แนวการทรงงานด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในงานเฉลิมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90  พรรษา ณ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร ในช่วง 1-15 สิงหาคม 2565

ช้างหุ่นสายเชือกนี้ได้รับการจัดแสดงเป็นครั้งที่ 3 ในงานมหกรรม Night at the Museum festival 2023 โดยจัดแสดงอย่างสง่างามหน้าอาคารมิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 15-17 ธ.ค.2566 และจะจัดแสดงต่อเนื่องไปจนถึงวันเด็ก 2567

ครั้งนี้ ช้างหุ่นสาย สเตโกโลโฟดอน จัดแสดงในคอนเซปต์ ‘ช.ช้างสร้างเมือง’ เล่าเรื่องราวของกิงกะหรากับฉิ่นช้างน้อย ร่วมกันเดินทางออกจากป่าเพื่อตามหาต้นไม้ทองคำที่หายไป และได้มาพบว่าต้นไม้ทองคำนั้นได้กลายเป็นเสาไฟฟ้าอยู่กลางเมืองใหญ่ 

ทั้งคู่ได้พบกับผู้คนมากมายที่ทำให้ได้เข้าใจว่า พลังงานที่มนุษย์ใช้ ล้วนมีที่มาจากพลังธรรมชาติที่กำลังจะถูกทำให้หมดไป ทำอย่างไรจึงจะนำพลังเหล่านี้มาสร้างทั้งป่าทั้งเมืองได้

 

คณปติเทวาลัย

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย ‘พระพิฆเนศ’ โดย นิรันดร์ ยังเขียวสด

เทวาลัยแห่งความสำเร็จของผู้มีศรัทธาในคชเทวา เอื้อการจัดแสดง ‘พระพิฆเนศ’ โดย นิรันดร์ ยังเขียวสด ผู้เขียนลายและสร้างสรรค์พระพิฆเนศองค์นี้ด้วยประติมากรรมเทคนิคหัวโขนและหุ่นกระบอกซึ่งสืบทอดองค์ความรู้จากบรรพบุรุษตระกูลโจหลุยส์เธียร์เตอร์ 

พระพิฆเนศสีแดงองค์นี้ คุณนิรันดร์สร้างสรรค์ขึ้นและเชิญมาจัดแสดงในงาน Night at the Museum ที่มิวเซียมสยามเป็นแห่งแรก ผู้เข้าชมงานมีโอกาสร่วมบูชาพระคเณศด้วยการสรรญเสริญคเณศนามทั้ง 108 นาม

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย นิกสิทธิ์ วงศ์สวัสดิ์ นำเสนอแนวคิดกระซิบขอพรผ่านหูหนูมูสิกะในรูปแบบงานสร้างสรรค์

ใกล้ๆ กัน มีผลงานสร้างสรรค์ของ นิกสิทธิ์ วงศ์สวัสดิ์ ช่างภาพและศิลปินอิสระ ซึ่งจินตนาการต่อยอดการขอพรพระพิฆเนศของเหล่าผู้มีความนับถือ ที่มีแบบแผนใช้วิธีกระซิบที่หูของ ‘หนูมูสิกะ’

โดยออกแบบโครงผ้าขนาดใหญ่แขวนลงมาจากเพดาน เป็นสัญลักษณ์แทนใบหูหนูมูสิกะ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานไปยืนอยู่ข้างใต้ แล้วเงยหน้าขอพร เปรียบเสมือนการกระซิบผ่านใบหูของหนูมูสิกะนั่นเอง

การทำเป็นโครงผ้าขนาดใหญ่ ยังทำให้ต่างชาติต่างศาสนาร่วมขอพรได้หมด เพราะไม่มีรูปเคารพ และลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิดจากการที่คนจำนวนมากเข้าไปกระซิบที่จุดๆ เดียวกัน

“ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้อื่น การขอพรเป็นการขอพรให้เรามีพลังและมีปัญญา ทุกครั้งที่ผมขอพร ผมขอให้มีปัญญา เมื่อมีปัญญาเราทำอะไรก็ได้” ศิลปินให้ความเห็นส่วนตัวในเรื่องการขอพร

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย ขอพรใต้สัญลักษณ์ใบหูหนูมูสิกะ (credit: nikkasit motographer)

คุณนิกสิทธิ์ยังเติมเต็มนิทรรศการส่วนนี้ ด้วยการใช้ เอไอ เจนเนอเรตภาพวาดพระพิฆเนศ แล้วคัดเลือกออกมา 13 ภาพ แต่ละภาพมี คิวอาร์โค้ด และคำทำนายกำกับที่แตกต่างกันไป ดาวน์โหลดไว้ในจอมอนิเตอร์

ภาพเจนเนอเรตพระพิฆเนศทั้ง 13 ภาพและคิวอาร์โค้ดจะกะพริบวน loop ไปไม่หยุด เมื่อกระซิบขอพรผ่านหูหนูมูสิกะแล้ว ผู้ขอพรสามารถใช้กล้องสมาร์ทโฟนส่องไปยังคิวอาร์โค้ดที่กะพริบไม่หยุด ลองตั้งจิตอธิษฐานดีๆ เมื่อกล้องจะจับคิวอาร์โค้ดที่ชัดที่สุดได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ภาพพระพิฆเนศพร้อมคำทำนายก็จะปรากฏบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณ

ผู้เขียนทดลองแล้ว คำทำนายสอดคล้องกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่พอดี

 

BOB the Nice Guy

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย ภัณฑารักษ์แนะนำ แพรว – ฉันทิศา เตตานนทร์สกุล 

งานศิลปะที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมสีขาวขนาดใหญ่ มีจุดสีดำ 2 จุด และเส้นโค้งใต้จุดสีดำทั้งสอง ทำให้ก้อนกลมนี้เหมือนกำลังอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ แพรว – ฉันทิศา เตตานนทร์สกุล ศิลปิน Mapping

แพรวกล่าวถึง BOB the Nice Guy ว่า เกิดขึ้นขณะกำลังออกแบบเว็บไซต์ของตนเองตั้งแต่ยังเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปี 2562 รู้สึกรูปแบบ User Interface ดูโล่งเกินไป จึงลองวาดเส้นยึกยือลงไปกับเติมหน้ายิ้ม รู้สึกน่ารักดีและเจืออารมณ์ป่วนๆ จึงตั้งชื่อว่า BOB the Nice Guy 

จากนั้นก็มีโอกาสพา BOB ออกไปทักทายพื้นที่สาธารณะในรูปแบบบอลลูนขนาดใหญ่ในเทศกาล Bangkok Design Week 2022 คอลลาบอเรตกับร้านกาแฟนำเสนอ BOB ในรูปแบบสติกเกอร์ขนาด 1.5 เมตร ตกแต่งในพื้นที่ร้านกาแฟที่แตกต่างกันออกไปหลายแห่ง

สำหรับในเทศกาล Night at the Museum ที่มิวเซียมสยามปีนี้ เป็นครั้งแรกที่ BOB มาปรากฏตัวในพิพิธภัณฑ์ โดยจะมีการฉาย Mapping เกี่ยวกับช้างไปบนตัว BOB the Nice Guy อ้างอิงข้อมูลจากมิวเซียมสยาม รวมทั้งสำนวนไทยเกี่ยวกับช้าง

 

ช้างดึกถึกดำบรรพ์

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

เชิญชมบรรพบุรุษช้างที่มีวิวัฒนาการมาไกลกว่า 60 ล้านปี ยกโขลงยกโขยงมาครบแก๊งจากฝีมือการปั้นของช่างปั้นผู้ชำนาญประจำพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทักทายทุกคนในยามค่ำคืน

เชื่อหรือไม่ว่าช้างเคยตัวเท่าหมู ไม่มีงา และหน้าเหมือนฮิปโปโปเตมัส แสดงให้เห็นว่าตลอดเวลาหลายล้านปี ร่างกายของช้างผ่านการวิวัฒนาการมาหลายรูปแบบ จนมีรูปร่างและความแข็งแกร่งเช่นในปัจจุบัน

 

Erawan Wonder of the World

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

จัดแสดง ‘Erawan Wonder of the World ราชาแห่งช้างทั้งปวง’ ชุดประจำชาติมิสแกรนด์สมุทรปราการ สวมใส่เข้าประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2022 ออกแบบด้วยหัวใจโดย อัครัช ภูษณพงษ์ ดีไซเนอร์มือรางวัลผู้ก่อตั้งแบรนด์ ‘อาร์ทอัครัช เนรมิตศิลป์’

ความอลังการสุดปราณีตของชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากประติมากรรมช้างเอราวัณสามเศียรที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จังหวัดสมุทรปราการ

โครงชุดนำเสนอผ่านรูปทรงของช้างด้วยเทคนิคการเชื่อมโลหะด้วยมือตามสัดส่วนที่เหมาะสม ตกแต่งด้วยผ้าลายไทยโบราณสีทองแดง เสมือนโลหะที่ใช้ในการขึ้นรูปองค์ช้างเอราวัณ เครื่องประดับที่อ่อนช้อยแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งของช้าง ได้รับการนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัว

ผู้เข้าชมงาน Night at the Museum ที่มิวเซียมสยาม จะได้ชมความวิจิตรชุดประจำชาติชุดจริงชุดนี้อย่างใกล้ชิด

 

ช้างปันสุข อพวช.

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

จัดแสดง ช้างน้อยปันสุข สัตว์สตัฟฟ์โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ในระยะใกล้ที่ได้เห็นทั้งหนังหนา ตาตี่ ขนแน่น 

ฟังเสียงช้างจากป่าใหญ่ แล้วร่วมสนุกกับการทายกันว่าแต่ละเสียงที่ได้ยินนั้น ช้างกำลังทำอะไร แถมยังได้รู้ว่าแท้จริงช้างว่ายน้ำเก่งได้เพราะอะไร

 

กิจกรรม Tales from the Trunk

กิจกรรมนี้มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า เรื่องเล่าจากปลายงวง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับฟังเรื่องเล่าหลากรสชาติเกี่ยวกับช้างจากวิทยากรผู้สนใจศึกษาเรื่องช้างในแง่มุมต่างกันไป ดังนี้

  • พบกันที่ทางช้างเผือก (16.30 – 17.00 น.)

เรื่องเล่าตำนานสุดคลาสสิกของกลุ่มก้อนดวงดาวสีขาวที่พาดผ่านฟากฟ้า เปรียบเสมือปลายทางแห่งความฝันและหมุดหมายความสุขของหนุ่มสาวที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ดาราจักรบนความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น เมื่อคำสัญญามีจริงแล้ว เราจะพบกันที่ ‘ทางช้างเผือก’

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

  • ช้างศึกส่งออก โอท็อปผูกขาดราชสำนักสยาม (17.15 – 17.45 น.)

อยุธยาค้าช้างศึก  ฟังเรื่องเล่าการส่งออกช้างสยามจากพ่อค้าช้างฝั่งโคโรแมนเดลที่เล่าโดยถอดความจากบันทึกของพ่อค้าชาวดัชต์ 

สมัยนั้นมีการส่งช้างอยุธยาไปยังดินแดนต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ รัฐสุลต่านกอลกอนดะฮ์ (Golconda) ตั้งอยู่ตอนในของคาบสมุทร ทางอินเดียตอนใต้ หรือบริเวณเมืองไฮเดอราบัดในปัจจุบัน และรัฐสุลต่านเบงกอล (Bengal) ตั้งอยู่แถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ปัจจุบันคือบริเวณเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย และเมืองธากา/ดักกา ประเทศบังกลาเทศ

ใครอยากรู้ว่าสินค้าสุดฮอตอย่าง ‘ช้างสยาม’ ส่งออกอย่างไรไปอินเดีย อย่าพลาดเส้นทางทรมานบันเทิงที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทางในรอบนี้

  • เห็นช้างกิน กินตามช้าง FOOD PREP (18.00 – 18.30 น.)

ชวนไปเดินหาอาหารที่ช้างกิน ชิมวิตามินที่บรรดาช้างพากันคลั่งไคล้ พร้อมเรียนรู้ชีวิตช้างในธรรมชาติ ถ้าคุณอยากลองเป็นช้างและลองกินอย่างช้างดูสักครั้ง ขอให้ไปเจอกัน

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย เตรียมฟังมนตราพระเพทราชา

  • มนตราพระเพทราชา : หลวงคชสิทธิคนสนิทพระเพทราชา (18.45 – 19.15 น.)

เรียนรู้ know how การฝึกช้างจากชาวสยามรุ่นเก่า ไขข้อข้องใจว่ามนตราพระเพทราชาเป่าหูช้างมีจริงหรือไม่ และฟังเรื่องราวว่าทำไมจางวางกรมพระคชบาลถึงได้เป็นกษัตริย์

  • ชงชา ชิมช้าง (19.30 – 20.00 น.)

ชวนรู้จัก ‘ช้าง’ ผ่านเครื่องถ้วยดินเผาโบราณ และชวน ชง ชิมชา ที่มีเบื้องหลังที่มาจากช้างในสองวัฒนธรรมที่มาบรรจบกันในสยาม

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย ชุดน้ำชาช้าง

  • ส่องช้างไม่พบช้าง (20.15 – 20.45 น.)

ชวนส่องช้างหลากสายพันธุ์จากธรรมชาติ พร้อมเรื่องเล่าที่มาที่ไปของชื่อ ‘ช้าง’ ชนิดต่างๆ ที่รับรองได้ว่าคุณจะรู้จักช้างนานาชนิดมากขึ้น โดยที่ไม่ได้พบช้างอย่างที่เคยเห็นมาก่อน

  • ช้างกูอยู่ไหน? (21.00 – 21.30 น.)

ภารกิจตามหาช้างในถอดรหัสไทยให้ครบ และตามหา BOB ให้เจอ นำทางโดยคิวเรเตอร์สายแปร๋น มิวเซียมสยาม

สามารถเข้าฟังเรื่องราวได้ รอบละ 25 ท่าน ลงทะเบียนฟรีผ่าน LINE OA บริเวณจุดแสดงหลักห้องนิทรรศการหมุนเวียน 1-3 มิวเซียมสยาม

 

กิจกรรม Talk ชนช้าง

กิจกรรมบนเวทีที่ตั้งชื่อว่า ‘ลานดินโป่ง’ นำเสนอองค์ความรู้และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่าสนุกเกี่ยวกับ ‘ช้าง’ เริ่มด้วยเรื่อง ช้างดึกดำบรรพ์ถึงปัจจุบันของช้างธรรมชาติ ร่วมสนทนาโดย ผศ.ดร.จรูญ ด้วงกระยอม พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน และ พิทักษ์ ยิ่งยง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา (15 ธ.ค. 20.00 - 21.00 น.)

เรื่องที่สอง ปกิณกะช้างและเรื่องช้างธรรมชาติจนเรืองอำนาจในวัฒนธรรม โดย ปรามินทร์ เครือทอง นักประวัติศาสตร์สายครีเอทีฟและผู้เขียนหนังสือ ‘ช้างเล่มหนึ่ง’ (16 ธ.ค. 20.00 - 21.00 น.)

เรื่องที่สาม ล้วงลูกช้าง : จากคเณศจตุรถี ถึงฮิปปี้กางเกงลายช้าง โดย ผศ.คมกฤช อุ่ยเต็งเค่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาและความเชื่อในสังคมมนุษย์ (17 ธ.ค. 20.00 - 21.00 น.)

ดำเนินรายการโดย ชนน์ชนก พลสิงห์ และ ทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร สองภัณฑารักษ์ มิวเซียมสยาม

Night at the Museum Siam ครั้งที่ 13 ชวนใส่กางเกงช้างท่องโลกช้างไทย

เทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน หรือ Night at The Museum festival 2023 ที่ มิวเซียมสยาม กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 เวลา 16.00-22.00 น. 

  • เข้าชมฟรี
  • ใคร 'ทรงช้าง' มางานไนท์ฯ อาทิ สวมกางเกงช้าง เสื้อช้าง เครื่องประดับรูปช้าง มีรอยสักรูปช้าง ฯลฯ รับของที่ระลึกฟรี
  • การเดินทาง MRT สถานีสนามไชย ทางออกที่ 1