ปีใหม่ ไหว้พระ 10 'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567

รู้ประวัติความเป็นมา มงคลพุทธคุณ 10 พระพุทธรูป 'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์' ก่อนไปกราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ 2567 ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรมศิลปากรอัญเชิญมาเป็นกรณีพิเศษรับนักษัตรปีมะโรง

คติการสร้าง พระพุทธรูป เป็นการสร้างขึ้นเพื่อแทนคุณแห่งองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกอบด้วย

  • พระมหากรุณาธิคุณ (มีคุณด้วยความเมตตากรุณาต่อสัตว์โลก)
  • พระวิสุทธิคุณ (มีคุณด้วยจิตวิสุทธิ์)
  • พระปัญญาธิคุณ (มีคุณด้วยปัญญา) 

พระพุทธรูปจึงมิใช่รูปเสมือนจริง แต่สร้างขึ้นตามอุดมคติตามลักษณะของมหาบุรุษ ผู้บำเพ็ญบารมีพร้อมสมบูรณ์ กอปรด้วยความงามตามสุนทรียภาพหรือความรู้สึกถึงความงดงามของช่างฝีมือแต่ละสมัย

พระพุทธรูปแต่ละองค์ที่สร้างขึ้น ต่างมีคุณลักษณะเปี่ยมด้วยสรรพสิริสวัสดิมงคลต่าง ๆ อันเป็นเครื่องน้อมนำให้ พุทธศาสนิกชน ยึดมั่น ศรัทธาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นกุศโลบายให้ตรึกถึง 'พระธรรม' ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงอันเป็นหนทางพ้นทุกข์ภัยในวัฏสงสาร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 10 พระพุทธรูป พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์

ในช่วง เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กรมศิลปากรได้จัดกิจกรรม ไหว้พระปีใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลชีวิต ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ซึ่งมี พระพุทธสิหิงค์ เป็นองค์พระประธาน พร้อมอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญองค์อื่นๆ ออกมาให้ประชาชนสักการะระหว่างปีใหม่  

เนื่องใน เทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 ปีมะโรง กรมศิลปากร โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้อัญเชิญ พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์ หรือพระพุทธรูปที่มีคติการสร้างเกี่ยวข้องกับ พญานาค ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ‘พระพุทธรูปปางนาคปรก’ หรือ พระนาคปรก มาประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลในวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ 

เหตุที่กรมศิลปากรอัญเชิญ พระพุทธรูปปางนาคปรก เนื่องจากปีพ.ศ.2567 ตรงกับนักษัตร ปีมะโรง หรือ งูใหญ่ ซึ่งตีความได้ถึง พญานาค ตามความเชื่อทางศาสนา

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 สักการะพระพุทธรูป พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์ 2567 เป็นปฐมฤกษ์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์

 

แม้พระพุทธรูปปางนาคปรก หรือ พระนาคปรก เป็นพระพุทธรูปประจำวันของผู้เกิดวันเสาร์ แต่ทุกคนก็สามารถสักการะได้ 

“เนื่องจากความหมายของ ‘พระปางนาคปรก’ คือ การปกป้อง การคุ้มครอง ให้ท่านได้เริ่มชีวิตปีใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัยตลอดทั้งปี และองค์พระพุทธรูปประธานภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์คือพระพุทธสิหิงค์ก็เกี่ยวข้องกับตำนานพญานาคเช่นกัน” นาย พนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวในรายการ ‘ไขความรู้จากครูกรมศิลป์’ ตอน ‘ของขวัญปีใหม่จากใจกรมศิลปากร’

ทั้งนี้นาย เสริมศักดิ์  พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลปากร ได้ร่วมสักการะพระพุทธรูป พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์ 2567 เป็นปฐมฤกษ์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ 
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร แล้วเมื่อวันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 เวลา 14.09 น.

พระพุทธรูป  'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์' ทั้ง 10 องค์ ต่างมีประวัติความเป็นมาและความเชื่อในมงคลพุทธคุณ ดังนี้

1 :: พระพุทธสิหิงค์
แบบศิลปะ/อายุสมัย :  ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ 21 (500 ปีมาแล้ว)
ชนิด : สัมฤทธิ์  กะไหล่ทอง
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 135 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร องค์พระสูง 79 เซนติเมตร
ประวัติ : สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้ารัชกาลที่ 1) ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่เมื่อพ.ศ.2338  ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567

พระพุทธสิหิงค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์

จากหลักฐาน 'นิทานพระพุทธสิหิงค์' ซึ่งพระโพธิรังสี พระภิกษุชาวเชียงใหม่นิพนธ์เป็นภาษาบาลี ระหว่างพ.ศ.1945-1985 เนื้อความกล่าวถึงตำนานพระพุทธสิหิงค์ ว่าสร้างโดยพระมหากษัตริย์กรุงลังกาเมื่อพ.ศ.700 

 

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระพุทธสิหิงค์ ปั้นจากพญานาคนิรมิตองค์

พระพุทธสิหิงค์ ได้รับการกำหนดพระลักษณะให้ละม้ายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากที่สุด เนื่องจากได้ถอดมาจากรูปแปลงของพญานาคที่เคยเห็นพระพุทธองค์ เนรมิตกายให้ดูเป็นแบบอย่าง

ในครั้งนั้น สีหฬทวีป เกาะลังกา มีพระมหากษัตริย์เสวยราชสมบัติ 3 พระองค์ วันหนึ่งพระราชาได้ตรัสถามเหล่าพระอรหันต์ว่า บรรดาพระคุณเจ้าทั้งหลายมีรูปใดบ้างที่ได้เคยเห็นพระบรมศาสดาเมื่อยังทรงพระชนม์ชีพ แต่พระอรหันต์ทั้ง 20 องค์ ไม่มีรูปใดที่เคยเห็น

พญานาคตนหนึ่งที่อยู่ในที่ประชุมนั้นซึ่งเคยได้เห็น จึงอาสานิรมิตองค์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอสีติมหาสาวกถวาย

เมื่อพุทธบริษัททั้งหลายได้กระทำบูชาพระพุทธรูปครบ 7 วันแล้ว นาคราชจึงกลายเพศเป็นมานพถวายอภิวาทพระอรหันต์ทั้งหลายแล้วกำชับว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายจงได้กำหนดจดจำพระพุทธลักขณะไว้เถิด” แล้วก็ไปสู่นาคพิภพแห่งตน

พระมหากษัตริย์กรุงลังกาจึงโปรดให้ช่างหล่อที่มีฝีมือดีเยี่ยมปั้นขี้ผึ้งเป็นพระพุทธรูปมีลักษณะเหมือนกับที่ได้จดจำมา

กล่าวกันว่า เมื่อหล่อ พระพุทธสิหิงค์ ขึ้นแล้ว เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้

ต่อมาพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย โปรดเกล้าฯ ให้พญาสิริธรรมนคร ผู้ปกครองเมืองสิริธรรมนคร (ปัจจุบันคือนครศรีธรรมราช) แต่งทูตอัญเชิญพระราชสาสน์ทูลขอพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานสักการบูชา ณ กรุงสุโขทัย 

ครั้นกรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง พระมหากษัตริย์หรือเจ้าเมืองผู้มีอำนาจได้อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์ ไปประดิษฐานตามเมืองสำคัญหลายแห่ง ได้แก่ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา กำแพงเพชร เชียงราย และเชียงใหม่ 

 

2. พระพิมพ์ปางมหาปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถี
แบบศิลปะ/อายุสมัย :    ศิลปะทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 12-14 (1,200-1,400 ปีมาแล้ว)
ชนิด : ดินเผา  ปิดทอง
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 19.5 เซนติเมตร  กว้าง 21.5 เซนติเมตร
ประวัติ : สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
สถานที่เก็บรักษา : ห้องทวารวดี อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระพิมพ์ปางมหาปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถี

พระพิมพ์ดินเผาสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3 องค์ ประดิษฐานเรียงกันบนฐานไม้ องค์กลางซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ด้านหน้าพิมพ์ภาพพุทธประวัติตอน มหาปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถี เป็นรูปพระพุทธเจ้าประทับใต้ร่มไม้

พระพุทธองค์ประทับขัดสมาธิราบบนดอกบัวที่เนรมิตขึ้นโดย พญานาคนันทะ และ อุปนันทะ ประคองถือก้านบัวอยู่ด้านล่าง แวดล้อมด้วยพระอินทร์ พระพรหม และเหล่าเทวดาทั้งหลายที่ลงมาเฝ้า

ด้านหลังพระพิมพ์จารึก คาถาเย ธมฺมาฯ ด้วยอักษรปัลลวะ ภาษาบาลี 4 บรรทัด ความว่า “เย ธมฺมา เหตุปปฺภวา เยสํ เหตุ ตถาคโต อาห เตสญฺ จ โย นิโรโธ เอวํ วาที มหาสมโณ”

แปลว่า “ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติทรงสั่งสอนอย่างนี้”  

พระพิมพ์ปางมหาปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถีองค์นี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพบจากที่ใด แต่พระพิมพ์แบบนี้ได้พบที่เมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดีหลายแห่งบริเวณภาคกลางของประเทศไทย อาทิ จังหวัดราชบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี 

ศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์ ได้อธิบายถึงก้านบัวที่มี พญานาค 2 ตน ประคองในฉากมหาปาฏิหาริย์ ว่ามีที่มาจาก 'คัมภีร์ทิวยาวทาน' ซึ่งเป็นคัมภีร์ภาษาสันสกฤตของพุทธศาสนาหีนยาน นิกายสรวาสติวาท ว่า 

“พระยานาค 2 ตน ชื่อ นันทะ และอุปนันทะ ได้เนรมิตดอกปทุมดอกหนึ่ง มีกลีบหลายพันกลีบใหญ่เท่าล้อรถ กลีบดอกปทุมทั้งหลายเหล่านี้ล้วนทำด้วยทองคำทั้งสิ้น แต่ก้านเป็นเพชรพลอย แล้วจึงนำดอกปทุมนี้เข้าไปถวายพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคเสด็จขึ้นไปนั่งประทับขัดสมาธิบนกลีบบัวนั้น...” 

ด้านหลังปรากฏจารึก คาถาเย ธมฺมาฯ ภาษาบาลี ซึ่งมีที่มาจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท ด้วยเหตุนี้นักวิชาการจึงสันนิษฐานว่าพระพิมพ์แบบนี้ทำขึ้นโดยผู้นับถือพุทธศาสนาเถรวาท แต่หยิบยืมรูปแบบและประติมานวิทยาของพุทธศาสนานิกายอื่นมาใช้

 

3. พระไภษัชยคุรุนาคปรก
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะลพบุรี  พุทธศตวรรษที่ 17-18 (800-900 ปีมาแล้ว)
ชนิด : สัมฤทธิ์
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 60 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 27.5 เซนติเมตร 
ประวัติ : กรมศิลปากรซื้อมาจากพิพิธภัณฑ์ของหม่อมเจ้าปิยะภักดีนาถ สุประดิษฐ์ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ2479
สถานที่เก็บรักษา : ห้องศิลปะลพบุรี อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระไภษัชยคุรุนาคปรก

พระไภษัชยคุรุ เป็นพระพุทธเจ้าในพุทธศาสนานิกายมหายาน มีประวัติกล่าวว่าเมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ทรงตั้งปณิธานว่าจะช่วยเหลือสัตว์โลกทั้งปวงให้ มีชีวิตยืนยาว พ้นโรคภัย ทั้งจากทางกายและทางใจ 

เป็นที่นิยมนับถือในกลุ่มชนต่าง ๆ ทั้งชาวทิเบต ชาวจีน และชาวเขมร ดังปรากฏบุคคลผู้มีบทบาทในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 คือ 'พระเจ้าชัยวรมันที่ 7' กษัตริย์ผู้ทรงอุทิศพระราชทรัพย์และข้าทาสบริวาร เพื่อสร้างสถานอภิบาลผู้ป่วย นามว่า 'อาโรคยศาล' 

ทั้งยังโปรดให้สร้าง พระไภษัชยคุรุ เป็นประธานในศาสนสถานเพื่อบำบัดทุกข์และโรคภัย ดังปณิธานในฐานะพระพุทธเจ้าแพทย์ ลักษณะพระไภษัชยคุรุที่พบจากอาโรคยศาลส่วนใหญ่เป็น พระพุทธรูปนาคปรก ที่มีหม้อยาหรือตลับวางอยู่ในพระหัตถ์ 

แม้ตามประติมานวิทยาระบุเพียงว่า พระไภษัชยคุรุ มี 2 พระกร ครองจีวรแบบพระภิกษุก็ตาม แต่งานศิลปกรรมในวัฒนธรรมขอมยังมีองค์ประกอบสำคัญที่เพิ่มขึ้นมา คือ ฐานนาคปรก 

 

4. พระรัตนตรัยมหายาน
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ 18 (800 ปีมาแล้ว)
ชนิด : ศิลา
ขนาด : สูง 35.5 เซนติเมตร กว้าง 31 เซนติเมตร
ประวัติ : สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
สถานที่เก็บรักษา : คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระรัตนตรัยมหายาน

พระรัตนตรัยมหายาน คือสัญลักษณ์แทนของคุณธรรม 3 ประการ สำหรับผู้ต้องการตรัสรู้ อันได้แก่ อุบาย ความกรุณา และ ปัญญา 

มักพบในรูปแบบประติมากรรมรูปเคารพรูปบุคคลสามคนอยู่บนฐานเดียวกัน หรือเป็นกลุ่มประติมากรรมลอยตัวที่มีขนาดใกล้เคียงกัน 

เบื้องกลาง คือ พระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ ประทับขัดสมาธิราบเหนือขนดนาค เป็นตัวแทน 'อุบาย' หรือการสั่งสอนธรรม 

ถัดไปทางเบื้องขวาเป็นรูปบุรุษมีสี่กร คือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร บุคคลาธิษฐาน 'ความกรุณา' เสมือนความปรารถนาช่วยให้สัตว์โลกทั้งปวงหลุดพ้นจากวัฏสงสาร 

เบื้องซ้ายเป็นรูปสตรี ยกกรทั้งสองข้างขึ้นถือหนังสือและดอกบัว คือ นางปรัชญาปารมิตา บุคคลาธิษฐานแห่งคัมภีร์ปรัชญาปารมิตา พระคัมภีร์สำคัญสูงสุดของฝ่ายมหายานและปัญญาสูงสุดของพระพุทธเจ้า 

โดยทั้งมหาปัญญาและมหากรุณาเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มพูนโพธิจิตสู่การเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล

 

5. พระพุทธรูปปางมารวิชัย
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะอยุธยาตอนกลาง พุทธศตวรรษที่ 21-22 (400-500 ปีมาแล้ว)
ชนิด : สัมฤทธิ์
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 43 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 11.2 เซนติเมตร  
ประวัติ : เป็นของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เดิมอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร
สถานที่เก็บรักษา : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระพุทธรูปปางมารวิชัย

มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองข้างวางซ้อนบนพระเพลาในอิริยาบถสมาธิ เบื้องหลังมีแผ่นโลหะรูปต้นโพธิ์ รองรับด้วยฐานภาพเล่าเรื่องกองทัพพญามาร โดยมีรูป นาค 2 ตนแผ่พังพานอยู่ทั้งสองข้าง รวมถึงมารบางตนชูศีรษะงูในมือทั้งสองข้าง 

สอดรับกับเรื่องราวใน “ชินมหานิทานกถา” คัมภีร์พุทธศาสนาสมัยอยุธยา อันเป็นต้นเค้าของปฐมสมโพธิกถา ปรากฎเนื้อหาว่า “...เอกจฺจา อุปริมกายโต นาคสรีรา เหฏฺฐิมกายโต มนุสฺสสรีรา. เอกจฺจา เหฏฺฐิมกายโต นาคสรีรา อุปริมกายโต มนุสฺสสรีรา...” 

แปลความว่า “...บางพวกท่อนบนเป็นร่างนาค ท่อนล่างเป็นร่างมนุษย์ บางพวกกายท่อนบนเป็นร่างมนุษย์ ท่อนล่างเป็นร่างนาค...” 

จากบริบทดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านาคเหล่านี้ คือบริวารของพญามารที่เข้ารังควานพระพุทธเจ้า สอดรับกับเรื่องราวของ นาค ในคัมภีร์พุทธศาสนา ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

  • กลุ่มนาคผู้พิทักษ์พระพุทธเจ้าที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนา
  • กลุ่มนาคที่เป็นปฏิปักษ์ มิจฉาทิฐิ หรือนาคที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์

 

6. พระบัวเข็ม
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะพม่า พุทธศตวรรษที่ 22-24 (200-400 ปีมาแล้ว)
ชนิด : ไม้ลงรักปิดทอง
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 15 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 7.3 เซนติเมตร
ประวัติ : สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
สถานที่เก็บรักษา : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระบัวเข็ม

พระบัวเข็ม หรือ 'พระทักษิณสาขา' เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีคุณอันวิเศษที่นิยมเคารพนับถือกันในหมู่ชาวพม่า มอญ และไทใหญ่ สร้างขึ้นจาก ไม้ของพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นไม้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้ 

พุทธลักษณะที่สำคัญ คือ ส่วนพระเศียรมีใบบัวปรกอยู่ บริเวณใต้ฐานมักนิยมแกะสลักเป็นภาพงู นาค และสัตว์น้ำ 

ในพระราชพิธีพิรุณศาสตร์ (ขอฝน) และพระราชพิธีพืชมงคล มีการประดิษฐาน พระบัวเข็ม ร่วมกับพระคันธารราษฎร์ และ ประติมากรรมรูปนาค และปลาช่อนด้วย

จึงกล่าวได้ว่าราชสำนักไทย นับถือ 'พระบัวเข็ม' ในฐานะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณที่สำคัญเกี่ยวเนื่องกับ น้ำ และ ความอุดมสมบูรณ์

อนึ่ง มีข้อน่าสังเกตว่า 'พระบัวเข็ม' บางรูปแบบมีการทำเป็นพระพุทธรูปนาคปรก และมีสระน้ำ ซึ่ง มุจลินทนาคราช มีความสัมพันธ์กับสระน้ำและฝน 

ดังนั้นจึงอาจมีความเป็นไปได้ว่า 'พระบัวเข็ม' อาจสามารถหมายถึงพุทธประวัติตอนเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 6 ใต้ต้นจิกริมสระน้ำของพญามุจลินทนาคราชได้ด้วยเช่นกัน

 

7. พระพุทธเจ้า 5 พระองค์นาคปรก
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 (100 ปีมาแล้ว)
ชนิด : งาช้าง ไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก
ขนาด : สูง 123 เซนติเมตร
ประวัติ : สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระพุทธเจ้า 5 พระองค์นาคปรก

พระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับในซุ้มเรือนแก้ว 5 องค์ แกะสลักบนงาช้างที่บิดเป็นเกลียว  ส่วนปลายงาแกะเป็น รูปนาคปรก คนไทยถือว่า งาช้าง ที่งอกผิดจากรูปทรงปกติเป็นของขลังสูงค่า นิยมนำมาแกะเป็นพระพุทธรูป  

พระพุทธรูป 5 พระองค์ หมายถึง พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในภัทรกัลป์ ซึ่งได้อุบัติขึ้นมาแล้วสี่องค์ ได้แก่ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้า และพระอนาคตพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง คือ พระศรีอริยเมตไตย

ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาในไทยและมุขปาฐะพื้นบ้าน เล่าถึงตำนาน “แม่กาเผือก” การกำเนิดของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

กล่าวถึงเมื่อครั้งช่วงต้นกัลป์ มีแม่กาเผือกได้วางไข่ไว้ที่รังบนยอดไม้ริมแม่น้ำ วันหนึ่งเกิดพายุพัดรังกาแตก ไข่ตกลงสู่แม่น้ำกระจัดกระจายไป ไข่ห้าใบได้ไหลไปตามกระแสน้ำ กระทั่งไปเกยกับฝั่งเรียงถัดกันไปเรื่อยๆ

  • ไข่ใบแรก คือ พระกกุสันธโพธิสัตว์ ได้แม่ไก่รับไปดูแล
  • ไข่ใบที่สอง คือ พระโกนาคมนโพธิสัตว์ ได้นางนาคนำไปดูแล
  • ไข่ใบที่สาม คือ พระกัสสปโพธิสัตว์ มีแม่เต่าเป็นผู้ดูแล
  • ไข่ใบที่สี่ คือ พระโคตมโพธิสัตว์ เลี้ยงดูโดยแม่โค
  • ไข่ใบที่ห้า คือ พระศรีอริยเมตไตยโพธิสัตว์ ได้นางสิงห์นำไปฟูมฟัก 

กระทั่งไข่ฟักออกมาเป็นเด็กทารกและเติบใหญ่เป็นชายหนุ่ม จึงอำลาเหล่าแม่บุญธรรมของตนออกบวช กระทั่งได้บรรลุโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในที่สุด โดยไล่เรียงกันไปทั้งห้าพระองค์

การสร้างสรรค์งานศิลปกรรมอันเนื่องมาจากคติพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ตามตำนานแม่กาเผือก มักมีรูปแบบเป็นภาพพระพุทธเจ้าจำนวน 5 พระองค์ หรือรูปพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ และพระโพธิสัตว์ 1 พระองค์ ปรากฏคู่กับรูปสัตว์ประจำพระองค์ สำหรับเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่ารูปพระพุทธเจ้าองค์นั้น ๆ คือ พระพุทธองค์ใดในภัทรกัลป์ 

นอกจากนี้ การปรากฏ รูปสลักรูปเศียรนาคที่ปลายสุดของงาช้างบิดเกลียวกิ่งนี้ ชวนให้นึกถึง พญากาฬนาคราช สักขีพยานในการอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะตื่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงถาดที่พระอดีตพุทธเจ้าทรงลอยอธิษฐานตกลงมากระทบกัน

 

8. พระพุทธรูปนาคปรกไม้จันทน์
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24-25 (ประมาณ 100-200 ปีมาแล้ว)
ชนิด : ไม้ ลงรักปิดทอง ประดับกระจก
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 40.5 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 9 เซนติเมตร
ประวัติ : ราชบัณฑิตยสภานำมาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถาน เมื่อพ.ศ.2469
สถานที่เก็บรักษา : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระพุทธรูปนาคปรกไม้จันทน์

พระพุทธรูปไม้จันทน์ปางสมาธิ ประทับขัดสมาธิราบบนฐานบัวหงาย กลีบบัวซ้อนกันสองชั้นเหนือ ขนดนาค 4 ชั้น ด้านบนเป็นพังพาน นาค 7 เศียร แผ่ปรกเหนือพระเศียร 

พระพุทธรูปนาคปรก สื่อถึงพุทธประวัติหลังการตรัสรู้ในสัปดาห์ที่ 6 ขณะที่พระพุทธเจ้าเสวยวิมุติสุขอยู่ใต้ต้นจิก บังเกิดพายุฝนโหมกระหน่ำเป็นเวลา 7 วัน

พญานาคมุจลินท์ ซึ่งอาศัยอยู่ในหนองน้ำ (สระโบกขรณี) ใกล้กับต้นจิก เกรงว่าพระองค์จะทรงถูกพายุฝนรบกวน จึงเลื้อยขึ้นมาจากหนองน้ำและขนดกายรอบพระพุทธองค์ แล้วแผ่พังพานปรกเหนือพระเศียรพระพุทธเจ้าไว้ เป็นการป้องกันพระพุทธองค์มิให้ถูกแดด ฝน ตลอดจนแมลงต่าง ๆ มารบกวน 

พระพุทธรูปนาคปรก ปรากฏหลักฐานในประเทศไทยตั้งแต่สมัยทวารวดีเป็นต้นมา และใน “ตำราพระพุทธรูปปางต่าง ๆ” ตามพระมติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงกำหนดให้ 'พระพุทธรูปนาคปรก' เป็นพระพุทธรูปประจำ วันเสาร์

 

9. พระพุทธรูปนาคปรกนอระมาด
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะรัตนโกสินทร์ (ท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) พุทธศตวรรษที่ 24-25 (ประมาณ 100-200 ปีมาแล้ว)
ชนิด : นอระมาด
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 18.5 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 6.5 เซนติเมตร
ประวัติ : นายซาทองยศ ภูดวงศรี บ้านเสียว ตำบลอุ่มเม่า อำเภอตลาด จังหวัดมหาสารคาม มอบให้เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2475
สถานที่เก็บรักษา : พระตำหนักแดง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระพุทธรูปนาคปรกนอระมาด

พระพุทธรูปนาคปรกแสดงปางมารวิชัยแกะจาก นอระมาด (แรด) ฝีมือช่างท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระพุทธรูปนาคปรกองค์นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการสร้างพระพุทธรูปนาคปรกในศิลปะลาว ซึ่งปรากฏรูปแบบที่หลากหลายต่างกับพระพุทธรูปในศิลปะอื่น ๆ 

แบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มที่สำคัญ คือกลุ่มที่ทำ พังพานนาคปรกแบบซุ้มโขง ซึ่งกลุ่มนี้พบมากในกลุ่มงานช่างแถบจังหวัดอุบลราชธานี 

กับกลุ่มที่ พังพานนาคแคบ มีขนาดเท่ากับองค์พระพุทธรูป ซึ่งพบได้ทั่วไปพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อเนื่องไปถึงกลุ่มพระไม้ทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น พระไม้นาคปรกปางสมาธิ พบที่วัดชนะไพรี อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

สำหรับ “นอระมาด” หรือ “นอแรด” เป็นของป่า มีมูลค่าและเป็นทั้งของบรรณาการและส่วยที่หัวเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยรวมถึงลาวส่งให้กับกรุงเทพฯ 

ตามความเชื่อในสังคมไทย-ลาว นอระมาดนอกจากมีสรรพคุณทางด้านการรักษาโรคแล้ว ยังถือเป็นเครื่องรางของขลังประเภทหนึ่ง ที่มีอานุภาพ บันดาลทรัพย์สิน และ ความอุดมสมบูรณ์ แก่ผู้ครอบครอง รวมทั้งมีคุณด้าน ป้องกันอัคคีภัย ได้

 

10. พระนิรโรคันตราย
แบบศิลปะ/ยุคสมัย : ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช 2545
ชนิด : โลหะผสมปิดทอง
ขนาด : สูงพร้อมฐาน 37 เซนติเมตร  หน้าตักกว้าง 15 เซนติเมตร
ประวัติ : สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพันณวดี ทรงพระราชศรัทธา พระราชทานประจำวัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร เมื่อพ.ศ.2546
สถานที่เก็บรักษา : วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระนิรโรคันตราย

พระนิรโรคันตราย เป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2469 ภายหลังทรงหายจากพระอาการประชวรร้ายแรงเกี่ยวกับพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) 

ลักษณะเป็น พระพุทธรูปนาคปรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประจำวันเสาร์และนักษัตร ปีมะโรง อันเป็นวันและปีพระบรมราชสมภพ 

แต่ก็ทรงมีพระราชประสงค์ให้มีความแปลกใหม่แตกจากพระพุทธรูปนาคปรกแบบเดิมที่ปรากฏโดยทั่วไป กล่าวคือเป็น พระพุทธรูปปางสมาธิที่มีมนุษยนาคจำแลง 2 ตน อัญเชิญฉัตรและพัดโบกอยู่งานถวายแด่พระพุทธเจ้าแทน 

สอดคล้องกับพุทธประวัติตอนเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งนอกจาก มุจลินทนาคราช จะแผ่พังพานปกคลุมพระพุทธองค์แล้ว เมื่อพายุฝนหายไป มุจลินทนาคราชได้แปลงกายเป็นมานพเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

ลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งคือมนุษยนาคจำแลงเป็นประติมากรรมรูปบุรุษใส่เครื่องทรงคล้ายศิลปะชวา-ปาละ และศรีวิชัย มีพังพานนาคด้านบน ขาข้างหนึ่งเป็นขาแบบมนุษย์ส่วนขาอีกข้างหนึ่งเป็นหางคล้ายงู

มนุษยนาคลักษณะนี้ยังปรากฏในงานจิตรกรรมของพระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) จิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ 6 ในสถานที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เช่น ห้องพระเจ้า พระที่นั่งพิมานปฐม พระราชวังสนามจันทร์ และพระวิหารหลวง วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นต้น

 

ปีใหม่ ไหว้พระ 10 \'พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์\' กราบพระพุทธรูปสัมพันธ์ ปีมะโรง 2567 พระที่นั่งพุทไธสวรรย์

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรม พุทธบูชานาคสัมพัจฉร์ หรือกราบพระพุทธรูปที่มีความสัมพันธ์กับ พญานาค สัญลักษณ์ปีมะโรง เพื่อความเป็นสิริมงคลรับ ปีใหม่ 2567 ปีมะโรง ได้ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2566  ถึงวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ.2567