รู้จัก Art Investment Center ศูนย์กลางการลงทุนศิลปะโดย ดอยธิเบศร์ ดัชนี
Art Investment Center แพลตฟอร์มการลงทุนด้านศิลปะและของสะสมล้ำค่าทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ ให้บริการ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่า บริจาค และ สินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมการันตีผลงานทุกชิ้นเป็นของแท้ 100%
สนใจสะสมงานศิลปะ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร จะซื้อจากที่ไหน ถึงจะอุ่นใจว่าได้ของแท้ ซื้อไปแล้วจะมีอนาคตหรือไม่ ได้รับของสะสมที่มีมูลค่าเป็นมรดกตกทอด ไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร
จากสารพัดคำถามสู่การหาคำตอบอย่างเป็นระบบ เป็นที่มาของ Art Investment Center ศูนย์การลงทุนด้านศิลปะที่ต้องการเปลี่ยน Pain Point ให้กลายเป็น Gain Point
โดยการสร้าง แพลตฟอร์มออนไลน์ https://artinvestmentcenter.com และออฟไลน์ ให้บริการในรูปแบบ ONE-STOP SERVICE & ALL IN ONE SOLUTION ผ่าน 6 บริการหลัก ได้แก่
- ซื้อ
- ขาย
- แลกเปลี่ยน
- ให้เช่า
- บริจาค
- สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset)
ดอยธิเบศร์ ดัชนี
“เราไม่ได้หวังเป็นธุรกิจใหญ่ที่ทำกำไร แต่เราสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่ไม่เคยมีทางแก้ เราจึงจำเป็นต้องแก้ตั้งแต่ระดับโครงสร้าง โดยการสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจร และสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นต้นแบบนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน” ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder Art Investment Center (AIC) กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจ
ไขปัญหาด้วยกุญแจ 3 ดอก
“เราไม่ต้องการให้ AIC เป็นตลาดนัดศิลปะ แต่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่าผลงานศิลปะและของสะสมล้ำค่าที่อยู่ในแพลตฟอร์มเป็นของจริง 100% ดังนั้นเราจึงทำงานร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงวัฒนธรรม ในเรื่องการสร้างเชื่อมั่นให้กับนักสะสมและนักลงทุนทั่วโลก
ด้วยการตรวจสอบศิลปินเจ้าของผลงานศิลปะว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ มีการจดแจ้งลิขสิทธิ์ผลงานแล้วหรือยัง ถ้ายังก็ไปดำเนินการจดลิขสิทธิ์ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ ถ้ามีการจดแจ้งแล้วเราก็จะไปตรวจสอบว่างานนี้จดลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ นี่คือ กุญแจดอกแรก ในการแก้ปัญหา” ผู้ก่อตั้ง AIC อธิบาย
“กุญแจดอกที่สอง การซื้อของจากแพลตฟอร์ม จะได้รับใบรับรองจากศิลปินและ AIC ส่วนกุญแจดอกที่สาม เราจะมีใบรับรองของ Blockchain (เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง) เพื่อสร้างความมั่นใจและการันตีความเป็นของแท้ 100%”
ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder Art Investment Center
หลักการและการบริการ
สำหรับผลงานศิลปะ และของสะสมล้ำค่าในแพลตฟอร์ม AIC จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ผลงานศิลปะ เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และอาร์ตทอย เป็นต้น
- ของสะสมล้ำค่า เช่น พระเครื่อง อัญมณี เรือ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์คลาสสิก และซูเปอร์คาร์ เป็นต้น
“ช่วงเริ่มต้นจะเปิดให้เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเข้ามาใช้งานเท่านั้น เพราะต้องการคัดกรองผู้ที่เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม โดยผลงานที่จะมาอยู่บนแพลตฟอร์มนั้น คัดเฉพาะชิ้นคุณภาพที่ดีที่สุดเท่านั้น เพราะตั้งใจให้แพลตฟอร์ม AIC เป็นเหมือนศูนย์กลางในการรวมตัวของนักสะสมและนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก
ในส่วนของการขาย จะถูกหักรายได้ 35% โดย 5% จะนำไปบริจาค 10% นำไปแบ่งให้พันธมิตรทั้งองคาพยพ ส่วนอีก 20% จะถูกใช้เป็นค่าบริหารจัดการแพลตฟอร์ม
ในส่วนของการบริจาค AIC เริ่มต้นด้วยการจับมือกับมูลนิธิรามาธิบดี นอกจากนี้เรายังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับผู้ที่ประสงค์จะบริจาคผลงานศิลปะหรือของสะสม เพื่อนำรายได้มอบให้การกุศลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ส่วนการแลกเปลี่ยน ใครที่อยากนำผลงานศิลปะหรือของสะสมที่มีมาปล่อยเช่าหรือแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้าน Digital Asset หรือ การลงทุนรูปแบบใหม่ในทรัพย์สินดิจิทัล
ในอนาคต AIC มีแผนจะร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ และ โทเคน เอกซ์ เพื่อต่อยอดนวัตกรรมการลงทุนด้านศิลปะให้ก้าวไปอีกขั้น”
ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder Art Investment Center
ไม่ว่าที่ไหนก็สร้างเป็นพื้นที่แห่งศิลป์ได้
“บริการแลกเปลี่ยนของ AIC ยังสามารถสร้างสุนทรียะให้กับสถานที่ต่าง ๆ ด้วยการเปิดให้เช่าผลงานศิลปะ เพื่อนำไปประดับตามโครงการธุรกิจ โรงแรม โรงพยาบาล เรสซิเด้นท์ คอนโด หมู่บ้าน ร้านอาหาร คาเฟ่ และทำ E-Catalog ไว้ให้
ถ้ามีผู้สนใจซื้อ ทาง AIC ก็แบ่งผลกำไร 10% ให้กับโครงการ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยศิลปินได้มีพื้นที่ในการจัดแสดงผลงานมากขึ้น
ในส่วนของศิลปินทาง AIC มีบริการเป็นผู้ช่วยด้านบริหารจัดการให้ศิลปินตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูลไปจนถึงการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ การประชาสัมพันธ์
หลังจากเสร็จสิ้นการจัดแสดงนิทรรศการในแต่ละครั้ง เราจะนำผลงานขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ให้อีก 30 วัน
เปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้าชมบนโทรศัพท์มือถือได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริการ Museum on mobile เป็นบริการพิเศษที่ส่งตรงถึงบ้าน โดยเราจะนำผลงานศิลปะไปส่งให้ผู้สนใจพิจารณาถึงบ้าน พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา”
คู่คิดสำหรับนักลงทุน
อยากจะลงทุนทางศิลปะ จะเริ่มต้นอย่างไร ผู้ก่อตั้ง AIC กล่าวว่า
“ถ้ามีนักลงทุนสนใจลงทุนในงานศิลปะ แต่ไม่รู้จักศิลปินเลย ด้วยเครือข่ายที่เรามีจะเข้ามาเชื่อมต่อนักลงทุนกับศิลปิน ถ้านักลงทุนซื้องานประติมากรรม ชิ้นละ 1 แสน แล้วอีก 3 เดือนศิลปินจัดแสดงงานแล้วขายที่ 1.5 แสน เท่ากับว่า ถ้าลงทุนวันนี้ อีก 3 เดือน กำไรชิ้นละ 5 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าสมมติประติมากรรมที่ซื้อมาขายไม่หมด ก็ต้องรับความเสี่ยงไป แต่อย่างน้อย หากลงทุน 1 ล้านบาท ซื้อผลงานมา 10 ชิ้น ขายได้ 7 ชิ้น อีก 3 ชิ้น ก็ยังสามารถใช้แพลตฟอร์ม AIC นำไปแลกเปลี่ยนหรือให้เช่าได้
เราสามารถนำไปเชื่อมโยงกับโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่มองหาผลงานศิลปะไปตกแต่ง ถ้าผลงานชิ้นนั้นขายได้ เราหัก 10% ให้เจ้าของโรงแรม หรือร้านอาหาร
สำหรับผลงานศิลปะที่ราคาสูงมาก ๆ เป็นเจ้าของคนเดียวไม่ไหว อาจจะต่อยอดไปสู่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน พอขายได้ ก็นำกำไรมาแบ่งกัน เป็นต้น”
ซึ่งในส่วนนี้ทาง AIC มีผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและผู้เชี่ยวชาญทางสถาบันการเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมายทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้วย ดอยธิเบศร์ ยกตัวอย่าง
ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder Art Investment Center
ภารกิจต่อยอดสิ่งที่พ่อทำเพื่อความยั่งยืน
“ผมคิดว่าถ้าผมไม่ทำตรงนี้ผมคงนอนตายตาไม่หลับ เพราะว่าตลอดชีวิตผมทำงานต่อยอดในสิ่งที่พ่อทำ (ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ) ทำให้คนไม่ลืมในสิ่งที่พ่อทำ ในขณะเดียวกันผมก็อยากส่งเสริมศิลปินไทยด้วย แต่การที่ผมจัดงานนิทรรศการศิลปะช่วยศิลปินขายงาน มันไม่ได้ตอบโจทย์ความยั่งยืน วันใดที่ผมตายไปคงไม่มีใครทำต่อ
ผมจึงต้องการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับชีวิตคนจริง ๆ สามารถกดซื้อขายได้เลย
เป้าหมายของผมไม่ได้อยู่แค่ในประเทศ ผมอยากทำให้ประเทศไทยเป็นกรุสมบัติของเอเชียที่นักลงทุน นักสะสมทั่วโลกกล้าลงทุนด้านงานศิลปะและของสะสมล้ำค่า
ผมอาจจะไม่ได้กำไรจากแพลตฟอร์มนี้ แต่ผมเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้จะแก้ pain point ที่เป็นปัญหาของการลงทุนด้านงานศิลปะและของสะสมล้ำค่าได้ ซึ่งคนที่จะได้กำไรสูงสุดคือคนไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปิน นักลงทุน หรือนักสะสม”
ทั้งหมดคือที่มาของ Art Investment Center แพลตฟอร์มการลงด้านศิลปะและของสะสมล้ำค่าทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ ที่มุ่งเปลี่ยน Pain Point ให้กลายเป็น Gain Point ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการศิลปะไทย
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เว็บไซต์ Art Investment Center
พบกับนิทรรศการพิเศษ “ถวัลย์ ดัชนี นายคนภูเขาผู้สร้างถ้ำแห่งศิลป์” นำร่องการเปิด Thailand Art & Culture Expo 2025 ปักหมุดหมายให้ประเทศไทยเป็น Art Destinations of Asia 27 กันยายน -31 ตุลาคม 2567 บริเวณชั้น 5 สยามพารากอน
ภาพ : วันชัย ไกรศรขจิต