One Bangkok เปิดร้าน ‘สารพัดไทย’ สินค้าไทยทุกชิ้นคิดและออกแบบโดยคนไทย
One Bangkok เปิดอาณาจักร “สารพัดไทย” ศูนย์รวมสินค้าไทย สินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์ไทยสุดโมเดิร์น สินค้าไทยของกิน-ของใช้ เครื่องหอม อาร์ตทอย สินค้าทุกชิ้นที่คิดและออกแบบโดยคนไทย สะท้อนความเคารพและความผูกพันทางสังคมและวัฒนธรรมไทย
พามารู้จักร้านค้าที่รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับความเป็นไทย เป็นสินค้าไทยที่สะท้อน “ความเป็นไทย” ซึ่งผ่านการออกแบบและตีความออกมาให้เป็นของที่มีอัตลักษณ์ไทยในมุมมองใหม่และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ร้านค้าร้านนี้ชื่อ สารพัดไทย รวบรวมสิ่งของธรรมดาที่คนไทยคุ้นเคยในรูปแบบแปลกใหม่กว่า 20,000 ไอเทมส์ สินค้าทุกชิ้นคือสื่อกลางที่สะท้อนถึงความเคารพ ความรัก และความผูกพันทางสังคมและวัฒนธรรมไทย ล้วนได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน
สินค้าไทยโดยคนไทย
สินค้าไทยดีไซน์ร่วมสมัย
สินค้าไทยที่ร้านสารพัดไทย
ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย
วรรณชื่น ทองเย็น ผู้จัดการทั่วไป ร้านสารพัดไทย
วรรณชื่น ทองเย็น ผู้จัดการทั่วไป ร้านสารพัดไทย เผยว่า เครื่องหมายการค้าของ สารพัดไทย คือ “ฯลฯ” หมายถึง “อื่นๆ อีกมากมาย” ซึ่งในภาษาอังกฤษคือคำว่า etc. ที่ย่อมาจาก et cetera (เอ็ท-เซทรา) เป็นภาษาละติน แปลว่า “และอื่นๆ”
“สารพัดไทย หรือ etc.Thainess คือ สารพัดสิ่งและเรื่องราวเล่าขานไม่มีที่สิ้นสุดเกี่ยวกับความเป็นไทยที่รอคอยคุณให้มาค้นหาที่สารพัดไทย
อีกหนึ่งหัวใจหลัก คือ สินค้าทุกชิ้นต้องเป็นแบรนด์ที่คิดและออกแบบโดย 'คนไทย' ถ่ายทอดด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งความสวยงามและลึกซึ้งในวัฒนธรรม แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยในมุมมองใหม่ๆ ที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบใด ‘สารพัดไทย’ จะช่วยให้คุณค้นพบตัวตนในแบบฉบับที่คุณไม่เคยเจอมาก่อน เรียกได้ว่า ‘สารพัดไทย’ คือ แพลตฟอร์มที่นำสินค้าฝีมือคนไทยมาแสดง เป็นหนึ่งในโชว์เคสที่มาในรูปแบบของร้าน lifestyle shop” วรรณชื่น ทองเย็น กล่าว
สินค้าไทยกว่า 20,000 รายการในร้าน ‘สารพัดไทย’ แบ่งกลุ่มออกเป็น 4 โซนหลัก ดังนี้
(1) โซน“แต่งเนื้อ แต่งตัว”
บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยผ่านเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับที่ผสมผสานความเป็นไทยร่วมสมัยกับเทรนด์แฟชั่นโลกให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน และสนุกสนานตามสไตล์คนเมือง
ยกตัวอย่างแบรนด์ Daroon นำเสนอความเป็นไทยมาผสมผสานกับความโมเดิร์น รังสรรค์ออกมาเป็นเสื้อผ้า และของใช้ไลฟ์สไตล์สุดเก๋
แบรนด์ PALIT แบรนด์เสื้อผ้าจากเชียงใหม่ที่เปิดช็อปแรกในกรุงเทพฯ นำเสนอในคอนเซ็ปต์ less is more ใช้วัสดุจากผ้าฝ้าย ผสานดีไซน์เรียบง่ายเข้าได้กับทุกยุคสมัย ปรากฏเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ได้ทุกวันตอบโจทย์คนเมืองได้อย่างลงตัว
แบรนด์ TISI TISAI เสื้อผ้าที่ออกแบบจากการใช้ผ้าทอท้องถิ่นมาตีความใหม่ให้ดูทันสมัย หรือแบรนด์แฟชั่นและของที่ระลึกสุดเก๋จากแบรนด์ The Only Market นำแรงบันดาลใจมาจากร้านจำหน่ายของที่ระลึกที่อยู่ทุกมุมของกรุงเทพฯ มาตีความใหม่จนเกิดเป็นไอเทมหลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า ไปจนถึงของตกแต่งบ้าน
ในโซนนี้ยังมีแบรนด์กระเป๋าเก๋ๆ ฝีมือคนไทยมากมาย อาทิ WINDWEAR, KEAR STORE, KAYA, MUUNSAN, FEEL FREE และ A La Maison by VINN Pattararin
(2) โซน “สุดแสนสร้างสรรค์”
จุดบรรจบของความคิดสร้างสรรค์กับความเท่ พร้อมมอบความทรงจำอันสนุกสนานสไตล์ไทย ได้แก่ แบรนด์ Moreover นำสีสันและความสนุกของเมืองหลวงมาถ่ายทอดเป็นสินค้าแม็กเน็ตในธีม “กรุงเทพฯ” ทั้งสถานที่เด่น ร้านอาหารดัง และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวหลงใหล
แบรนด์ Ek Ka Nek บาล์มสมุนไพรอโรมารูปแบบใหม่พกพาสะดวกเหมาะสำหรับเป็นของฝากด้วยภาพวาดแนว Doodle Art แลนด์มาร์กแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย
Kanita Leather แบรนด์เครื่องหนังดีไซน์คุ้นตาที่หยิบยกของไทยใกล้ตัวอย่าง “ขนมไทย” ทั้งขนมเบื้อง ขนมใส่ไส้ ขนมเทียน และข้าวต้มมัด มาดัดแปลงเป็นคอลเลคชั่นกระเป๋าเครื่องหนัง (Small Leather Goods)
แบรนด์ นานาจิตตัง ศิลปินไทยยกสินค้าไลฟ์สไตล์สุดเก๋หลากหลายไอเทม พร้อมออกแบบลายเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะร้านสารพัดไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็น Hub ศูนย์รวม Art Toys สัญชาติไทย ไว้อย่างล้นหลาม มีดีไซน์ limited edition มากมาย จากตัวละครดัง ไม่ว่าจะเป็น HAYAK ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรามเกียรติ์, MUPA TOY คาแรคเตอร์ขี้โมโหแหกปาก และ NGAEW NGAEW คาแรคเตอร์ที่โดดเด่นด้านเทคนิคทำให้สัตว์ดุร้ายกลายเป็นน่ารัก นักสะสมทั้งหลายไม่ควรพลาด
(3) โซน “อยู่ดี กินดี”
สัมผัสเสน่ห์ของอาหารไทย ผ่านเครื่องเทศ สมุนไพร ชา กาแฟ ตลอดจนขนมขบเคี้ยว ไม่ว่าจะเป็น เจลลีมะม่วงจาก สวนปทุมทิพย์ ทำจากมะม่วงมหาชนกรสชาติหวาน
ช็อกโกแลตนมรสทุเรียนและรสข้าวซอยจากแบรนด์ Siamaya's Milk Chocolate ผู้ผลิตช็อกโกแลตนมจากเมล็ดโกโก้ไทย และนมสดจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
ไอเทมเด็ด บ๊วยคืนชีพ บ๊วยสัญชาติไทยที่เคี้ยวจนหยุดไม่ได้ และหนึ่งในไฮไลท์ของโซนนี้คือ สไปซ์ สตอรี่ แบรนด์สินค้าระดับพรีเมียม ภายใต้ “ง่วนสูน ตรามือที่1” ผู้นำด้านพริกไทยและเครื่องเทศ ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน พร้อมส่งมอบประสบการณ์ทุกสัมผัสของการปรุงอาหารชั้นเลิศ
(4) โซน “อยู่เย็น เป็นสุข”
เปลี่ยนบ้านของคุณเป็นมุมพักผ่อนอันเงียบสงบด้วยของตกแต่งบ้านสไตล์ไทยที่รุ่มรวยทางวัฒนธรรม และกลิ่นหอมจากสมุนไพรช่วยผ่อนคลาย เช่น แบรนด์ Lively Light Ware โคมไฟที่ตัวโคมเขียนลายจากคราม ออกแบบลวดลายเฉพาะสารพัดไทย คอนเซ็ปต์ “อยู่เย็น เป็นสุข”
แบรนด์ Pinto Mada ความทรงจำในวัยเด็กกับปิ่นโตโบราณที่ใส่อาหารฝีมือแม่ จนเกิดไอเดียนำปิ่นโตมาเพ้นท์ลวดลายต่างๆ อาทิ ลายต้มยำกุ้ง ลายน้ำพริกปลาทู จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับสารพัดไทยโดยเฉพาะ
หรือจะเป็น VASSA เครื่องหอมที่ปรุงจากกลิ่นดอกไม้ไทย และผลิตภัณฑ์เครื่องหอมจาก Thaniya เครื่องหอมและของตกแต่งบ้านจากเซรามิก เขียนลายด้วยมือจากช่างฝีมือมากประสบการณ์ ตัวเทียนทำมาจากข้าวหอมมะลิ ผสานกลิ่นหอมจากดอกไม้และสมุนไพรไทย มีกลิ่นให้เลือกมากกว่า 20 กลิ่น
ภัทรนันฑ์ กิตติสาร, ฐนุชดี เสรีวัฒโนภาส กับสีสันตรอกโชคดี
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ต้องมาเช็กอิน ลั่นชัตเตอร์ และแชร์ภาพสุดว้าว กับ ตรอกโชคดี ซอยทางลัดจากโซนสุดแสนสร้างสรรค์ ไปโซน "แต่งเนื้อแต่งตัว" และ "โซนอยู่เย็นเป็นสุข" ได้รับการเนรมิตมาในธีม โชคดี มีสุข (Lucky Prosperity) เล่าเรื่องราวความเชื่อของคนไทยในเรื่องการแสวงหาความ ‘โชคดี’ มีเทพมาอวยพร
การหยิบยกเรื่องราวมาเพื่อเฉลิมฉลองความสุข ต้อนรับผู้คนที่มาเยี่ยมเยียน ผ่านการออกแบบให้เสมือนประตูทะลุมิติที่สนุกสนาน เป็นจุดถ่ายรูปที่แสดงถึงบรรยากาศของความเป็นไทยที่เต็มไปด้วยสีสัน และนำเรื่องความเชื่อต่างๆ ของคนไทยมาตีความให้สนุกสนานสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของร้านสารพัดไทย
รวมถึงยังมี โซน “ตลาดนัด สารพัดไทย” พื้นที่ 140 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ด้านหน้าติดกับโซนสุดแสนสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่รวมร้านเก๋ฝีมือดีไซเนอร์คนไทยรุ่นใหม่ในทุกวงการที่อยากนำเสนอผลงานผลิตภัณฑ์ดีๆ เวียนมาออกร้าน ตามธีมต่างๆ ที่จะเปลี่ยนไปทุกๆ ไตรมาส เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับร้าน สารพัดไทย
นอกจากนี้ยังมี “สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ” ที่ศิลปินผลิตให้เฉพาะสารพัดไทยเพียงเท่านั้น เช่น อาร์ตทอย เรื่องราวของ “Polygon Ganesha” โดยแบรนด์ MUU แนวคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบชาวไทยที่ต้องการนำเสนอความเชื่อในพระพิฆเนศ ในรูปแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งความงดงามและมีความหมายที่ลึกซึ้ง ออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิต ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการผสานความศักดิ์สิทธิ์เข้ากับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล
จากถุงกระดาษมาเป็นถุงผ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม
สติกเกอร์รูปขนมใส่ไส้ และ ยาดมที่มาในแพ็กเกจโขน หรือ ถุงผ้านางกวัก รวมถึงมี “มุมDIY” ที่ลูกค้าสามารถรังสรรค์ผลงานได้ หรือเลือกกระดาษห่อของขวัญเองได้อีกด้วยราคาสินค้าเริ่มต้นประมาณ 500-1500 บาท
พร้อมด้วยร้านชา สัญชาติไทย แบรนด์ Tea ET Tea และร้านคาเฟ่ กาแฟสัญชาติไทย มหานคร คาเฟ่ ที่เตรียมเมนูพิเศษไว้ให้บริการมากมาย
ค้นพบความเป็นไทยในแบบของคุณเอง ทุกสารพัดสิ่งที่คุณค้นหา ได้ที่ สารพัดไทย (Sarapad Thai) ณ ชั้น 3 ฝั่ง Parade ตึก One Bangkok และ ติดตามกิจกรรมสนุก จาก Sarapad Thai ได้ที่ Facebook: Sarapad Thai, Instagram: sarapadthai