ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม

ร้อยเรื่องราวจากวังจันทรเกษมสู่ลาดพร้าว ผ่านชีวิตและผลงานของ ‘ม.ล.มานิจ ชุมสาย’ ครูใหญ่คนแรกผู้คิดจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม และ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ ‘บรรจบ พันธุเมธา’ ครูผู้อุทิศตนให้แก่ภาษาไทย
ย้อนตำนาน ม.ราชภัฏจันทรเกษม ไปกับซุ้มประตูจันทร์ (จำลอง) สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่หลอมรวมความภาคภูมิใจในอดีตของ ป.ม. หลังกระทรวง และที่มาของชื่อ จันทรเกษม ที่มีความเกี่ยวข้องกับพระราชวังจันทรเกษม แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ลอดซุ้มประตูจันทร์
เอ่ยชื่อ วังจันทรเกษม หลายคนอาจคิดถึง “พระราชวังจันทรเกษม” หรือ “วังหน้า” จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขณะดำรงตำแหน่งเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลก ในยามเสด็จมากรุงศรีอยุธยา โดยเรียกชื่อ วังจันท์ ตามชื่อ วังจันทน์ ที่พิษณุโลก
หากวัง จันทรเกษม ในที่นี้หมายถึง วังจันท์ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็น สยามมกุฎราชกุมาร
ประตูจันทร์ (จำลอง) ที่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม
เนื่องจากวังจันท์ก่อสร้างแล้วเสร็จหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ จึงไม่เสด็จมาประทับ ทรงพระราชทานให้เป็นสถานที่เรียนของนักเรียนพรานหลวง สังกัดกรมมหรสพ และเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้ยุบกรมมหรสพ ทำให้วังจันท์ว่างลงในระยะหนึ่ง กระทั่งปี 2480 ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมวิสามัญการเรือน (ภายหลังย้ายไปที่สวนสุนันทา) 3 ปีต่อมารัฐบาลมีมติให้ย้ายกระทรวงธรรมการ หรือ กระทรวงศึกษาธิการ มาอยู่ที่วังจันท์จนถึงปัจจุบัน
สำหรับที่มาของ ป.ม.หลังกระทรวง นั้น รศ.ดร.สุมาลี ไชยศุภรากุล อธิการบดี ม.ราชภัฏจันทรเกษม กล่าวว่า เดิมทีนั้น ม.ราชภัฎจันทรเกษม มีชื่อว่า โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม ซึ่งในสมัยแรกเริ่มในปีพ.ศ.2483 ยังไม่มีอาคารเรียนเป็นของตัวเอง ต้องไปอาศัยเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ใกล้ซอยกิ่งเพชร ถนนเพชรบุรี
ต่อมาย้ายไปใช้อาคารริมถนนในเขตวังจันทรเกษม ด้านหลังกระทรวงศึกษาธิการเป็นสถานที่เรียนจึงได้รับการเรียกขานกันว่า “ป.ม.หลังกระทรวง” (ป.ม.-ประกาศนียบัตรประโยคครูมัธยม)
ต่อมาในปี 2501 กระทรวงศึกษาธิการประกาศยกฐานะ “โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม” เป็น “วิทยาลัยครู” และให้เปลี่ยนหลักสูตรเป็นการผลิตครูประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง พร้อมให้ย้ายไปตั้งอยู่ในซอยสังขะวัฒนะ 2 ย่านลาดพร้าว จึงได้ตั้งชื่อใหม่ว่าเป็น “วิทยาลัยครูจันทรเกษม” เพราะเคยอยู่ในวังจันทรเกษม
และมาเปลี่ยนเป็น สถาบันราชภัฏจันทรเกษม ในปี 2538 เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น พร้อมกับการผลิตบัณฑิตในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี
พิพิธภัณฑ์จันทรเกษม
จากซุ้มประตูจันทร์ (จำลอง) สัญลักษณ์ของ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ท่านอธิการพาเดินต่อมายังอาคารนวัตกรรมการศึกษา กดลิฟต์ไปที่ชั้น 4 เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์จันทรเกษม ซึ่งจะพาเราย้อนเส้นทางจากวังเกษมสู่ลาดพร้าวในช่วงเวลาที่ซอยลาดพร้าว 23 ยังเป็นเพียงทุ่งนา ไม่มีน้ำประปา ไม่มีถนนลาดยาง ไม่มีรถเมล์ รถไฟฟ้ามหานคร ดังเช่นที่เห็นกันในวันนี้
นิทรรศการดำเนินเรื่องผ่านชีวิตและผลงานของ ‘บูรพาจารย์’ 2 ท่าน ได้แก่ ม.ล.มานิจ ชุมสาย และ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา โดยเริ่มต้นที่ “กำเนิดโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม”
ปีพ.ศ.2477 ขณะที่ ม.ล.มานิจ ชุมสาย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงตรวจการศึกษาประจำภาคอุดรและอาจารย์ใหญ่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล การเดินทางไปตรวจราชการในท้องที่ต่าง ๆ ทำให้ท่านพบว่าประเทศไทยขาดแคลนครูที่มีคุณวุฒิสูง มีแต่ครูมูล (ประถม) ในเวลานั้นมีเพียงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่ผลิตครูมัธยมซึ่งไม่เพียงพอกับจำนวนโรงเรียนที่มีอยู่
หลังจากที่ท่านกลับเข้ามาประจำกองวิชาการของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำอยู่กรมสามัญศึกษา ในปีพ.ศ.2480 ท่านจึงเริ่มคิดตั้งกองฝึกหัดครูอย่างจริงจังให้มีวุฒิสูงขึ้นเพื่อให้สอนวิชาในระดับมัธยมศึกษาได้ 3 ปีต่อมาโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมแห่งแรกถือกำเนิดขึ้น โดยมี ม.ล.มานิจ เป็นอาจารย์ใหญ่
"การตั้งกองฝึกหัดครูกว่าจะเข้ารูปได้ต้องทำเสียทุกอย่าง วางโครงการ หลักสูตร วิธีการสอน คิดแบบเครื่องเล่นแล้วมาโดนสงคราม ต้องเขียนตำราพิมพ์ใช้เอง และอพยพนักเรียนหนีลูกระเบิด ระยะเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่กองฝึกหัดครูต้องคร่ำเคร่งต่อสู้กับการงานอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งกลางวันกลางคืน”
ม.ล.มานิจ ได้กล่าวไว้ในบทความ “ข้าพเจ้าคิดจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม” (จากหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พลตำรวจจัตวา ดร.ม.ล.มานิจ ชุมสาย) มีความตอนหนึ่งว่า
“ตั้งแต่ต้นข้าพเจ้าได้อบรมนักเรียนโรงเรียนนี้ให้มีจิตใจเข้มแข็งไม่หยิบโหย่ง รักงาน ไม่เลือกงาน ถ้าจะไปอยู่ที่ใดให้รับใช้โรงเรียนทุกอย่าง ไม่ให้เลือกวิชาให้สอนทุกอย่างไม่ว่าครูใหญ่เขาจะให้สอนวิชาใด กระทำตัวเห็นว่าเป็นนักเรียน ป.ม. หลังกระทรวงทำได้ทุกอย่าง
โดยเฉพาะวิชาที่หาคนสอนไม่ได้ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษต้องรับสอน ดังนั้นในหลักสูตรโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม ข้าพเจ้าจึงบรรจุวิชาเหล่านี้เข้าไปด้วย เพื่อให้สามารถไปสอนวิชาเหล่านี้ได้”
แม้การฝึกหัดครูมัธยมจะเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ก็สามารถผลิตครูออกไปปฏิบัติหน้าที่และสร้างชื่อเสียงได้เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น รัชนี ศรีไพรวรรณ ผู้แต่ง มานะ มานี ปิติ ชูใจ แบบเรียนวิชาภาษาไทยชั้นประถม คุณหญิงบรรจง นิวาศะบุตร คุณหญิงจันทนี สันตะบุตร คุณหญิงวนิดา ธูปะเตมีย์ ศาสตราจารย์บุญถึง แน่นหนา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และ เดโช สวนานนท์ เป็นต้น
จากวังจันทรเกษมถึงลาดพร้าว
เมื่อกระทรวงศึกษาธิการยกฐานะโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมเป็นวิทยาลัยครู โดยมีชื่อใหม่ว่า "วิทยาลัยครูจันทรเกษม" ม.ล.มานิจ ได้ฝาก บุญถิ่น อัตถากร (อธิบดีกรมการฝึกหัดครูคนแรก) ให้ช่วยหาสถานที่เรียนให้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีสถานที่และโรงเรียนเป็นของตนเอง อาศัยอาคารที่พักนักเรียนพรานหลวง ริมกำแพงวังจันทรเกษม จนได้ชื่อว่า ป.ม.หลังกระทรวงมานาน
พ.ศ.2501 คุณบุญถิ่น ได้พื้นที่บริเวณซอยสังขะวัฒนะ 2 ถนนลาดพร้าว จึงย้ายนักเรียนทั้งหมดมาอยู่ย่านลาดพร้าวจนถึงวันนี้
ศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา ครูผู้สอน ครูหอพัก ดูแลนักศึกษาหญิงชายกว่า 200 คน เคยเล่าว่า
“วันแรกที่เรา (ครูและนักเรียน) เข้ามาถึงสถานที่ใหม่ อาคารเรียนของจันทรเกษมแทนที่จะเป็นตึกโอฬารกลับเป็นอาคารไม้อย่างโรงเรียนในชนบทเพราะรัฐบาลมีนโยบายใช้ของในประเทศ อาคารเรียนนี้ตั้งโดดเด่นอยู่กลางแสงแดด หลังอาคารมีโรงอาหารและครัวซึ่งไม่มีทางเดินเชื่อมต่อกัน ต้องลงจากเนินดินนี้ไปขึ้นเนินดินโน้น ไม่มีฝนก็ทนไหว ถ้าฝนตกจะทำอย่างไรคงสนุกน่าดู”
รศ.ซ่อนกลิ่น พิเศษสกลกิจ (หนึ่งใน 4 มหาบัณฑิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ ศ.ดร.บรรจบ พันธุเมธา ดร.มานี ธรรมครองอาตม์ และศ.คุณหญิง กุหลาบ มัลลิกะมาส อาจารย์วุฒิปริญญาโทชุดแรกของโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม) เล่าไว้ในหนังสือ จารึกรักจันทรเกษม เพิ่มเติมในยุคแรกที่ย้ายมาลาดพร้าวว่า
“ที่ใหม่ลำบากมาก เหมือนอยู่ในทุ่งนา อาจารย์บรรจบเป็นกำลังสำคัญพานักเรียนทำถนน ทำรั้ว ยังนึกเห็นภาพอาจารย์บรรจบนำนักเรียนทำถนน ให้นักเรียนยืนเรียงแถวกันถือกระป๋องส่งต่อ ๆ กันเหมือนแถวทหารอียิปต์ เวลาฝนตกหลังคารั่วต้องเอากะละมังมารองน้ำ มีอยู่ครั้งหนึ่งมานอนเล่นกับเพื่อนที่บ้านพัก ไม่ได้กลับบ้านเหมือนทุกวัน มีงูเข้ามาในบ้านด้วย”
นอกจากปรับปรุงอาคารสถานที่แล้ว อาจารย์บรรจบ ยังให้ความสำคัญด้านวิชาการเป็นอย่างมาก ทำให้จันทรเกษมเป็นสถาบันที่บุกเบิกในเรื่องของการคิดคะแนนแบบเกรด A B C D จากเดิมคิดคะแนนเป็นตัวเลข และการจัดการสอนภาษาถิ่นในช่วงค่ำ การจัดรายการวิทยุภาษาถิ่น ริเริ่มให้นักศึกษาเลือกเรียนภาษาถิ่นที่ไม่ใช่ภาษาถิ่นของตนเอง และปรับหลักสูตรวิชาครูให้มีวิชาภาษาถิ่นเป็นวิชาเลือก
จากวิทยาลัยครูจันทรเกษมถึงคนไทนอกประเทศ
จากวังจันทรเกษมมาถึงลาดพร้าวแล้ว พิพิธภัณฑ์พาเราเดินทางต่อไปการสืบภาษาของอาจารย์บรรจบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือเรื่อง ชนชาติไทย (The Tai Race : Elder Brother of the Chinese) ของ นายแพทย์วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ กล่าวถึงผู้คนกลุ่มคนต่างๆที่พูดภาษา "ตระกูลไท" ที่อาศัยอยู่อย่างกว้างขวางในประเทศต่าง ๆของเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย พม่า ลาว และเวียดนาม
ทำให้อาจารย์บรรจบในฐานะครูผู้สอนประวัติศาสตร์ชนชาติไทย มีความมุ่งมั่นในการเดินทางไปพบปะคนไทในประเทศต่าง ๆ เพื่อสืบภาษา ต่อเนื่องจากเมื่อครั้งที่ท่านได้พบกับคนไทจากรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย เจ้าฟ้าไทใหญ่แห่งรัฐชาน ระหว่างที่ได้ทุนวัฒนธรรมสัมพันธ์ของรัฐบาลอินเดียร่วมกับทุนรัฐบาลไทยให้ไปศึกษาต่อที่เมืองพาราณสี (พ.ศ.2492 – 2495) โดยอาศัยช่วงเวลาปิดภาคเรียนการศึกษาและใช้ทุนส่วนตัวเป็นหลัก
ตลอดระยะเวลาการรับราชการที่วิทยาลัยจันทรเกษม ท่านได้สร้างผลงานตีพิมพ์เผยแพร่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ไมตรีทางภาษาเขมร-ไทย (พ.ศ.2500) ไปสอบคำไท (พ.ศ.2502) จดหมายจากมะละแหม่งและรัฐชาน
กาเลหม่านไต (ไปเที่ยวบ้านไทย) ที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย พระยาอนุมานราชธน เขียนคำนำในหนังสือเล่มนี้มีใจความตอนหนึ่งว่า
"ในที่นี้ อยากกล่าวถึงความบากบั่น กล้าเสี่ยงภัยของอาจารย์บรรจบ พันธุเมธา ที่เข้าไปในแดนแสนจะทูรกันดาร ซึ่งลางแห่งก็เป็นที่อยู่ของเหล่ามนุษย์ที่มีประเพณีล่าหัวคน คือตัดหัวเอาไปเป็นเครื่องพลีบูชาแก่ผีสางเทวดา
ปัญหาข้อถามที่ว่า เพราะอะไร อาจารย์บรรจบ พันธุเมธาจึงกล้าเข้าไปถึงแคว้นอัสสัมแต่ลำพังคนเดียวทั้ง ๆ ที่ยังเป็นสาวเป็นนางอยู่
ทั้งนี้ก็เพราะอาจารย์บรรจบ พันธุเมธา รักภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาชาติกำเนิดของตนและมีความสนใจภาษาของตน ไม่ใช่แต่ต้องการจะอ่านออก เขียนได้ สอนได้เท่านั้น ต้องการทราบเรื่อง 'อะไร ทำไม เมื่อไหร่ อย่างไร ที่ไหนและจากไหน' ของภาษาไทย อันเป็นการศึกษาขั้นสูงที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า pure knowledge"
จากประตูจันทร์ ถึงนิทรรศการบูชาครู ‘ม.ล.มานิจ ชุมสาย’ ครูใหญ่คนแรกผู้คิดจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม และ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ ‘บรรจบ พันธุเมธา’ ครูผู้สร้างครูผู้อุทิศตนให้แก่ภาษาไทย ที่ร้อยเรียงนำเสนอในพิพิธภัณฑ์จันทรเกษม ไม่เพียงแต่จะทำให้เรารู้จัก ม.ราชภัฏจันทรเกษม ได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
หากยังทำให้เราได้เห็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของการศึกษาของประเทศไทยที่เกิดจากความมุ่งมั่นของ ‘ครูผู้สร้างครู’ บูรพาจารย์ของแผ่นดินที่ควรค่าแก่การเชิดชูเกียรติเป็นอย่างยิ่ง
พิพิธภัณฑ์จันทรเกษม
- ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 อาคารนวัตกรรมการศึกษา ม.ราชภัฏจันทรเกษม
- สนใจเข้าเยี่ยมชมและศึกษาค้นคว้า สามารถติดต่อและสอบถามได้ที่สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในวันและเวลาราชการ
- โทร. 0 2942 6800 ต่อ 1718, 1709 Line OA : arit_cru