ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม

ร้อยเรื่องราวจากวังจันทรเกษมสู่ลาดพร้าว ผ่านชีวิตและผลงานของ ‘ม.ล.มานิจ ชุมสาย’ ครูใหญ่คนแรกผู้คิดจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม และ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ ‘บรรจบ พันธุเมธา’ ครูผู้อุทิศตนให้แก่ภาษาไทย

ย้อนตำนาน ม.ราชภัฏจันทรเกษม ไปกับซุ้มประตูจันทร์ (จำลอง) สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่หลอมรวมความภาคภูมิใจในอดีตของ ป.ม. หลังกระทรวง และที่มาของชื่อ จันทรเกษม ที่มีความเกี่ยวข้องกับพระราชวังจันทรเกษม แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ลอดซุ้มประตูจันทร์

เอ่ยชื่อ วังจันทรเกษม หลายคนอาจคิดถึง “พระราชวังจันทรเกษม” หรือ “วังหน้า” จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขณะดำรงตำแหน่งเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลก ในยามเสด็จมากรุงศรีอยุธยา โดยเรียกชื่อ วังจันท์ ตามชื่อ วังจันทน์ ที่พิษณุโลก

หากวัง จันทรเกษม ในที่นี้หมายถึง วังจันท์ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็น สยามมกุฎราชกุมาร

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม

ประตูจันทร์ (จำลอง) ที่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม

เนื่องจากวังจันท์ก่อสร้างแล้วเสร็จหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ จึงไม่เสด็จมาประทับ ทรงพระราชทานให้เป็นสถานที่เรียนของนักเรียนพรานหลวง สังกัดกรมมหรสพ และเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารมหาดเล็ก ราชวัลลภรักษาพระองค์ 

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้ยุบกรมมหรสพ ทำให้วังจันท์ว่างลงในระยะหนึ่ง กระทั่งปี 2480 ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมวิสามัญการเรือน (ภายหลังย้ายไปที่สวนสุนันทา) 3 ปีต่อมารัฐบาลมีมติให้ย้ายกระทรวงธรรมการ หรือ กระทรวงศึกษาธิการ มาอยู่ที่วังจันท์จนถึงปัจจุบัน

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ภาพถ่ายโบราณ “วังจันทรเกษม” ปัจจุบันเป็นที่ทำการกระทรวงศึกษาธิการ

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม รศ.ดร.สุมาลี ไชยศุภรากุล อธิการบดี ม.ราชภัฏจันทรเกษม

สำหรับที่มาของ ป.ม.หลังกระทรวง นั้น รศ.ดร.สุมาลี ไชยศุภรากุล อธิการบดี ม.ราชภัฏจันทรเกษม กล่าวว่า เดิมทีนั้น ม.ราชภัฎจันทรเกษม มีชื่อว่า โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม ซึ่งในสมัยแรกเริ่มในปีพ.ศ.2483 ยังไม่มีอาคารเรียนเป็นของตัวเอง ต้องไปอาศัยเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ใกล้ซอยกิ่งเพชร ถนนเพชรบุรี

ต่อมาย้ายไปใช้อาคารริมถนนในเขตวังจันทรเกษม ด้านหลังกระทรวงศึกษาธิการเป็นสถานที่เรียนจึงได้รับการเรียกขานกันว่า “ป.ม.หลังกระทรวง” (ป.ม.-ประกาศนียบัตรประโยคครูมัธยม)

ต่อมาในปี 2501 กระทรวงศึกษาธิการประกาศยกฐานะ “โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม” เป็น “วิทยาลัยครู” และให้เปลี่ยนหลักสูตรเป็นการผลิตครูประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง พร้อมให้ย้ายไปตั้งอยู่ในซอยสังขะวัฒนะ 2 ย่านลาดพร้าว จึงได้ตั้งชื่อใหม่ว่าเป็น “วิทยาลัยครูจันทรเกษม” เพราะเคยอยู่ในวังจันทรเกษม

และมาเปลี่ยนเป็น สถาบันราชภัฏจันทรเกษม ในปี 2538 เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น พร้อมกับการผลิตบัณฑิตในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี

 

พิพิธภัณฑ์จันทรเกษม

จากซุ้มประตูจันทร์ (จำลอง) สัญลักษณ์ของ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ท่านอธิการพาเดินต่อมายังอาคารนวัตกรรมการศึกษา กดลิฟต์ไปที่ชั้น 4 เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์จันทรเกษม ซึ่งจะพาเราย้อนเส้นทางจากวังเกษมสู่ลาดพร้าวในช่วงเวลาที่ซอยลาดพร้าว 23 ยังเป็นเพียงทุ่งนา ไม่มีน้ำประปา ไม่มีถนนลาดยาง ไม่มีรถเมล์ รถไฟฟ้ามหานคร ดังเช่นที่เห็นกันในวันนี้

นิทรรศการดำเนินเรื่องผ่านชีวิตและผลงานของ ‘บูรพาจารย์’   2 ท่าน ได้แก่ ม.ล.มานิจ ชุมสาย และ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา โดยเริ่มต้นที่ “กำเนิดโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม”

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ม.ล.มานิจ ชุมสาย ครูใหญ่คนแรกและผู้คิดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ห้องเรียนจำลองนำเสนอประวัติการศึกษาของ ม.ล.มานิจ ชุมสาย

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ม.ล.มานิจ ชุมสาย สมรสกับคุณเฉลิมขวัญ ปทุมเทวาภิบาล มีบุตรธิดา 4 คน ได้แก่ ดร.สุเมธ ดร.อาจอง สุชาดา และ ดร.ปาริชาติ ชุมสาย ณ อยุธยา

ปีพ.ศ.2477 ขณะที่ ม.ล.มานิจ ชุมสาย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงตรวจการศึกษาประจำภาคอุดรและอาจารย์ใหญ่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล การเดินทางไปตรวจราชการในท้องที่ต่าง ๆ ทำให้ท่านพบว่าประเทศไทยขาดแคลนครูที่มีคุณวุฒิสูง มีแต่ครูมูล (ประถม) ในเวลานั้นมีเพียงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่ผลิตครูมัธยมซึ่งไม่เพียงพอกับจำนวนโรงเรียนที่มีอยู่

หลังจากที่ท่านกลับเข้ามาประจำกองวิชาการของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำอยู่กรมสามัญศึกษา ในปีพ.ศ.2480  ท่านจึงเริ่มคิดตั้งกองฝึกหัดครูอย่างจริงจังให้มีวุฒิสูงขึ้นเพื่อให้สอนวิชาในระดับมัธยมศึกษาได้  3 ปีต่อมาโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมแห่งแรกถือกำเนิดขึ้น โดยมี ม.ล.มานิจ เป็นอาจารย์ใหญ่

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ม.ล.มานิจ ชุมสาย เป็นผู้รักงานเขียนเป็นอย่างมาก ท่านสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการ ประมวลการสอน พจนานุกรม ตำราเรียน และงานเขียนด้านอื่น ๆ มากมาย

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ปีพ.ศ. 2491 ม.ล.มานิจ ย้ายจากกองฝึกหัดครูมาเป็นหัวหน้ากองการต่างประเทศทำหน้าที่ประสานงานด้านการศึกษากับองค์การยูเนสโก ต่อมาได้เดินทางไปประจำที่ยูเนสโก ณ กรุงปารีส ทำให้ไทยให้ได้รับความช่วยเหลือในโครงการทดลองการประถมศึกษาที่ จ.ฉะเชิงเทรา และการก่อตั้งศูนย์กลางอบรมการศึกษาผู้ใหญ่ จ.อุบลราชธานี เป็นต้น

"การตั้งกองฝึกหัดครูกว่าจะเข้ารูปได้ต้องทำเสียทุกอย่าง วางโครงการ หลักสูตร วิธีการสอน คิดแบบเครื่องเล่นแล้วมาโดนสงคราม ต้องเขียนตำราพิมพ์ใช้เอง และอพยพนักเรียนหนีลูกระเบิด ระยะเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่กองฝึกหัดครูต้องคร่ำเคร่งต่อสู้กับการงานอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งกลางวันกลางคืน” 

ม.ล.มานิจ ได้กล่าวไว้ในบทความ “ข้าพเจ้าคิดจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม” (จากหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พลตำรวจจัตวา ดร.ม.ล.มานิจ ชุมสาย) มีความตอนหนึ่งว่า

“ตั้งแต่ต้นข้าพเจ้าได้อบรมนักเรียนโรงเรียนนี้ให้มีจิตใจเข้มแข็งไม่หยิบโหย่ง รักงาน ไม่เลือกงาน ถ้าจะไปอยู่ที่ใดให้รับใช้โรงเรียนทุกอย่าง ไม่ให้เลือกวิชาให้สอนทุกอย่างไม่ว่าครูใหญ่เขาจะให้สอนวิชาใด กระทำตัวเห็นว่าเป็นนักเรียน ป.ม. หลังกระทรวงทำได้ทุกอย่าง

โดยเฉพาะวิชาที่หาคนสอนไม่ได้ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษต้องรับสอน ดังนั้นในหลักสูตรโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม ข้าพเจ้าจึงบรรจุวิชาเหล่านี้เข้าไปด้วย เพื่อให้สามารถไปสอนวิชาเหล่านี้ได้”

แม้การฝึกหัดครูมัธยมจะเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ก็สามารถผลิตครูออกไปปฏิบัติหน้าที่และสร้างชื่อเสียงได้เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น รัชนี ศรีไพรวรรณ ผู้แต่ง มานะ มานี ปิติ ชูใจ แบบเรียนวิชาภาษาไทยชั้นประถม คุณหญิงบรรจง นิวาศะบุตร คุณหญิงจันทนี สันตะบุตร คุณหญิงวนิดา ธูปะเตมีย์ ศาสตราจารย์บุญถึง แน่นหนา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และ เดโช สวนานนท์ เป็นต้น

 

จากวังจันทรเกษมถึงลาดพร้าว

เมื่อกระทรวงศึกษาธิการยกฐานะโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมเป็นวิทยาลัยครู โดยมีชื่อใหม่ว่า "วิทยาลัยครูจันทรเกษม" ม.ล.มานิจ ได้ฝาก บุญถิ่น อัตถากร (อธิบดีกรมการฝึกหัดครูคนแรก) ให้ช่วยหาสถานที่เรียนให้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีสถานที่และโรงเรียนเป็นของตนเอง อาศัยอาคารที่พักนักเรียนพรานหลวง ริมกำแพงวังจันทรเกษม จนได้ชื่อว่า ป.ม.หลังกระทรวงมานาน

พ.ศ.2501 คุณบุญถิ่น ได้พื้นที่บริเวณซอยสังขะวัฒนะ 2  ถนนลาดพร้าว จึงย้ายนักเรียนทั้งหมดมาอยู่ย่านลาดพร้าวจนถึงวันนี้

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ศาสตราจารย์ ดร.คุณบรรจบ พันธุเมธา อาจารย์วุฒิปริญญาโทชุดแรกของโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม

ศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา ครูผู้สอน ครูหอพัก ดูแลนักศึกษาหญิงชายกว่า 200 คน เคยเล่าว่า

“วันแรกที่เรา (ครูและนักเรียน) เข้ามาถึงสถานที่ใหม่ อาคารเรียนของจันทรเกษมแทนที่จะเป็นตึกโอฬารกลับเป็นอาคารไม้อย่างโรงเรียนในชนบทเพราะรัฐบาลมีนโยบายใช้ของในประเทศ อาคารเรียนนี้ตั้งโดดเด่นอยู่กลางแสงแดด หลังอาคารมีโรงอาหารและครัวซึ่งไม่มีทางเดินเชื่อมต่อกัน ต้องลงจากเนินดินนี้ไปขึ้นเนินดินโน้น ไม่มีฝนก็ทนไหว ถ้าฝนตกจะทำอย่างไรคงสนุกน่าดู”

รศ.ซ่อนกลิ่น พิเศษสกลกิจ (หนึ่งใน 4 มหาบัณฑิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ ศ.ดร.บรรจบ พันธุเมธา ดร.มานี ธรรมครองอาตม์ และศ.คุณหญิง กุหลาบ มัลลิกะมาส  อาจารย์วุฒิปริญญาโทชุดแรกของโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม) เล่าไว้ในหนังสือ จารึกรักจันทรเกษม เพิ่มเติมในยุคแรกที่ย้ายมาลาดพร้าวว่า

“ที่ใหม่ลำบากมาก เหมือนอยู่ในทุ่งนา อาจารย์บรรจบเป็นกำลังสำคัญพานักเรียนทำถนน ทำรั้ว ยังนึกเห็นภาพอาจารย์บรรจบนำนักเรียนทำถนน ให้นักเรียนยืนเรียงแถวกันถือกระป๋องส่งต่อ ๆ กันเหมือนแถวทหารอียิปต์ เวลาฝนตกหลังคารั่วต้องเอากะละมังมารองน้ำ มีอยู่ครั้งหนึ่งมานอนเล่นกับเพื่อนที่บ้านพัก ไม่ได้กลับบ้านเหมือนทุกวัน มีงูเข้ามาในบ้านด้วย”

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม อาคารเรียนในยุคแรก

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม "ศาลาแรงใจ" สร้างขึ้นจากทรัพย์ส่วนตัวของ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา ที่ได้จากการสอนพิเศษ

นอกจากปรับปรุงอาคารสถานที่แล้ว อาจารย์บรรจบ ยังให้ความสำคัญด้านวิชาการเป็นอย่างมาก ทำให้จันทรเกษมเป็นสถาบันที่บุกเบิกในเรื่องของการคิดคะแนนแบบเกรด A B C D จากเดิมคิดคะแนนเป็นตัวเลข และการจัดการสอนภาษาถิ่นในช่วงค่ำ การจัดรายการวิทยุภาษาถิ่น ริเริ่มให้นักศึกษาเลือกเรียนภาษาถิ่นที่ไม่ใช่ภาษาถิ่นของตนเอง และปรับหลักสูตรวิชาครูให้มีวิชาภาษาถิ่นเป็นวิชาเลือก

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม นักศึกษาในยุควิทยาครูจันทรเกษม

 

จากวิทยาลัยครูจันทรเกษมถึงคนไทนอกประเทศ

จากวังจันทรเกษมมาถึงลาดพร้าวแล้ว พิพิธภัณฑ์พาเราเดินทางต่อไปการสืบภาษาของอาจารย์บรรจบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือเรื่อง ชนชาติไทย (The Tai Race : Elder Brother of the Chinese) ของ นายแพทย์วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ กล่าวถึงผู้คนกลุ่มคนต่างๆที่พูดภาษา "ตระกูลไท" ที่อาศัยอยู่อย่างกว้างขวางในประเทศต่าง ๆของเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย พม่า ลาว และเวียดนาม 

ทำให้อาจารย์บรรจบในฐานะครูผู้สอนประวัติศาสตร์ชนชาติไทย มีความมุ่งมั่นในการเดินทางไปพบปะคนไทในประเทศต่าง ๆ เพื่อสืบภาษา ต่อเนื่องจากเมื่อครั้งที่ท่านได้พบกับคนไทจากรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย เจ้าฟ้าไทใหญ่แห่งรัฐชาน ระหว่างที่ได้ทุนวัฒนธรรมสัมพันธ์ของรัฐบาลอินเดียร่วมกับทุนรัฐบาลไทยให้ไปศึกษาต่อที่เมืองพาราณสี (พ.ศ.2492 – 2495)  โดยอาศัยช่วงเวลาปิดภาคเรียนการศึกษาและใช้ทุนส่วนตัวเป็นหลัก

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ห้องจัดแสดงการเดินทางไปสืบภาษา “ตะกูลไท” ในประเทศต่าง ๆ ของศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม อุปกรณ์ที่นำติดตัวไประหว่างเดินทาง ได้แก่ วิทยุเทป เครื่องบันทึกเสียง(ในกระเป๋าสีส้ม) และ กล้องถ่ายรูป

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม "ข้าพเจ้าไม่อาจอธิบายให้ใครฟังได้โดยแจ้ง นอกเสียจากผู้นั้นจะสนใจอย่างที่ข้าพเจ้าสนใจ จึงจะทราบว่ามันเป็นความผาสุกเพียงใด ที่ได้พบคนที่พูดภาษาเดียวกับตนอยู่ตามที่ต่าง ๆ จากประเทศไทยไกลออกไปนับพัน ๆไมล์ ทั้งผลงานที่ได้จากการศึกษาหาความรู้จากภาษาของเขา ยังให้ความสุขเบิกบานใจ ไม่ผิดกับได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายในโลกใบนี้"  ศาสตราจารย์ ดร.คุณ บรรจบ พันธุเมธา
 

ตลอดระยะเวลาการรับราชการที่วิทยาลัยจันทรเกษม ท่านได้สร้างผลงานตีพิมพ์เผยแพร่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ไมตรีทางภาษาเขมร-ไทย (พ.ศ.2500) ไปสอบคำไท (พ.ศ.2502) จดหมายจากมะละแหม่งและรัฐชาน 

กาเลหม่านไต (ไปเที่ยวบ้านไทย) ที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย พระยาอนุมานราชธน  เขียนคำนำในหนังสือเล่มนี้มีใจความตอนหนึ่งว่า

"ในที่นี้ อยากกล่าวถึงความบากบั่น กล้าเสี่ยงภัยของอาจารย์บรรจบ พันธุเมธา ที่เข้าไปในแดนแสนจะทูรกันดาร ซึ่งลางแห่งก็เป็นที่อยู่ของเหล่ามนุษย์ที่มีประเพณีล่าหัวคน คือตัดหัวเอาไปเป็นเครื่องพลีบูชาแก่ผีสางเทวดา

ปัญหาข้อถามที่ว่า เพราะอะไร อาจารย์บรรจบ พันธุเมธาจึงกล้าเข้าไปถึงแคว้นอัสสัมแต่ลำพังคนเดียวทั้ง ๆ ที่ยังเป็นสาวเป็นนางอยู่

ทั้งนี้ก็เพราะอาจารย์บรรจบ พันธุเมธา รักภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาชาติกำเนิดของตนและมีความสนใจภาษาของตน ไม่ใช่แต่ต้องการจะอ่านออก เขียนได้ สอนได้เท่านั้น ต้องการทราบเรื่อง 'อะไร ทำไม เมื่อไหร่ อย่างไร ที่ไหนและจากไหน' ของภาษาไทย อันเป็นการศึกษาขั้นสูงที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า pure knowledge"

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ส่วนหนึ่งของผลงานทางวิชาการ และงานแปลที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

จากประตูจันทร์ ถึงนิทรรศการบูชาครู ‘ม.ล.มานิจ ชุมสาย’ ครูใหญ่คนแรกผู้คิดจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยม และ ศาสตราจารย์ ดร.คุณ ‘บรรจบ พันธุเมธา’ ครูผู้สร้างครูผู้อุทิศตนให้แก่ภาษาไทย ที่ร้อยเรียงนำเสนอในพิพิธภัณฑ์จันทรเกษม ไม่เพียงแต่จะทำให้เรารู้จัก ม.ราชภัฏจันทรเกษม ได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น 

หากยังทำให้เราได้เห็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของการศึกษาของประเทศไทยที่เกิดจากความมุ่งมั่นของ ‘ครูผู้สร้างครู’ บูรพาจารย์ของแผ่นดินที่ควรค่าแก่การเชิดชูเกียรติเป็นอย่างยิ่ง

 

ลอดซุ้มประตูจันทร์ ท่องพิพิธภัณฑ์ ‘จันทรเกษม’ จากโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมหลังกระทรวงสู่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม

พิพิธภัณฑ์จันทรเกษม

  • ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 อาคารนวัตกรรมการศึกษา ม.ราชภัฏจันทรเกษม
  • สนใจเข้าเยี่ยมชมและศึกษาค้นคว้า สามารถติดต่อและสอบถามได้ที่สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในวันและเวลาราชการ 
  • โทร. 0  2942  6800 ต่อ 1718, 1709 Line OA : arit_cru