ทำไม “แอนนา เสือ” ไม่เข้ารอบแรก Top 16 ฟังจาก “แอน จักรพงษ์"
“แอน จักรพงษ์” ตอบข้อสงสัยแฟนนางงาม เหตุใด “แอนนา เสือ” ไม่เข้าแม้แต่รอบแรก Top16 ลั่นแม้เป็นเจ้าขององค์กร แต่คณะกรรมการก็ไม่ไว้หน้า, ทำไมมิสยูนิเวิร์สลาวเข้ารอบ Top16, ทำไมขึ้นมอบรางวัล Transformational Leadership
หลังเสร็จสิ้นการประกาศผล การประกวด Miss Universe 2022 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจัดขึ้น ณ นิวออร์ลีนส์ มอเรียล คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ นครนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 ตามเวลาในประเทศไทย
สร้างความตกใจและเสียใจให้กับแฟนนางงามไทยที่เฝ้าติดตามชมการถ่ายทอดสด เนื่องจาก แอนนา เสือ หรือ แอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทย ไม่แม้แต่จะผ่านการคัดเลือกเข้าไปเดินรอบแรก หรือ Top 16 ซึ่งเป็นการประกวดรอบแรกของการประกวดรอบชิงชนะเลิศ มิสยูนิเวิร์ส 2022
แอนนา เสือ บนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2022
ทั้งที่ระหว่างการเก็บตัวที่นิวออร์ลีนส์ แอนนา เสือ มีความโดดเด่นทั้งในด้านความสวย การเป็นนักต่อสู้ที่ผลักดันตนเองให้เป็นคนดีจากต้นทุนทางสังคมที่จำกัด และความคิด โดยเฉพาะ “ชุดราตรีฝากระป๋องโซดาใช้แล้ว” ได้รับความสนใจเป็นที่จับตาของสื่อทั่วโลก
แถมยังมีรายชื่ออยู่ทั้งรอบ Top16 ทะลุไปจนถึงรอบลึก Top5 จากการคาดการณ์ของ "เพจแฟนนางงาม" ทั้งไทยและต่างประเทศ
ทำให้เกิดคำถาม ความไม่สบายใจ และการคาดเดาไปต่างๆ นานา
ดังนั้น แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เจ้าของ "องค์กรนางงามจักรวาล" (Miss Universe Organization - MUO) ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์ส หรือ “แม่แอน” ของแฟนนางงามไทย จึงเปิดไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก JKN18 ให้ ความคิดเห็นส่วนตัว "เหตุใด แอนนา เสือ ไม่เข้ารอบแรก Top16" เป็นเวลา 21.44 นาที ก่อนเดินทางไปร่วมงาน after party การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2022 รอบชิงขนะเลิศ พอจะสรุปได้ 4 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 : กติกาคือกติกา ประเทศใคร..ใครก็รัก
“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกติกา แม่ก็นั่งดูพร้อมกับทุกคนนั่นแหละค่ะ ไม่มีอะไรมากนอกเหนือจากคณะกรรมการ”
แอน จักรพงษ์ กล่าวว่า การประกวดนางงามคือการแข่งขันอย่างหนึ่ง เหมือนแข่งกีฬา ต่างคนต่างเชียร์ประเทศของตน ทุกคนต่างรักประเทศและอยากให้ประเทศตัวเองชนะการแข่งขัน แต่ต้องเคารพกติกา
“เป็นไปตามกติกา เราเกี่ยวอะไรไม่ได้เลย และใช้ Ernst & Young (EY หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชี 4 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก) เป็นสถาบันบิ๊กโฟร์ (Big 4) ของประเทศและทั่วโลกในการนับและเก็บคะแนน โกงไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้
ทุกคนอยากจะเชียร์ รักนางงามของตัวเอง เราก็รักและเคารพนางงามของเรา เราก็อยากให้เขาได้ดีที่สุด คนอื่นก็เสียใจเหมือนกับเรา
แต่แม่ (แอน จักรพงษ์) เป็นเจ้าขององค์กร (MUO) เพราะฉะนั้นก็ต้องพูดเป็นกลาง ว่ากติกาคือกติกา เราเชียร์ของเรา เราก็คิดว่าของเราดีที่สุด คนอื่นก็คิดว่าของเขาดีที่สุด
นางงามหลายๆ คน เรียกได้ว่าคนกากบาทไว้ ว่าเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน 16 คนยังไม่ได้เข้าเลย ต้องบอกว่า(นางงาม) 15 คน คือกรรมการเลือก แต่หนึ่งคนที่มาจากการโหวต(จากทั่วโลก)คือ ลาว
เราต้องเคารพกติกา เราจะเสียใจ เราจะผิดหวัง เราจะไม่ชอบใจ มีคนถูกใจไม่ถูกใจ..แน่นอน การแข่งขันมันเกิดขึ้น เป็นธรรมชาติ แต่เราต้องเข้าใจว่า ธรรมชาติของคนดู เมื่อไม่พอใจแล้ว เมื่อเสียใจแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติพักหนึ่ง แล้วกลับมาสู่สติของเรา”
ประเด็นที่ 2 : "สายแข็ง" เยอะมาก
การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2022 ผู้เข้าประกวดแต่ละประเทศมีความสวยงามกันมาก เรียกได้ว่าเข้าขั้น “สายแข็ง” บางคนไม่แต่งหน้าก็ยังสวยมาก แอนนา เสือ ก็สวยมาก แต่คณะกรรมการไม่ได้พิจารณาจากความสวยเท่านั้น แต่มีมาตรฐานข้ออื่นๆ ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามในห้องดำ การเข้าร่วมกิจกรรม
แอน จักรพงษ์ ยังให้ความเห็นไปถึง "ความแข็งแรง" ในการตอบคำถามที่ทำให้ มิสยูนิเวิร์ส สหรัฐอเมริกา คว้ามงกุฎนางงามจักรวาล 2022 ไปครอง
“คนแข่งขันสายแข็งมาก สวยเยอะมาก สวยจึ้งเยอะมาก ตอบคำถามกันเยอะมาก และ force for good มาก ทรานส์ฟอร์เมชั่นนอลลีดเดอร์ชิปมาก
ถ้าฟังแม่ตั้งแต่ตอนต้น พูดแล้วพูดอีก จะเข้าทางมากในความเป็นผู้นำเชิงปฏิรูป นี่คือสิ่งที่เรามองหา ทุกคนก็ตอบคำถามดี แต่คำถามสุดท้าย ยูเอสเอตอบคำถามสุดท้าย..โอ้พระเจ้า โดนทุกข้อที่คณะกรรมการมองหา ที่องค์กร(MUO)มองหา
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ อีกสองคนเป็นละติน พูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ไม่ได้ลึกเท่ากันกับการที่อเมริกันตอบเอง"
ประเด็นที่ 3 : “แม่ก็ตกใจ ทำไมแอนนาไม่เข้า”
“นั่งกำมือกันอย่างนี้ แม้กระทั่งกรรมการยังไม่เกรงใจเจ้าของคือฉันนะ ฉันบอกพวกเธอเลยนะ เขาไม่เกรงใจนะ คือเจ้าของเป็นคนไทยแล้วไง ก็จะเป็นการบอกคนทั้งโลกว่าไม่มี favoritism (การเล่นพรรคเล่นพวก) คือคนไทยเองก็ยังไม่เข้าเลย คือเป็นไปตามกติกา
ฉันก็คิดว่า(แอนนา)ต้องเข้า เพราะทุกคนก็บอกว่ามีโพลล์อย่างนั้นอยางนี้ เราก็โอ้ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้น เอาจริงๆ นะนี่เพิ่งจบงานยังไม่รู้
ถ้าถามก็คือจากความคิดเห็น จากที่มองส่วนตัวนะ คิดว่าน้องทำดีที่สุด เต็มที่แล้ว แต่ปีนี้สายแข็งเยอะ เยอะจนน่ากลัว เต็มที่ก็เข้า 16 (Top16) เข้าห้าคนยากมากเลย เพราะขนาดโคลอมเบียยังไม่ไปเลย ช็อคทุกคน สายแข็งมากปีนี้
ทำไมแอนนาไม่เข้า 16 คน แม่ตอบแทนไม่ได้ แต่แม่ก็ช็อค แล้วแม่ก็ยืนยันได้อย่างหนึ่งและทำให้ทุกคนต้องคิดไปข้างหน้า ขนาดเป็นเจ้าของคนไทย กรรมการยังไม่สนดิฉันเลย ยังไม่แคร์เลย เพราะเขาต่างคนต่างให้คะแนน ต่างคนต่างมี criteria (เกณฑ์) มีปัจจัยในการให้คะแนนเหมือนกัน แต่ต่างคนต่างให้คะแนนโดยไม่ได้คุยกัน แล้วรวมคะแนนโดย EY นั่นคือสิ่งที่ต้องเคารพเขา”
ประเด็นที่ 4 : ขึ้นมอบรางวัล Transformational Leadership
“ต้องบอกว่าเราดีใจ อย่างน้อย screen (หน้าจอภาพ) ขึ้นว่าผู้ชนะคือไทยแลนด์ ไปดูเขาก็ได้สูงสุดจริงๆ ที่เข้ามาก็มีลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทยแลนด์ แต่ไทยแลนด์มากที่สุด เป็นคะแนนที่ว่าด้วยลีดเดอร์ชิปจริงๆ ว่าด้วยประวัติของเขาในการต่อสู้ของเขา ซึ่งเวลาแม่เจอที่หลังเวที ก็กอดเขาซ้ายขวาและบอกว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว
ในฐานะเป็นเจ้าขององค์กรนางงามจักรวาล จะมานั่งคุยเกี่ยวกับประเทศคนใดคนหนึ่งคงไม่เหมาะนัก แต่เพราะมีคำถามเข้ามา เราก็ตอบ และก็ตอบแบบนี้อย่างที่ตอบกับทุกชาติ
โคลอมเบียก็เข้ามาถาม ทำไมเขาไม่เข้ารอบห้าคน ฉันก็บอกฉันคงตอบแทนไม่ได้ เพราะฉันไม่ใช่กรรมการ เจ้าของถ้าไปยุ่ง ถ้าไปจิ้ม ไม่ใช่ อย่าเอาความไม่พอใจของเรามาคอมเมนต์ แล้วก็คือไม่ได้ดูถึงมาตรฐานที่เขามีกันอยู่ เขามองทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ก็ดีใจแล้วการที่เขาได้รางวัล ลีดเดอร์ชิปอะวอร์ด หรือ Transformational Leadership ทำให้คนทั่วโลกเห็นตัวตนของเขา การเป็นนักสู้ของเขาที่ดีและโหวต ที่ทำให้เขาได้รางวัลนี้ เพราะมาจากคะแนนโหวตทั้งสิ้น
แม่ออกไปให้สุนทรพจน์และแม่ก็เป็นคนให้รางวัลเขา คนอื่นเขาจะมองยังไงว่าเรา favoritism หรือเปล่า เราไม่ได้มองอย่างนั้น เราถึงได้พูดว่า เพราะเป็นไปตามผลของโพลล์ที่เกิดขึ้น น้องได้รางวัล ก็ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากความสามารถของน้องเองที่ทำให้คนโหวตและศรัทธาในตัวเขา
เป็นคนไทยขึ้นไปพูดขณะที่เป็นเจ้าของ(MOU) ประกาศว่าประเทศตัวเองได้(รางวัล) คนอื่นจะมองยังไงถ้าไม่มีหลักฐาน ก็เพราะมีหลักฐานที่ดี”
สุดท้ายแล้ว แอน จักรพงษ์ฝากข้อคิดไว้ว่า หากนำความพึงพอใจของตนเองมาเป็นตัวตัดสินอย่างเดียว เราจะไม่พัฒนาไปไหนเลยทั้งในเรื่องคุณภาพองค์กรและความศรัทธาของคนดูทั่วโลก เราควรเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นแรงผลักดัน ต้องเปลี่ยนแรงผิดหวังให้เป็นแรงบันดาลใจ
credit photo : เฟซบุ๊ก JKN18
