ทำไม Birkenstock รองเท้าแตะสุขภาพแบรนด์เก๋า ถึงครองใจคนรุ่นใหม่สายแฟชั่น?
ที่ผ่านมารองเท้าแตะสายสุขภาพ “Birkenstock” อาจถูกมองว่าเป็นแบรนด์สำหรับคนมีอายุ แต่ล่าสุดกำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบแฟชั่นแต่ก็ยังต้องการความสบายให้ “ฝ่าเท้า”
Key Points:
- “Birkenstock” รองเท้าแตะสัญชาติเยอรมัน ที่ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1897 มีอายุมากถึง 127 ปี แต่ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
- ที่ผ่านมา Birkenstock ถูกมองว่าเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพ ที่คนมีอายุนิยมสวมใส่ เพราะออกแบบมาให้รองรับกับ “ฝ่าเท้า” โดยเฉพาะ แต่ล่าสุดก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคนรุ่นใหม่เช่นกัน
- ปัจจัยสำคัญในการสร้างความนิยมให้รองเท้าแบรนด์นี้ นอกจากจะใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาช่วยแล้ว คนดังในวงการบันเทิงก็นิยมหยิบมาใส่ออกสื่อ รวมถึงยังปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ “บาร์บี้” อีกด้วย
ภาพลักษณ์ของ “Birkenstock (เบอร์เคนสต๊อก)” ในอดีตมักถูกมองว่าเป็นรองเท้าแตะสำหรับคนมีอายุหรือผู้ที่ใส่ใจสุขภาพที่ต้องยืนหรือเดินนานๆ เนื่องจากรองเท้าถูกออกแบบมาให้รองรับกับฝ่าเท้าของผู้สวมใส่ มีความคงทน และห่างไกลจากคำว่า “แฟชั่น”
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Birkenstock ก็ได้รับความสนใจจากแวดวงแฟชั่นมากขึ้น หลังเซเลบริตี้ตัวแม่หลายคนเริ่มนำมาใส่ออกสื่อ โดยเฉพาะนางแบบระดับแถวหน้าของวงการอย่าง Gigi Hadid และ Kendal Jenner
Gigi Hadid (Who What Wear)
ไม่ใช่แค่นั้นแต่รองเท้าดังกล่าวยังไปปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Barbie อีกด้วย ทำให้ความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่พุ่งสูงขึ้น
ภาพยนตร์ Barbie (Footwear news)
- “Birkenstock” รองเท้าแตะสัญชาติเยอรมัน ที่เน้นซัปพอร์ต “เท้ามนุษย์”
แม้ว่าจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของ Birkenstock จะเกิดขึ้นในปี 1897 โดย คอนราด เบอร์เคนสต๊อก (Konrad Birkenstock) แต่มีเรื่องเล่าที่ระบุอยู่ในเว็บไซต์ Birkenstock เขียนเอาไว้ว่า ชื่อของรองเท้าแบรนด์นี้เคยถูกพูดถึงมาตั้งแต่ปี 1774 ว่า โยฮันเนส อดัม เบอร์เคนสต๊อก (Johannes Adam Birkenstock) คือ “ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ด้านการทำรองเท้า”
โยฮันเนส ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทของเยอรมนีและเริ่มทำรองเท้าที่ทำด้วยมือทุกขั้นตอน โดยเขาเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง เพื่อให้สอดรับกับชีวิตในชนบทของชาวเยอรมันที่ช่วงนั้นมีสภาพอากาศรุนแรง ทำให้ผู้คนนิยมสวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่มีความทนทานแต่ก็ไม่ได้มีราคาสูงเกินไป
ต่อมาเมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 สภาพสังคมในเยอรมนีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรม และเริ่มเข้าสู่สังคมของ “ชนชั้นกลาง” ทำให้ความต้องการอุปโภคบริโภคเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นยังส่งผลไปถึงความนิยมใน “รองเท้า” อีกด้วย ช่างฝีมือทำรองเท้าแบบดั้งเดิมจึงเริ่มทยอยหายไป แต่ “Birkenstock” ยังสามารถรักษาความนิยมในฐานะรองเท้าคุณภาพสูงเอาไว้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากการ “ปฏิรูปรองเท้า” ภายใต้การดูแลของ คอนราด ที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ของแบรนด์
คอนราด เริ่มทำรองเท้าคู่แรกในปี 1895 จากแนวคิดที่ว่า ในเมื่ออุ้งเท้าของคนเรามีส่วนโค้ง แต่ทำไมพื้นรองเท้าทั่วไปถึงมีลักษณะแบน และไม่รองรับกับอุ้งเท้า ?
หลังจากนั้น คอนราด ก็เริ่มพัฒนารองเท้าให้เข้ากับรูปเท้าของมนุษย์มากขึ้น และในปี 1897 เขาก็พัฒนารองเท้าที่มีรูปร่างสอดคล้องกับลักษณะทางกายวิภาคของมนุษย์ได้สำเร็จ โดยมีส้นรองเท้าโค้งมน และมีพื้นรองเท้าที่รองรับกับฝ่าเท้าได้พอดี เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรองเท้า ต่อมา Birkenstock ก็เข้าสู่อุตสาหกรรมรองเท้า และเปิดตัวในตลาดรองเท้าสหรัฐเมื่อปี 1966
ตัวอย่างพื้นรองเท้าของ Birkenstock
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมารองเท้า Birkenstock ได้รับความนิยมในกลุ่มคนวัยทำงานไปจนถึงคนมีอายุ เพราะเป็นรองเท้าที่ใส่สบายและทนทาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แบรนด์เริ่มเข้าถึงผู้บริโภคอายุน้อยที่ชื่นชอบแฟชั่น รวมถึงได้ร่วมงานกับแบรนด์หรูอย่าง Dior
- จากรองเท้าสุขภาพ สู่รองเท้าสายแฟชั่นของ “คนรุ่นใหม่”
“Birkenstock” เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์และแบรนด์ดังมากมาย เช่น Manolo Blahnik (มาโนโล บลาห์นิก) ดีไซเนอร์ชาวสเปนเจ้าของแบรนด์รองเท้าสุดหรูที่มีชื่อเดียวกับเขา รวมถึงมีการออกแบบร่วมกับแบรนด์หรู Dior ในคอลเลกชันพิเศษ ที่มีราคาเริ่มต้นคู่ละประมาณ 41,000 บาท ออกวางจำหน่ายในเว็บไซต์และหน้าร้านของ Dior
DIOR by BIRKENSTOCK 2022 (GQ)
โดยในปี 2020 Birkenstock สร้างโรงงานผลิตรองเท้ามูลค่า 127 ล้านดอลลาร์ ในเยอรมนี หลังจากนั้นในปี 2022 ก็ได้รับรางวัล FNAA Collaboration of the Year ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงมากขึ้น
ด้วยความที่แบรนด์พัฒนาดีไซน์ของรองเท้าอยู่ตลอดเวลา แต่ยังคงคุณภาพและความสบายเท้าเอาไว้ได้ ทำให้กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เริ่มหันมาสวมใส่ Birkenstock มากขึ้น เพราะส่วนหนึ่งมองว่าแม้จะเป็นรองเท้าที่ใส่สบายเท้า เดินหรือยืนนานๆ ก็ไม่เมื่อย แต่ด้วยความที่มีหลากหลายสีสัน ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น
จากปัจจัยดังกล่าวกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้รายได้ของ Birkenstock เพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (อยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ข้อมูล ณ วันที่ 12 ต.ค. 2023 จาก The Economist) และที่สำคัญยอดขายเกือบครึ่งหนึ่งในปี 2022 มาจากผู้ซื้อที่มีอายุ 20 - 30 ปี สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการตลาดบนโลกโซเชียลที่เน้นการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ทำให้ Birkenstock เปิดหน้าร้านเป็นสาขาที่ 4 ในสหรัฐอเมริกาได้
นอกจากนี้หลังจากภาพยนตร์เรื่อง “Barbie” ออกฉาย ก็ทำให้ความต้องการของรองเท้าดังกล่าวพุ่งสูงขึ้น เพราะ Birkenstock ไปปรากฏอยู่ในหนังด้วย
- กระแสแฟชั่น “Barbie” และรองเท้าแตะแบรนด์เก๋า
“เธออยากรู้ความจริงเกี่ยวกับจักรวาล หรือกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ?” ประโยคจากฉากใน Barbie ที่ เวียร์ด บาร์บี้ (Weird Barbie) ถามบาร์บี้ที่กำลังสับสนหลังจากจู่ๆ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับเท้าที่อยู่ในสภาพแบนจนฝ่าเท้าติดพื้น (เท้าบาร์บี้จะเขย่งอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตุ๊กตา) ทำให้เธอต้องออกตามหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ซึ่งถ้าเธอเลือกส้นสูงก็อาจจะได้กลับไปใช้ชีวิตในบาร์บี้แลนด์เหมือนเดิม แต่ถ้าเลือกรองเท้าแตะที่ดูธรรมดาๆ อย่าง “Birkenstock” ก็จะต้องเดินทางไปยังโลกแห่งความจริง
แม้ว่าบาร์บี้จะไม่ได้เต็มใจเลือกรองเท้าแตะตั้งแต่แรก แต่เพราะเวียร์ดบอก (แกมบังคับ) ให้เลือก เธอจึงต้องออกไปตามหาความหมายของชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง และพบว่ามันโหดร้ายกว่าที่จินตนาการไว้ แต่ท้ายที่สุดเมื่อได้เรียนรู้และทำความเข้าใจ เธอก็เลือกจะอยู่กับความเป็นจริงต่อไป ตอนจบของภาพยนตร์เราจึงได้เห็นเธอใส่รองเท้า Birkenstock สีชมพู เดินเข้าไปตรวจภายในสำหรับผู้หญิง
ภาพยนตร์ Barbie (yahoo life)
หลังบาร์บี้ออกฉายวันแรกก็ทำให้ ยอดค้นหา “Birkenstock” พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในเดือน ก.ค. 2023 และยังได้รับความสนใจในแพลตฟอร์มออนไลน์ขวัญใจคนรุ่นใหม่อย่าง “TikTok” เพราะเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นต่างพากันทำคลิป Unboxing (แกะกล่องแนะนำสินค้า) ออกมามากมายจนกลายเป็นไวรัล
จากกระแสแฟชั่นของภาพยนตร์ Barbie ทำให้การค้นหา “Birkenstock sandals for women” ในกูเกิล เพิ่มขึ้นถึง 346% ตามมาด้วย “Birkenstocks on sale” เพิ่มขึ้น 102% “buy Birkenstock sandals” เพิ่มขึ้น 76% และ “Birkenstock sandals” เพิ่มขึ้น 70%
ไม่ใช่แค่ Birkenstock เท่านั้นที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่กระแสรองเท้าใส่สบายที่ยังไม่ทิ้งความเป็นแฟชั่นก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น Crocs รองเท้าแตะนุ่มนิ่มสีสันสดใส
รองเท้าแตะ Crocs (Super Sports)
แม้ว่า “Barbie” และ “คนบันเทิง” จะเป็นกระแสที่ทำให้ “Birkenstock” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพและความเข้มแข็งของแบรนด์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ “รองเท้าแตะ” อายุมากกว่าร้อยปียังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ แถมยังขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รองเท้าที่น่าจับตามองสำหรับปีนี้ก็ว่าได้
อ้างอิงข้อมูล : Birkenstock, The Economist, yahoo life และ Footwear news