แฮชแท็ก "แบนมิลลิ" ติดเทรนด์ เกิดดราม่าอะไรขึ้น?
แฮชแท็ก "แบนมิลลิ" พุ่งขึ้นมาอยู่บนเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลัง MILLI มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล ได้ทวีตฯ ข้อความ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลำภู" ที่เกิดขึ้นภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
แฮชแท็ก "แบนมิลลิ" พุ่งขึ้นมาอยู่บนเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลังจากที่แร็ปเปอร์สาว MILLI มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล ได้ทวีตฯ ข้อความ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลำภู" ที่เกิดขึ้นภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
โดย "มิลลิ" ข้อความระบุว่า "ไปก็ไปเป็นภาระ ไม่ได้ช่วยเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตเลยสักนิด" รวมถึงการรีทวีตฯ ข่าวเรื่องผลการตรวจหาสารเสพติดในตัวผู้ก่อเหตุที่ระบุว่า "ไม่พบสารเสพติด" พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า "เชี่-เอ้ย" โพสต์นี้ถูกรีทวีตฯ ไปมากกว่า 1 แสนครั้งและประโยคดังกล่าวก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันทั้งฝั่งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
จากนั้นแฮชแท็ก "แบนมิลลิ" ก็ถูกพูดถึงจนขึ้นมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 มีการแสดงความคิดเห็น ณ ขณะนี้มากกว่า 2.4 แสนข้อความ หลายๆคนมีการโพสต์ข้อความถึงสาเหตุการแบนอย่างจริงจัง บางส่วนก็มองว่าสาเหตุที่เกิดแฮชแท็กนี้ขึ้นมานั้น เป็นเพราะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตั้งใจสร้างขึ้นมาหรือไม่
ทวิตเตอร์รายหนึ่ง มีการโพสต์ภาพขาวดำส่งสัญญาณไปถึงแบรนด์สินค้าที่มีมิลลิเป็นพรีเซนเตอร์ โดยบอกว่า จะไม่ขอสนับสนุนพรีเซนเตอร์ที่สร้างความแตกแยกและเกลียดชังในสังคม ใช้การแสดงออกที่ไม่เหมาะสม เหยียบย่ำซ้ำเติมความเจ็บปวดของผู้สูญเสีย ซึ่งอาจสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าที่ใช้พรีเซนเตอร์ดังกล่าวนั้นเช่นกัน
โพสต์นี้ปรากฏว่า มีชาวทวิตเตอร์เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด แต่ทว่าจากการตรวจสอบนั้น หลายคนมองว่าเป็นการพยายามปั่น และกลับกลายเป็นว่ามีหลายคนเข้ามาปกป้องมิลลิมากกว่าตำหนิ