รู้จัก "TAEYANG" จาก BIGBANG ก่อนคัมแบ็กงาน K-POP ฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้ง
หลังการกลับมาของ BIGBANG ที่ประสบความสำเร็จถล่มทลาย ครั้งนี้ “TAEYANG” หนึ่งในสมาชิกกลับมาลุยงานศิลปินเดี่ยวในรอบ 9 ปี พร้อมด้วยศิลปินรุ่นน้อง JIMIN วง BTS
หลังจาก BIGBANG สร้างประวัติศาสตร์ทุบสถิติเกือบทุกชาร์ตเพลงในเกาหลีใต้ คว้า 4 รางวัลจาก 3 รายการ แม้ไม่มีการขึ้นแสดงสดกับซิงเกิลคัมแบ็กในรอบ 4 ปี “Still Life” ส่งให้แฮชแท็กทวิตเตอร์ #BIGBANG_StillLife ขึ้นอันดับ 1 ของเทรนด์ประเทศไทยใน 1 ช.ม. และขึ้นเทรนด์อันดับ 2 ของทวิตเตอร์เกาหลีใต้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2022
แม้ว่าหลังจากนั้น BIGBANG จะไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการทำเพลงอีก แต่เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา “TAEYANG” หนึ่งในสมาชิกของวงในตำแหน่งร้องนำประกาศเตรียมกลับมาทำเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้ง หลังห่างหายจากการทำอัลบั้มเดี่ยวไปถึง 9 ปี โดยมีศิลปินรุ่นน้อง “JIMIN” จากวง BTS มาร่วมงานด้วยทำให้ทั้งแฟนคลับของทั้ง 2 วง ต่างรอวันที่จะได้เห็นผลงานของทั้งคู่ในเพลง “Vibe” ที่จะปล่อยออกมาในวันที่ 13 ม.ค.
หลังจาก TAEYANG (แทยัง) เตรียมคัมแบ็กในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้งหลังห่างหายไปนานตั้งแต่อัลบั้มแรก SOLAR เมื่อปี 2008 ทำให้เหล่า V.I.P (ชื่อแฟนคลับของบิ๊กแบง) ต่างทวิตถึงเพลงใหม่ดังกล่าวทำให้ #TAEYANG และ #JIMINbts ติดเทรนด์ 10 อันดับแรกนานถึง 2 วัน เพราะนอกจากจะเป็นการกลับมาของ เฮียเบ้ (ชื่อเล่นของแทยัง ที่ V.I.P ชาวไทยบางส่วนตั้งให้) จะทำให้หายคิดถึงกันแล้ว ยังจะได้เห็นการร่วมงานกับเด็กรุ่นใหม่อย่าง JIMIN ครั้งแรกอีกด้วย
แต่ก่อนที่แทยังจะก้าวเข้ามาเป็นศิลปินลำดับต้นๆ ของวงการนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเขาต้องเข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายเพลงตั้งแต่อายุยังน้อย ผ่านงานในวงการเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยเดียวกันเพราะต้องฝึกซ้อมอยู่ตลอด
- ก่อนจะมาเป็น “ทง ยง เบ” เจ้าของฉายา ดวงอาทิตย์
แทยัง หรือชื่อจริง ทงยงเบ เด็กหนุ่มเกาหลีใต้ที่เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 12 ปี ในมิวสิกวิดีโอ A-yo ของ Jinusean และได้เข้าเป็นเด็กฝึกของ YG Entertainment พร้อมกับ ควอนจียง หรือ จีดราก้อน ก่อนทั้งคู่จะเดบิวต์ในฐานะสมาชิกวง BIGBANG เมื่อปี 2006 และโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั้วเกาหลีใต้และทั่วโลกมีฐานแฟนคลับมากมาย มีทั้งอัลบั้มภาษาเกาหลีและญี่ปุ่นซึ่งสามารถตีตลาดได้ทั้งหมด โดย แทยัง อยู่ในตำแหน่งร้องนำ และแร็ปเปอร์ รวมถึงแต่งเพลง
ในช่วงแรกที่ยังไม่ได้เดบิวต์เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ GDYB คู่กับจีดราก้อน และมีฐานแฟนคลับมาตั้งแต่ตอนนั้นแม้ว่าทั้งคู่ยังไม่มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง ชื่อของแทยังในภาษาเกาหลีแปลว่า ดวงอาทิตย์ ทำให้เขานำมาใช้เป็นชื่อเรียกภาษาอังกฤษด้วยในชื่อ “SOL” หลังจากเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกแล้วแน่นอนว่าเขาได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตทั้งในประเทศและทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย
สำหรับหลายคนมองว่าคำว่าดวงอาทิตย์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อ แต่เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับแทยังในหลายมิติทั้งเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์จนถูกจัดให้อยู่ในลำดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ รวมถึงการแสดงบนเวทีที่มีความโดดเด่น ทั้งการร้องเพลง แร็ป เต้น และเล่นเปียโน ซึ่งแทยังเป็นเพียงสมาชิกคนเดียวในวงที่จะเดี่ยวเปียโนโชว์ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตและในมิวสิกวิดีโอ จึงไม่แปลกที่จะมีออร่าความเป็นประกายฉายออกมาจากเขา แต่นอกจากบอยแบนด์แล้วความฝันอีกอย่างหนึ่งของเขาคือการได้มีผลงานในฐานะ “ศิลปินเดี่ยว”
หลังจากนั้นไม่นานในปี 2008 เขาก็ไล่ตามความฝันได้สำเร็จ กับอัลบั้มศิลปินเดี่ยวครั้งแรก “SOLAR” โดยออกมาทั้งเวอร์ชันภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ ซึ่งประสบความสำเร็จไม่แพ้ครั้งเป็นบอยแบนด์ โดยมีรางวัล Best R&B & Soul Album จากเวที Korean Music Awards 6 เป็นเครื่องการันตี หลังจากนั้นเขาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวต่อเนื่องอีก 2 อัลบั้ม คือ สตูดิโออัลบั้มเต็มในชื่อเดิม SOLAR ซึ่งมียอดขายมากกว่าแสนชุด ตามมาด้วยอัลบั้ม RISE ในปี 2014 เป็นอัลบั้มที่ติดอันดับที่ 112 US Billboard 200
จนกระทั่งกลายเป็นอัลบั้มอันดับสูงที่สุด ที่เป็นศิลปินเดี่ยวชาวเกาหลีในชาร์ต (ในขณะนั้น) ตอกย้ำความสำเร็จของแทยังในฐานะศิลปินเดี่ยวได้เป็นอย่างดี มีเพลงที่มีความโดดเด่น เช่น Eyes, Nose, Lips ติดอันดับ 1 ใน Billboard K-pop Hot 100 และได้รับรางวัล Song of the Year จากเวที Mnet Asian Music Awards 2014 และรางวัล Golden Disc Awards ครั้งที่ 29 หลังจากนั้นในปี 2017 หลังจากกลับไปทำเพลงกับสมาชิกวงเขาได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวอีกครั้งคือ Prince of R&B
นอกจากนี้ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะบอยแบนด์หรือศิลปินเดี่ยว เขาก็ยังประสบความสำเร็จเสมอมา แม้แต่ คิมยองแด นักวิจารณ์ดนตรีชาวเกาหลีใต้ยังให้คำนิยามเสียงร้องของแทยังว่า “เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความหรูหรา” และเขายังได้รับการโหวตให้เป็นศิลปิน K-POP ชาย ที่ดีที่สุดอันดับ 3 ของวงการเพลงเกาหลีใต้ สำหรับเพลงที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ ในฐานะศิลปินเดี่ยวได้แก่ Only Look At Me, Wedding Dress และ I Nedd A Girl ที่มี DARA จากเกิร์ลกรุ๊ปสุดเปรี้ยวในยุคนั้นอย่าง 2NE1 มาร่วมแสดง
นี่เป็นเพียงความสำเร็จบางส่วนของศิลปินชายชื่อ แทยัง ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองและวงได้ตั้งแต่สมัยโซเชียลมีเดียยังไม่มีบทบาทกับงานเพลงเหมือนทุกวันนี้
- การกลับมาบินเดี่ยวอีกครั้งของแทยัง และศิลปินรุ่นน้อง จีมิน
หลังจากปรากฏการณ์ Still Life จากการคัมแบ็กครั้งสำคัญของ BIGBANG ที่กวาดเรียบทั้งอันดับเพลงและรางวัล ล่าสุดแทยังกลับมาทำเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้งกับเพลง “Vibe” ซึ่งคราวนี้ไม่ได้มาคนเดียวแต่มี จีมิน จากวง BTS บอยแบนด์รุ่นน้องที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกเช่นกันมาร่วมงาน จากผลงานที่ผ่านมาของแทยังนอกจากวงและจีดราก้อนแล้วเขายังไม่เคยร่วมงานกับศิลปินวงอื่นมาก่อนทำให้การกลับมาของเขาในครั้งนี้น่าติดตามไม่แพ้ครั้งก่อนๆ
สำหรับ “จีมิน” หรือ พัคจีมิน จากบอยแบนด์รุ่นน้องจากวง BTS อยู่ในตำแหน่งร้องนำและแต่งเพลงด้วยคล้ายกับแทยัง ซึ่งจีมินเดบิวต์ในฐานะบอยแบนด์เมื่อปี 2013 ในสังกัด Big Hit Entertainment ปัจจุบันจีมินมีอายุเพียง 27 ปี เท่านั้น แต่ก็มีผลงานในระดับโลก เช่น การร่วมงานกับวงดนตรีชื่อดังจากเกาะอังกฤษอย่าง Coldplay ในเพลง My Universe ในฐานะสมาชิกวง BTS นอกจากนี้จีมินเองก็มีผลงานในฐานะศิลปินเดี่ยวเช่นกัน ได้แก่ อัลบั้ม Wings ในปี 2016 มียอดขายกว่าแสนอัลบั้ม
ดังนั้นการกลับมามีผลงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวของแทยังในครั้งนี้จึงน่าจับตามองไม่แพ้ครั้งก่อนๆ เพราะนอกจากจะเป็นยุคที่มีโซเชียลมีเดียมาเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับและดาวน์โหลดแล้วยังมีรุ่นน้องฝีมือดีไม่แพ้กันมาร่วมงานด้วย โดยเพื่อนสมาชิกบิ๊กแบงต่างก็ช่วยกันโปรโมทเต็มที่ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เรียกได้ว่าสร้างความคึกคักให้วงการเพลง K-POP อีกครั้ง
อ้างอิงข้อมูล : YG Family และ Ting Korea