“มิเชล โหย่ว” ชาวเอเชียคนที่ 2 ผู้คว้า “ลูกโลกทองคำ” กว่าจะยืนจุดนี้ ไม่ง่าย!

จากสาวสวยดีกรีนางงามมาเลเซีย นักแสดงภาพยนตร์ฮ่องกงที่ได้ประกบคู่ดาราตัวพ่ออย่าง หลิน จื่อเสียง และ หงจินเป่า ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการฮอลลีวูดด้วยบท สาวบอนด์ สุดฮอต คู่กับ เพียร์ซ บรอสแนน ในภาพยนตร์ชุด เจมส์ บอนด์ 007 จนในที่สุด “มิเชล โหย่ว” สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการฮอลลีวูดอีกครั้งด้วยการเป็นชาวเอเชียคนที่ 2 ที่สามารถคว้ารางวัล “ลูกโลกทองคำ”  ได้สำเร็จ (ก่อนหน้านี้คือ อควาฟินา จากภาพยนตร์เรื่อง the Farewell ปี 2020) จากบทบาทซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์สสุดมันส์อลังการในภาพยนตร์บู๊สุดแหวก Everything Everywhere All at Once

มิเชล โหย่ว เป็นนักแสดงมากความสามารถชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ที่เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุยังน้อย เธอลงประกวดนางงามมาเลเซีย (Miss Malaysia) และสามารถคว้ามงกุฎมาครองได้เมื่อปี 1983 ถือเป็นใบเบิกทางให้เธอเข้าสู่วงการบันเทิงก็ว่าได้

หลังจากนั้นไม่นาน เธอได้รับโอกาสถ่ายโฆษณาของ “ปิแอร์ การ์แดง” คู่กับเฉินหลงและโจวเหวินฟะ ก่อนจะได้แสดงภาพยนตร์ฮ่องกงอีกหลายเรื่อง โดยเรื่องที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักคือ The Owl and Dumbo (คู่ซ่าส์จอมแสบ) ในปี 1984 ร่วมกับ หลิน จื่อเสียง และหงจินเป่า ก่อนที่เธอจะเปิดตัวในวงการฮอลลีวูดอย่างเป็นทางการด้วยบทสาวบอนด์ในปี 1997 และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ภาพ มิเชล โหย่ว และ เพียซ บรอสแนน จากภาพยนตร์ Tomorrow Never Dies

แม้ว่าเธอจะอยู่ในวงการมาตั้งแต่อายุ 21 จนถึง 60 ปี แต่ที่ผ่านมาสำหรับเธอมันไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ส่วนหนึ่งมาจากการที่เธอเป็นนักแสดงชาวเอเชียที่ยังเป็นส่วนน้อยในวงการฮอลลีวูดในตอนนั้น ถึงขั้นที่ว่าขณะที่เธอรับรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 80 เธอได้กล่าวว่า

“...ฉันจำได้ ครั้งแรกที่เข้าวงการฮอลลีวูด คือความฝันที่เป็นจริง เพราะดูหน้าฉันสิ ฉันมาถึงแล้วก็มีแต่คนบอกว่า เธอมันก็แค่คนชนกลุ่มน้อย และนี่คือรางวัลแด่เหล่านักแสดงที่อยู่เคียงข้างฉันมา รวมถึงคนที่เข้าวงการมาก่อน และคนที่จะเดินหน้าไปตามเส้นทางนี้ต่อไปพร้อมกับฉัน…”

ภาพ มิเชล โหย่ว และรางวัลลูกโลกทองคำ

• มิเชล โหย่ว สตรีชาวเอเชียที่เขย่าวงการฮอลลีวูด

มาถึงตอนนี้ ผู้ชมทั่วโลกคงไม่มีใครไม่รู้จัก “มิเชล โหย่ว”  (Michelle Yeoh) นักแสดงตัวแม่ชาวเอเชียที่ฝากผลงานสุดปังไว้ในวงการมากมายเริ่มจากเปิดตัวเป็นสาวบอนด์สุดฮอต ในเจมส์ บอนด์ ตอน Tomorrow Never Dies ทำให้ชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการภาพยตร์ฮ่องกง หลังจากนั้นเธอมีผลงานออกมามายที่ส่งให้เธอกลายเป็นนักแสดงแถวหน้า ไม่ว่าจะเป็น “Crouching Tiger, Hidden Dragon” รวมไปถึง Memoirs of a Geisha, Minions Avatar, Transformers และ Crazy Rich Asians เป็นต้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดเธอก็มักจะได้รับบทแสดงนำเสมอ นั่นหมายความว่าเธอสามารถพิสูจน์ให้โลกตะวันตกเห็นว่า นักแสดงชาวเอเชียก็มีฝีมือและเฉิดฉายในวงการฮอลลีวูดได้เช่นกัน

หลังจากที่เธอสร้างผลงานไว้มากมาย แน่นอนว่าเธอมักได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลจากบทบาทนักแสดงนำหญิงหรือนักแสดงสมทบหญิง โดยในปี 2000 เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำหญิงเป็นครั้งแรกในเวที “BAFTA” หรือ แบฟตา รางวัลสถาบันศิลปะภาพยนตร์และโทรทัศน์ของสหราชอาณาจักร หรือมีชื่อเล่นว่าเป็น “รางวัลออสการ์เกาะอังกฤษ” จากภาพยนตร์เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon แม้ว่าในครั้งนั้นเธอจะไม่ได้รางวัล แต่การที่ได้เข้าชิงนั้นสร้างความฮือฮาให้วงการเป็นอย่างมาก

นอกจากงานแสดงแล้ว เธอยังได้รับเลือกให้เป็น “Goodwill Ambassador” ของ UNDP หรือ ทูตสันถวไมตรีของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ในปี 2016 อีกด้วย โดยผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ต้องเป็นบุคคลสำคัญที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีความโดดเด่นจากหลากหลายวงการ และเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่น สมัครใจ และยินดีที่จะทุ่มเทกำลังและความสามารถอย่างที่สุดในการระดมความช่วยเหลือจากสาธารณชน เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และหลังจากนั้นในปี 2020 เธอยังติด 1 ใน 100 สตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกที่จัดอันดับโดย BBC อีกด้วย

ล่าสุดนิตยสาร TIME ได้เลือกให้เธอได้เป็น ICON OF THE YEAR 2022 และได้ขึ้นปกนิตสาร เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าผู้หญิงชาวเอเชียนั้นมีพลังมากกว่าที่คิด

ภาพ มิเชล โหย่ว ขึ้นปกนิตยสาร TIME

• ไม่ใช่แค่เพียงลูกโลกทองคำ แต่หลายคนเชื่อว่าเธอจะไปถึงออสการ์

การที่มิเชลเป็นนักแสดงชาวเอเชียคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่จากเกาะอังกฤษมาได้สำเร็จ ทำใหนักวิจารณ์และคนในแวดวงบันเทิงหลายคนมองว่าเธอสามารถไปไกลได้มากกว่านั้น และเชื่อว่าเธอต้องได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแน่นอน และหากเธอทำได้ เธอจะเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนี้ในฐานะนักแสดงนำเช่นเดียวกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่มีนักแสดงนำชาวเอเชียไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงเคยได้ออสการ์มาก่อน 

แต่ถ้าพูดถึงรางวัลออสการ์สาขาอื่นๆ ก็พบว่าก่อนหน้านี้ บง จุน-โฮ สามารถคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ ปรสิต ในปี 2019 มาได้ และ ในปี 2020 โคลอี จ้าว ผู้กำกับเชื้อสายเอเชีย คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ Nomadland และ นักแสดงอาวุโส ยูน ยอจอง จากเกาหลีใต้ ได้ออสการ์ สาขานักแสดงสนับสนุนยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ Minari

สำหรับรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาต่างๆ มีการประกาศออกมาแล้วเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามคาดเพราะมีชื่อของ มิเชล โหย่ว เป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง “Everything Everywhere All at Once” ที่เธอนำแสดงก็ได้เข้าชิงอีกหลายรางวัล ดังนี้

- สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)

- สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)

- สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) โดย โจนาธาน คี ควาน

- สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress) โดย เจมี ลี เคอร์ติส และ สเตฟานี ซู

- สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)

- สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song)

รวมไปถึงสาขาย่อยอีกมากมาย โดยงานประกาศรางวัลจะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 13 มี.ค. นี้ ตามเวลาประเทศไทย เชื่อว่าปีนี้คงเป็นอีกปีที่หลายคนรอคอยว่า นักแสดงหญิงมากความสามารถจากทวีปเอเชียจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ระดับโลกได้หรือไม่

อ้างอิงข้อมูล : BBC, UNPD, Rotten Tometoes และ The Famouspeople