"ชมพู่ อารยา" เปิดใจถูกโยงสามีมีบ้านเล็ก เผยสาเหตุ น็อต ยกมรดกหมื่นล้านให้
"ชมพู่ อารยา" เปิดใจปมถูกโยงสามีมีบ้านเล็ก รับผิดหวังตกเป็นข่าว แต่ทำให้จับมือกันแน่นขึ้น ยิ้มเขิน "น็อต วิศรุต" เซ็นยกมรดกหมื่นล้านให้
ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังมีข่าวลือ "สามีนางเอกดังแอบมีบ้านเล็ก" โดยหลายคนต่างพุ่งเป้าไปที่ครอบครัวของซุปตาร์ดัง "ชมพู่ อารยา" กับสามีสุดหล่อ "น็อต วิศรุต" นักธุรกิจหมื่นล้าน
ซึ่ง "ชมพู่ อารยา" ก็ได้ออกมาปฏิเสธถึงข่าวลือสามีแอบมีบ้านเล็กว่า ก็ไม่ใช่แล้วไง ตอนนี้ทัวร์ก็เลี้ยวไปแล้ว แต่ยอมรับว่าจริงๆไม่มีใครชอบให้มาแตะครอบครัวหรอก โดยเฉพาะครอบครัวที่ให้คุณค่ากับสถาบันครอบครัวเป็นอันดับหนึ่งอย่างบ้านตน และเชื่อว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครก็คงไม่มีใครชอบ รู้สึกผิดหวังที่ข่าวลือนี้โยงมาที่บ้านตน เราก็อยู่ของเราโดยที่ไม่เคยรังแกใคร
ได้คุยกับน้องที่ถูกโยงเป็นมือที่สามไหม?
ชมพู่ อารยา : กับน้องที่ถูกโยงเป็นมือที่สามก็ไม่ได้คุย เพราะไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องไปเคลียร์อะไร รู้ว่าอะไรเป็นอะไร มันไม่ต้องคุยกัน แต่ถ้าจะบอกว่าเดือดร้อนก็เดือดร้อนกันทุกคน ทุกฝ่าย ส่วนคุณน็อตเขาก็บอกว่าอย่างแรกที่เขาโฟกัสเลยก็คือความรู้สึกของชม
มีข่าวแบบนี้รู้สึกยังไง?
ชมพู่ อารยา : ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงโกหก เพราะเราอยู่ของเราดีๆทำไมเรื่องนี้มาเกิดขึ้นกับบ้านตน แต่ก็เข้าใจความเป็นไปของสังคมที่ไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ไม่สามารถทำให้ทุกคนมองเห็นหรือคิดเหมือนตนได้ เพราะฉะนั้นก็คงต้องปล่อย แต่ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่รัก ซัพพอร์ต และเชียร์ครอบครัวของตนที่ขอให้ข่าวที่ออกมาไม่ใช่เรื่องจริง ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ
ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตสามีภรรยามั่นใจในตัวเขาแค่ไหน?
ชมพู่ อารยา : บอกว่า ถ้าให้พูดก็เหมือนอวดผู้ชาย แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องออกมาอธิบายว่าเขาไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน แต่ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้มั่นใจ ก็เพราะว่าทั้งคู่รู้จัก มีโฟกัส มีความฝัน มีภาพบางอย่างร่วมกัน ซึ่งไม่ควรจะต้องมาถูกทำลายด้วยเรื่องพรรค์นี้
เคยมีคนพยายามเข้าหาสามีบ้างไหม?
ชมพู่ อารยา : ก็ไม่เคย และตนก็ไม่ได้มานั่งจับผิดว่าใครจะมองเขา ไม่เคยโฟกัสตรงนั้นเลย ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำความเชื่อใจในตัวสามีลดลง แต่กลับรู้สึกว่ายิ่งทำให้ได้รักกัน กลับมามองเป้าหมายของกันและกัน และทำให้กลับมาจับมือกันแน่นขึ้นด้วยซ้ำ
สามีเซ็นยกมรดกทั้งหมดให้?
ชมพู่ อารยา : จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุยกันมาตลอด เพราะทั้งคู่เคยผ่านการสูญเสียมา และเราก็อยู่ด้วยกันตั้งแต่เขาเริ่มทำธุรกิจของที่บ้าน จนวันที่เขาเริ่มออกมาทำของตัวเอง ซึ่งก็คุยกันตลอดว่าถ้าวันใดวันนึงเกิดใครไม่อยู่แล้วลูกจะอยู่ยังไง ทรัพย์สมบัติจะดูแลกันยังไง ก็ยอมรับว่าคุณน็อตได้เซ็นยกมรดกให้ตนแต่เพียงผู้เดียวจริง เพราะคิดว่าเขาคงไว้ใจ