ค่ายเล็กก็แมสได้ “Fifty Fifty” จับมือ “H1-Key” รับบท “ม้ามืด” เจน 4 K-POP

Keypoints:

• “Fifty Fifty” วงเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่จากค่ายเล็กกลายเป็นศิลปินเกาหลีที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 ด้วยเวลาน้อยที่สุด 
• "H1-Key" เป็นเกิร์ลกรุ๊ปอีกวงจากค่ายเล็กที่ค่อย ๆ ไต่ชาร์ตจนสามารถขึ้นอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ได้สำเร็จ
• เพลง และ กระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เพลงประสบความสำเร็จ

 

ท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของวงเกิร์ลกรุ๊ปในวงการ K-POP จากค่ายยักษ์ใหญ่และค่ายกลางที่ผลัดกันขึ้นตำแหน่งเบอร์ 1 ของ “เจน 4” อย่างดุเดือดไม่ว่าเป็น “NewJeans” เจ้าของเพลงฮิต “Hybe Boy” “Ditto” และ “OMG” ที่ยังคงเกาะชาร์ตอย่างเหนียวแน่นและสร้างสถิติไม่หยุด ตามมาด้วยวงพี่ร่วมค่ายอย่าง “LE SSERAFIM” ตัวตึงด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์และยอดขายถล่มทลายตั้งแต่ซิงเกิลเดบิวต์ในญี่ปุ่น 

ขณะที่ “IVE” เจ้าของรางวัลศิลปินหน้าใหม่และเพลงแห่งปีจาก “Love Dive” จากหลายเวทีเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังคงแรงดีไม่มีตก เพลง “Kitsch” ที่พึ่งปล่อยออกมา ขึ้นอันดับ 1 ของทุกชาร์ตได้อย่างรวดเร็ว ส่วน “aespa” ที่มีเพลง “Next Level” ก็ยังคงมียอดขายอัลบั้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกคัมแบ็ก เช่นเดียวกับ “ITZY” ที่ยังคงรักษามาตรฐานของตนไว้ได้อย่างดี และที่ขาดไม่ได้ คือ “(G)-IDE” ตัวเปิดเจน 4 ที่ทุกคนยอมรับในความสามารถ และฉายแสงเจิดจ้าจากเพลง “Tomboy”

6 วงที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปตัวท็อปของเจน 4 ที่คนในฟังเพลง K-POP ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี และคาดเดากันว่า 1 ใน 6 วงนี้จะสามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของรุ่นได้ แต่แล้วก็มีวงเกิร์ลกรุ๊ป 2 วงจากค่ายเพลงขนาดเล็กที่กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะ “ม้ามืด” อย่าง “Fifty Fifty” (ฟิฟตี้ ฟิฟตี้) และ “H1-Key” (ไฮ-คีย์)

• Fifty Fifty วงเกิร์ลกรุ๊ปที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 ด้วยเวลาน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดบิวต์

ทำเอาฮือฮากันทั้งวงการ K-POP เมื่อ Billboard นิตยสารวงการเพลงที่ใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นชาร์ตจัดอันดับ 100 เพลงที่นิยมที่สุดในสหรัฐ ประจำสัปดาห์ที่ 1 เม.ย. 2566 พบว่า เพลง “Cupid” ของวง “Fifty Fifty” วงเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ที่พึ่งเดบิวต์ช่วงปลายปี 2022 เข้าสู่ชาร์ตในอันดับที่ 100 ทำให้ สาว ๆ วงนี้กลายเป็นศิลปินเกาหลีที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 ด้วยเวลาน้อยที่สุด เพียง 129 วัน นับตั้งแต่เดบิวท์อย่างเป็นทางการ และเป็นไอดอลกรุ๊ปวงที่ 6 ต่อจาก Wonder Girls, BTS, Blackpink, Twice, และ NewJeans ที่สามารถเข้าสู่ชาร์ตนี้ได้

Fifty Fifty เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ภายใต้สังกัดเล็ก ๆ อย่าง ATTRAKT ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่ แซนา (Saena) อารัน (Aran) คีนา (Keena) และ ซีโอ (Sio) เดบิวต์เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2022 เปิดตัวด้วยมินิอัลบั้ม “The Fifty” โดยมี “Higher” เป็นซิงเกิลหลัก ซึ่งทำยอดขายไปได้เพียง 4,000 กว่าชุดเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มาจากค่ายเล็ก และต้องยอมรับว่า ในตอนนั้นไม่มีใครรู้จักพวกเธอเลย

แต่สำหรับ Cupid ผลงานการคัมแบ็กครั้งแรกของ Fifty Fifty ปล่อยออกมาเมื่อ 24 ก.พ. ด้วยกัน 3 เวอร์ชัน คือภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษที่เรียกว่า “Cupid (TwinVer.)” และเวอร์ชันมีแต่ทำนองเพลง ซึ่งในเวอร์ชันภาษาเกาหลีนั้น คีนาหนึ่งในสมาชิกของวงเป็นผู้แต่งเนื้อเพลง ส่วนที่ทำภาษาอังกฤษนั้นเพื่อที่ต้องการให้เพลงเข้าถึงผู้ฟังได้ทั่วโลก

“เราอย่างส่งต่อข้อความไปถึงผู้คนทั่วโลกผ่านบทเพลงของเรา เราจึงตัดสินใจทำเพลงภาษาอังกฤษขึ้น โดยถอดเนื้อเพลงมาจากภาษาเกาหลีเลย และนี่จึงเป็นสาเหตุที่เราตั้งชื่อภาษาอังกฤษว่า Twin ที่แปลว่าแฝดนั่นเอง” ซีโอให้สัมภาษณ์กับ NME

ด้วยทำนองเพลงที่น่ารัก และเนื้อหาที่ฟังง่าย ทำให้เพลงนี้สามารถฟังได้เพลิน ๆ ไม่มีเบื่อ และได้รับความนิยมใน TikTok มีคลิปที่ใช้เพลงนี้ประกอบแล้วมากกว่า 400,000 ครั้ง ขณะที่ #CupidChallenge มีผู้เข้าชมมากกว่า 65 ล้านครั้ง แม้ว่าสถิติเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อชาร์ต Billboard โดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่องทางที่ทำให้คนรู้จักเพลงมากขึ้น จนไปหาฟังในบริการสตรีมมิงอื่น ๆ

ช่วงวันที่ 17-23 มี.ค. ระยะเวลาที่ใช้สำหรับนับยอดเพื่อคำนวณชาร์ตประจำสัปดาห์ 1 เม.ย. Cupid สามารถทำยอดสตรีมไปได้กว่า 5.7 ล้านครั้งในสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 23% ขณะที่ยอดสตรีมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 22.9 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 39% ทำให้ Fifty Fifty สามารถติดชาร์ต Billboard Global 200 ชาร์ตเพลงฮิตทั่วโลกในอันดับ 65

แซนา เล่าถึงตอนที่พวกเธอรู้ว่า Cupid ติดชาร์ต Billboard ว่า “เราไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง เราเซอร์ไพรส์มาก ต่างตะโกนด้วยความดีใจว่า นี่เพลงเราติดชาร์ต Billboard เลยหรอ มันทำให้เราอยากจะทำงานให้หนักขึ้น ทำโชว์ออกมาให้ดียิ่งขึ้น นี่เป็นแรงขับเคลื่อนชั้นดีของพวกเราเลย”

แม้ว่าเพลง Cupid จะกำลังไปได้ดีในเวทีระดับโลก แต่สำหรับในเกาหลีใต้นั้นยังทำชาร์ตได้ไม่ค่อยดีมากนัก ถึงอย่างนั้นจากการที่ติดชาร์ต Billboard ก็ส่งผลให้ Cupid ค่อย ๆ ติดไต่อันดับจนสามารถเข้าสู่ชาร์ต Top 1,000 ของ MelOn สตรีมมิงเพลงที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

• “H1-Key” ดอกกุหลาบที่กำลังผลิบาน

คนไทยหลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อวง “H1-Key” เกิร์ลกรุ๊ปจาก K-POP ที่มีคนไทย “ลูกหนัง ศีตลา” เคยเป็นอดีตสมาชิกมาก่อน จนมีเรื่องราวดรามามากมายตามมา สำหรับในเกาหลีใต้แล้ว เกิร์ลกรุ๊ปวงนี้ก็ไม่ใช่วงที่คนทั่วไปจะรู้จัก ไม่ได้มีฐานแฟนคลับมากมาย แม้จะทำกิจกรรมมาเป็นปีแล้วก็ตาม

จนกระทั่งคัมแบ็กครั้งล่าสุดของ H1-Key เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 กับมินิอัลบั้ม “Rose Blossom” ที่มีเพลงไตเติ้ลชื่อเดียวกับอัลบั้ม ทำให้พวกเธอกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยยอดขายอัลบั้มและตัวเพลงค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสามารถทำยอดขายขึ้นเป็นอันดับ 1 บนชาร์ตยอดขายอัลบั้มแผ่นแบบเรียลไทม์ ของ Hanteo ชาร์ตยอดขายอัลบั้มของเกาหลีใต้ ด้วยยอดขายมากกว่า 41,635 ชุด และสามารถขึ้นอันดับ 1 บน Bugs บริการฟังเพลงสตรีมมิงของเกาหลีใต้ได้ หลังจากปล่อยอัลบั้มแล้วเป็นเดือน

ถึงแม้ว่าสถิติเหล่านี้จะไม่ได้มาในช่วงที่พวกเธอสิ้นสุดการโปรโมตอัลบั้มไปแล้ว แต่ความสำเร็จทั้งหลายที่เกิดขึ้นก็ถือเป็น “ปาฏิหาริย์” สำหรับพวกเธอ เนื่องจากไม่ใช่ทุกวงจากค่ายเล็กจะสามารถขึ้นมามีชื่อเสียงได้ โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันของวงเกิร์ลกรุ๊ปดุเดือดเช่นนี้

สำหรับ H1-Key นั้นเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีสมาชิก 4 คน ได้แก่ ซออี (Seoi), รีอีนา (Riina), เยล (Yel) และ ฮวีซอ (Hwiseo) และเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของค่าย GLG 

หากจะพูดกันตามจริงแล้ว H1-Key นั้นเปิดตัวมาได้ไม่ดีนัก ด้วยปัญหาที่อดีตสมาชิกชาวไทยถูกแอนตี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เดบิวต์ จนผู้ฟังเพลงหลายคนเลือกจะไม่สนับสนุนพวกเธอ แม้ว่าช่วงกลางปีที่ผ่านมาเธอจะตัดสินใจออกจากวง ด้วยเหตุผลส่วนตัว แล้วได้ฮวีซอมาเป็นสมาชิกคนใหม่ แต่ยอดขายซิงเกิลอัลบั้ม “Run” ทำยอดขายไปได้เพียง 2,867 ชุดเท่านั้น

ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเธอก็ไม่ย่อท้อ แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของพวกเธอผ่านบทเพลง “Rose Blossom” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้กับอุปสรรคนานัปการที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ เหมือนกับดอกกุหลาบที่ผลิบานอยู่ระหว่างตึกระฟ้าในเมืองใหญ่ ซึ่งเพลงนี้แต่งโดย ยองเค (Young K) จากวง DAY6 ผู้แต่งเพลงฮิตมานับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีกลิ่นอายเพลงแนวเดียวกับ 2NE1 วงดังจากเจน 2 ที่หาไม่ได้ในปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพลงนี้จะโดนใจผู้ฟังชาวเกาหลีใต้ที่ส่วนใหญ่ต่างต้องเข้ามาทำงานในเมืองกรุง และต้องใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง 

จุดเริ่มต้นของความฮิตของ Rose Blossom นั้นมาจาก คลิปการแสดงเพลงนี้ในยูทูบที่กลายเป็นไวรัลทั่วเกาหลี และมียอดเข้าชมมากกว่า 2.6 ล้านครั้ง

จากความสำเร็จของทั้ง Fifty Fifty และ H1-Key ทำให้เห็นว่า “เพลง” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศิลปินประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นค่ายใหญ่ ค่ายเล็ก หรือจะเป็นศิลปินที่หน้าใหม่ ไม่มีใครรู้จักมาก่อนก็ตาม แต่ถ้าเพลงดี อย่างไรก็ต้องมีคนตามไปฟัง อีกทั้งในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ทำให้ใช้เป็นเครื่องมือชั้นดีสำหรับเพิ่มช่องทางให้ผู้ฟังได้รู้จักเพลงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับค่ายเพลงขนาดเล็กที่ไม่ได้มีพื้นที่สื่อสำหรับโปรโมตเพลงมากนัก 

เมื่อโอกาสมาแล้วค่ายควรคว้าโอกาสนี้ไว้ สำหรับสานต่อความสำเร็จ ทำให้วงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ เพราะเมื่อกระแสจุดติดแล้ว สามารถใช้เป็นใบเบิกทางสำหรับการคัมแบ็ค ครั้งต่อไป จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวท็อปของวงการ อย่างเช่น เพลง “Rollin’” ของ “Brave Girls” ที่ปล่อยมาตั้งแต่ปี 2017 แต่พึ่งมาเป็นไวรัลในปี 2021 และทางวงตัดสินใจกลับมาโปรโมตเพลงนี้ต่อ จนเพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่ฮิตที่สุดในปีนั้น และ Brave Girls ก็สามารถขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของวงการได้จนยุบวงไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ตรงข้ามกับวง “LABOUM” ที่เพลง "Journey to Atlantis" กลับมาดังในปี 2021 หลังจากปล่อยเพลงมา 5 ปี แต่ค่ายก็ไม่ต่อยอด ปล่อยให้กระแสซา จนสุดท้ายวงก็เงียบเหมือนเดิม ก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจแยกย้ายกันตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา

ที่มา: AllKpop, Billboard, Hello Kpop, NME, South China Morning Post