สิ้น ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ ผู้ประพันธ์เพลง The Last Emperor
สิ้นนักประพันธ์เพลงระดับโลกชาวญี่ปุ่น ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ เจ้าของรางวัลออสการ์จากเพลงประกอบภาพยนตร์ The Last Emperor และ Merry Christmas, Mr. Lawrence อันโด่งดัง
วงการดนตรีโลกได้สูญเสียศิลปินผู้มีความสามารถเป็นอย่างยิ่งไปอีกคนแล้ว นั่นคือ ริวอิจิ ซากาโมโตะ นักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งยงชาวญี่ปุ่นซึ่งจากโลกนี้ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่มีอายุได้ 71 ปี แต่เพิ่งจะมีการประกาศการเสียชีวิตของเขาในวันที่ 2 เมษายนซึ่งเป็นวันประกอบพิธีศพ
โดยริวอิจิ ซากาโมโตะเพิ่งออกมาเปิดเผยเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ว่าเขากำลังต่อสู้อยู่กับโรคมะเร็งระยะที่ 4
ริวอิจิ ซากาโมโตะ เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ฝากผลงานระดับโลกเอาไว้มากมาย นอกจากเป็นนักเปียโน และนักประพันธ์เพลงแล้ว เขายังเคยแสดงหนังสงครามเรื่อง Merry Christmas, Mr. Lawrence ที่ออกฉายเมื่อปี 1983 ร่วมกับ เดวิด โบวี่ พร้อมแต่งเพลงประกอบที่มีชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์จนได้รับรางวัล BAFTA ไปครองทั้งที่เป็นการแต่งเพลงสกอร์เป็นครั้งแรกของเขา
ทว่าผลงานซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของซากาโมโตะคือการประพันธ์เพลงสกอร์ประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Last Emperor (ปี 1987) ที่ทำให้เขาได้รับทั้งรางวัลออสการ์ รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลแกรมมีไปครอง
นอกเหนือจากสองเรื่องนี้แล้ว ซากาโมโตะยังแต่งเพลงสกอร์ให้กับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอีกหลายเรื่อง เช่น The Sheltering Sky (ชนะรางวัลลูกโลกทองคำ ปี 1990), Little Buddha, The Revenant
ริวอิจิ ซากาโมโตะ เกิดที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เขาเป็นบุตรชายของ คาซูกิ ซากาโมโตะ บรรณาธิการคนดังประจำสำนักพิมพ์ Kawade Shobo shinsha อาจเรียกได้ว่าซากาโมโตะนั้นมีชีวิตอยู่เพื่อดนตรีอย่างแท้จริง
เขาเรียนเขียนเพลงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ตอนอยู่ชั้นมัธยม ซากาโมโตะต้องขึ้นรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียวที่แน่นขนัดจนแทบขยับตัวไม่ได้ไปโรงเรียนทุกวัน เขาจึงนับเสียงต่าง ๆ ที่รถไฟทำออกมาเพื่อเป็นการแก้เบื่อระหว่างเดินทาง
ซากาโมโตะมีความหลงใหลในดนตรีของวงเดอะ บีทเทิลส์ (Beatles) และโคลด เดอบุสซี (Claude Debussy) นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชาวฝรั่งเศสเป็นพิเศษ ในระดับอุดมศึกษา เขาลงเรียนสาขาวิชามานุษยดุริยางควิทยา (ethnomusicology) ที่มหาวิทยาลัย Tokyo National University of Fine Arts and Music โดยมีความสนใจเป็นพิเศษในดนตรีพื้นบ้านของเกาะโอกินาวา รวมไปถึงดนตรีพื้นบ้านอินเดีย และแอฟริกา
“ดนตรีเอเชียส่งอิทธิพลอย่างมากต่อเดอบุสซี แล้วเดอบุสซีก็ส่งอิทธิพลอย่างมากต่อผม เท่ากับว่าดนตรีนั้นวนไปรอบโลก แล้วกลับมาเป็นวงกลมที่สมบูรณ์” ซากาโมโตะให้สัมภาษณ์วิทยุ WNYC เอาไว้เมื่อปี 2010
ปี 1978 ซากาโมโตะได้ก่อตั้งวง Yellow Magic Orchestra หรือ YMO ร่วมกับ ฮารุโอมิ โฮโซโนะ และยูกิฮิโระ ทากาฮาชิ ซึ่งต่อมาภายหลังได้กลายมาเป็นวงดนตรีระดับตำนานผู้บุกเบิกดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกของโลก
โดยการใช้ซินธิไซเซอร์ และเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ในการทำเพลงของวง YMO สอดรับกับยุคสมัยในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่ภาพยนตร์แนวอวกาศอย่าง Close Encounters of the Third Kind และเกมอาร์เคดอย่าง Space Invaders ได้รับความนิยมพอดี
เป็นที่น่าเศร้าว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาคาฮาชิ มือกลองวง YMO ก็เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคนิวมอเนียเช่นกัน
ริวอิจิ ซากาโมโตะ ในงานเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน 2018 Credit : JUNG YEON-JE / AFP
ปี 2006 ซากาโมโตะจับมือกับบริษัทเพลง Avex Group ของญี่ปุ่นเพื่อก่อตั้ง Commmons ค่ายเพลงที่แสวงหาความเปลี่ยนแปลงในการทำเพลงออกมา โดยซากาโมโตะเคยอธิบายเอาไว้ว่า Commmons ไม่ใช่ค่ายเพลงของเขา แต่มันคือแพลตฟอร์มสำหรับศิลปินที่มีความทะเยอทะยานเข้ามาร่วมกันในฐานะ collaborators ที่เท่าเทียมกัน เพื่อแชร์ผลประโยชน์ที่มีต่อวงการดนตรี
นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพและสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากเรื่องดนตรีแล้ว ช่วงบั้นปลายของชีวิต ริวอิจิ ซากาโมโตะได้หันมาใส่ใจเรื่องสันติภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เขาเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างจริงจังกับการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์ หลังเกิดเหตุโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะรั่วในปี 2011
ปี 2014 ริวอิจิ ซากาโมโตะประกาศพักงานเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อรักษาโรคมะเร็งที่ลำคอ แม้ว่าจะรักษาหายขาดไปแล้ว แต่พอมาในปี 2020 เขาก็ตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งอีกครั้ง ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่าในช่วงปลายปี 2021 เขาได้เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งที่ลุกลามไปยังปอดทั้งสองข้าง พร้อมระบุว่าตัวเองกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 4 อยู่
"ในเมื่อผมเองก็มาได้ไกลถึงขนาดนี้ในชีวิต ผมหวังว่าจะสามารถทำเพลงไปจนถึงชั่วขณะสุดท้ายของตัวเอง เหมือนกับบาค และเดอบุสซี่ที่ผมชื่นชม"
เดือนธันวาคม 2022 ริวอิจิ ซากาโมโตะได้จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ที่ชื่อ ‘Ryuichi Sakamoto: Playing the Piano 2022’ ขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการอำลาแฟน ๆ ของเขา เพราะซากาโมโตะได้ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยการพูดว่า "นี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย"
นอกจากนี้ ซากาโมโตะยังฝากข้อความเกี่ยวกับคอนเสิร์ตครั้งนี้เอาไว้ว่า
“พละกำลังของผมถดถอยลงไปจริง ๆ ดังนั้นการเล่นคอนเสิร์ตปกติประมาณหนึ่งชั่วโมงถึง 90 นาทีจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงได้อัดเพลงทีละเพลงแล้วตัดต่อมันเข้าด้วยกัน เพื่อที่ว่าจะได้นำเสนอในรูปของคอนเสิร์ตทั่วไป ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นที่น่าพึงพอใจในรูปแบบปกติ ขอให้สนุกกับมันนะครับ”
ซากาโมโตะเพิ่งออกอัลบั้ม 12 ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งนับเป็นอัลบั้มแรกในรอบ 6 ปีของเขาที่ไม่ใช่อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์
สำหรับผู้ที่อยากรับฟังแนวคิด และรับทราบวิธีการทำงานของปรมาจารย์ดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ชาวญี่ปุ่นท่านนี้สามารถรับชมสารคดีเรื่อง "Ryuichi Sakamoto: CODA ดนตรี คีตา : ริวอิจิ ซากาโมโตะ" พร้อมซับไทยได้ทาง Netflix
ขอไว้อาลัย ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของโลกมา ณ ที่นี้