จาก ‘SUGA BTS’ ถึง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ แรงบันดาลใจสู่การเป็นศิลปินระดับโลก

ดนตรีไม่มีพรมแดนและเชื้อชาติ เผยความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ กับ ‘SUGA BTS’ ศิลปินต่างยุค ต่างวัย ต่างเชื้อชาติที่เป็นแรงบันดาลใจให้อีกคนลุกขึ้นมาเป็นนักดนตรีระดับโลก ก่อนจะนำมาสู่ความสนิทสนมในช่วงบั้นปลายของชีวิต

“ขอให้การเดินทางไกลของท่านสงบสุข

R.I.P SAKAMOTO RYUICHI”

คือข้อความไว้อาลัยที่ ชูก้า (SUGA) วงบีทีเอส (BTS) โพสต์ลงอินสตาแกรม และบนเว็บบอร์ดแอพพลิเคชั่น Weverse ภายหลังจากที่ทราบข่าวว่า ริวอิจิ ซากาโมโตะ นักดนตรีและนักประพันธ์เพลงชาวญี่ปุ่นผู้โด่งดังระดับโลก ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งลำไส้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566 ขณะที่มีวัย 71 ปี

จาก ‘SUGA BTS’ ถึง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ แรงบันดาลใจสู่การเป็นศิลปินระดับโลก

หลายคนอาจไม่ทราบว่า ชูก้า หรือ มินยุนกิ แรปเปอร์จอมเดือดของวงบีทีเอสนั้นเล่นเปียโนมาตั้งแต่เด็ก และเขามี ริวอิจิ ซากาโมโตะ เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจในการเล่นดนตรี แต่ว่าทั้งคู่เพิ่งมีโอกาสพบปะพูดคุยกันเมื่อเดือนกันยายน ปี 2565 ช่วงที่ชูก้าเดินทางไปร่วมอีเวนท์บาสเก็ตบอล NBA ที่ประเทศญี่ปุ่น

หลังจากที่ได้พูดคุยกัน ริวอิจิ ซากาโมโตะ ได้ออกมาแสดงความชื่นชมชูก้าผ่านสื่อว่า “เป็นคนหนุ่มที่ปราศจากความหยิ่งผยอง และคิดถึงแต่ดนตรี”

ขณะที่ตัวชูก้าเองก็ได้โพสต์คลิปเล่นเพลง Merry Christmas Mr. Lawrence ของ ริวอิจิ ซากาโมโตะ เมดเลย์กับเพลง Seesaw ของตัวเขาเองลงบนไอจี ซึ่งสามารถทุบสถิติไอจี รีล (Instagram Reels) ที่มียอดวิวสูงสุดได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว (ปัจจุบันคลิปนี้มียอดวิว 45.4 ล้านครั้งแล้ว)

คลิป SUGA เล่นเพลง Merry Christmas Mr. Lawrence

จาก ‘SUGA BTS’ ถึง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ แรงบันดาลใจสู่การเป็นศิลปินระดับโลก

“ฉันจะมีชีวิตอยู่เห็นพระจันทร์เต็มดวงอีกกี่ครั้ง”

ริวอิจิ ซากาโมโตะ เคยเป็นมะเร็งลำคอจนต้องพักงานไปหนึ่งปีเพื่อทำการรักษาจนหายดี แต่แล้วในปี 2020 เขาก็ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้อีกครั้ง จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว ปรมาจารย์ดนตรีระดับโลกผู้นี้ก็ออกมาประกาศข่าวที่ทำให้คนช็อกกันไปทั่วว่า เขาเป็นมะเร็งระยะที่ 4 และอาจมีเวลาเหลืออยู่เพียงแค่ 6 เดือน

เดือนกรกฎาคม 2565 ริวอิจิ ซากาโมโตะได้เริ่มเขียนบทความชื่อ “How many full moons will I see in the future” ลงในนิตยสาร Shincho เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ตลอดจนการต่อสู้กับโรคมะเร็งของเขา โดยในบทความชิ้นสุดท้ายที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2566 เขาได้เขียนถึงการพบกับชูก้าเอาไว้ดังนี้

“ผมพบชูก้า สมาชิกวงบีทีเอสที่มาเยือนญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนกันยายนปีที่แล้ว เขาเป็นไอดอลระดับโลกที่ไม่ต้องให้คำอธิบายอะไรแล้ว แต่ตอนที่เราคุยกัน เขากลับเป็นคนหนุ่มที่ไม่มีความหยิ่งผยองอยู่เลย แล้วยังเอาจริงเอาจังมากกับงานดนตรีที่เขากำลังทำอยู่”

เขาหันมาสนใจดนตรีหลังจากได้ดู 'The Last Emperor' ในโรงภาพยนตร์กับพ่อแม่ตอนอายุ 12 ขวบ เขาเลยอยากพบกับผม (ซึ่งเป็นผู้กำกับดนตรีของ 'The Last Emperor') มีสตาฟฟ์พร้อมกล้องมาถ่ายทำเก็บเอาไว้ด้วย จึงน่าจะมีวีดิโอออกมาให้ดูกันภายหลัง”

(หมายเหตุ : ผู้เขียนคิดว่าเราน่าจะได้เห็นการพบกันระหว่าง ริวอิจิ ซากาโมโตะ กับ ชูก้า ในสารคดี SUGA: Road to D-Day ที่จะฉายทางดิสนีย์พลัส เร็ว ๆ นี้)

ทั้งนี้ หากพิจารณาจาก ‘น้ำเสียง’ ที่ซากาโมโตะเขียนถึงชูก้าเอาไว้ในบทความของเขา ตลอดจนการให้สัมภาษณ์สื่อถึงนักร้องรุ่นหลานคนนี้หลายต่อหลายครั้งชี้ให้เห็นว่า นักร้องต่างชาติ ต่างภาษา และต่างวัยคู่นี้เชื่อมโยงถึงกันด้วยความรักในดนตรีอย่างแท้จริง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ click กันในเวลาอันรวดเร็วอาจเป็นเพราะพวกเขาอุทิศชีวิตให้กับดนตรีเหมือนกันก็เป็นได้

จาก ‘SUGA BTS’ ถึง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ แรงบันดาลใจสู่การเป็นศิลปินระดับโลก Credit : ทวิตเตอร์ ryuichi sakamoto

ริวอิจิ ซากาโมโตะนั้นอยู่กับเปียโนมาตั้งแต่เกิด เริ่มเรียนแต่งเพลงตั้งแต่ 10 ขวบ เรียนสาขามานุษยดุริยางควิทยา (ethnomusicology) ที่มหาวิทยาลัย Tokyo National University of Fine Arts and Music ก่อนเข้าสู่วงการในฐานะนักประพันธ์เพลง นักร้อง นักเปียโน และโปรดิวเซอร์

ซากาโมโตะมีผลงานเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการประพันธ์เพลงสกอร์ประกอบภาพยนตร์ The Last Emperor ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ ลูกโลกทองคำและรางวัลแกรมมี่ไปครอง

ขณะที่ Merry Christmas Mr. Lawrence เพลงสกอร์เพลงแรกที่เขาแต่งประกอบภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน ก็ได้รับรางวัล BAFTA ไปครองเช่นกัน

นักร้อง โปรดิวเซอร์หนุ่มที่ทั้งชีวิตมีแต่ดนตรี

ในส่วนของชูก้านั้น นอกจากเป็นนักร้องวงบีทีเอส วงบอยแบนด์ที่ดังที่สุดในโลกแล้ว เขายังเป็นนักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์มือดีของวงการที่ทำเพลงฮิตให้กับศิลปินดัง ๆ ของเกาหลีใต้อย่าง PSY, ไอยู, Epik High, Suran ศิลปินตะวันตกอย่าง Halsey, MAX รวมไปถึงศิลปินญี่ปุ่นอย่าง ØMI มาแล้ว

ชูก้า หรือมินยุนกิ ยังมีผลงานอันหลากหลายอย่างการแต่งเพลงบรรเลงประกอบภาพยนตร์โฆษณาให้กับสินค้าแบรนด์ดังอย่าง Samsung และ Hyundai รวมไปถึงแต่งเพลงประกอบเว็บตูน และเพลงประกอบเกมมาแล้วด้วย

ขณะที่เพื่อน ๆ วงบีทีเอสเองก็ยืนยันว่าชูก้านั้นทำเพลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก หรือแม้แต่เวลาไปพักผ่อนกัน เขาก็จะพกอุปกรณ์ทำเพลงติดตัวไปด้วยเสมอ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ ริวอิจิ ซากาโมโตะ พูดถึงเขาเอาไว้ว่า “(ชูก้า) คิดถึงเรื่องดนตรีมากเสียจนคนอาจคิดได้ว่าเขาไม่มีงานอดิเรกอื่นอีกเลย”

10 เพลงโปรดของ ริวอิจิ ซากาโมโตะ

ก่อนที่ซากาโมโตะจะเสียชีวิตได้ไม่นาน ชูก้าได้มีโอกาสเข้าร่วมโปรเจคต์ที่ชื่อ “My Ten Favorites by Ryuichi Sakamoto” ซึ่งเป็นการเชิญคนที่รักในผลงานของปรมาจารย์ดนตรีชาวญี่ปุ่นท่านนี้มาคัดเลือก 10 ผลงานของเขาที่เจ้าตัวชอบที่สุด เพื่อให้เราได้รับรู้มุมมองที่หลากหลายที่คนมีต่อเพลงของริวอิจิ ซากาโมโตะ

ชูก้า ซึ่งเป็นคนที่ 25 ในโปรเจคต์นี้ ได้เขียนถึง ริวอิจิ ซากาโมโตะ เอาไว้ว่า

“ตอนที่ผมยังเด็ก พ่อแม่พาผมไปดู Last Emperor ที่กลับมาฉายใหม่

นั่นเป็นครั้งแรกที่ผพบพานกับความรู้สึกอันยอดเยี่ยมที่เกิดขึ้นจากดนตรี ผมเริ่มแต่งเพลงตอนอายุ 12 แล้วฝันถึงอนาคตด้วยการฟังเพลงของคุณ แล้วแซมปลิงพวกมันเยอะมาก

มีนักดนตรีหลายคนที่เป็นแรงบันดาลใจของผม แต่คุณคือคนที่มีอิทธิพลกับผมมากที่สุด

(เพื่อเป็นการอ้างอิง ผลงานของคุณที่ผมชอบที่สุดคือเพลง “Merry Christmas Mr. Lawrence” เวอร์ชั่นแสดงสดที่คุณเล่นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวปี 2011 ซึ่งเราสามารถดูได้จากภาพยนตร์สารคดีเรื่อง CODA)

มาเอสโตร ซากาโมโตะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง อย่าเปลี่ยนแปลงไปเลยนะครับ

หมายเหตุ : สามารถรับชมสารคดีเรื่อง "Ryuichi Sakamoto: CODA ดนตรี คีตา : ริวอิจิ ซากาโมโตะ" พร้อมซับไทยได้ที่ Netflix

จาก ‘SUGA BTS’ ถึง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ แรงบันดาลใจสู่การเป็นศิลปินระดับโลก

ชูก้าได้จัดอันดับผลงานของ ริวอิจิ ซากาโมโตะ ที่เขาโปรดปรานเอาไว้ ดังนี้

Merry Christmas Mr. Lawrence

เพลงนี้มีชื่อเสียงมากเสียจนผมคิดว่าคงไม่มีชาวเกาหลีคนไหนที่ไม่เคยฟังมันมาก่อน ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม ผมฟังเพลงนี้แล้วฝันที่จะเป็นนักร้อง มันให้ความรู้สึกเหมือนเพลงที่แสดงความเป็นคริสต์มาสแบบญี่ปุ่นออกมาได้ดี

Rain

เพลงนี้ก็มีชื่อเสียงมากจนผมคิดว่าคงไม่มีชาวเกาหลีคนไหนที่ไม่เคยได้ยินมันมาก่อน มันเป็นผลงานที่ทำให้ผมอยากออกจากบ้านไปในทันที

SELF PORTRAIT

ผมอยากให้คนที่รู้จักผลงานของมาเอสโตรซากาโมโตะในปัจจุบัน ลองฟังเพลง “self portrait” เวอร์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป

Flower

ผมรู้สึกว่าตัวเองสงบลงเมื่อได้ฟังเพลงนี้

A Flower is not a Flower

ผมตั้งใจเลือกเพลงนี้เอาไว้หลังเพลง “Flower” มันน่าสนใจมากที่อารมณ์ของเพลง ๆ หนึ่งเปลี่ยนไปด้วยการมี และไม่มีเสียงร้อง

(หมายเหตุ : Taeko Onuki เพิ่มเนื้อร้องเข้าไปในเพลง ”A Flower is not a Flower” ทำให้มันกลายมาเป็นเพลง “Flower” ขึ้นมา)

The Last Emperor

ตอนที่ผมยังเด็ก ผมได้ดู Last Emperor ที่กลับมาฉายใหม่กับพ่อแม่ในโรงภาพยนตร์ ผมตื่นตะลึงไปกับเพลงธีมของหนัง ผมจึงเลือกเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงช่วงเวลานั้น