ลั่นออกหมายเรียก 'ดารา' สั่งซื้อไซยาไนด์ งานเข้านางเอกหนัง100ล้าน
บิ๊กโจ๊ก ลั่นออกหมายเรียก 'ดารา' สั่งซื้อไซยาไนด์ สอบปากคำซื้อไปทำอะไร มีวัตถุประสงค์อะไรต่อไป งานเข้านางเอกหนัง100ล้าน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) หรือ บิ๊กโจ๊ก ชี้แจงกรณีดารา เราทราบชื่อหมดแล้ว เตรียมออกหมายเรียกให้มาพบ ภายในวันจันทร์นี้ เนื่องจากมีความผิดปกติเพราะหลังเกิดเหตุคดีนี้แล้ว ได้มีการสั่งซื้อ “ไซยาไนด์” จึงจำเป็นต้องนำมาสอบปากคำเพื่อดูว่า ซื้อไปทำอะไร มีวัตถุประสงค์อะไรต่อไป
ล่าสุด นางเอกหนัง100ล้าน ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ยอมรับว่า สั่งซื้อไซยาไนด์เพียง 1 ขวด โดยค้นหาทางอินเทอร์เน็ต เพื่อเอาไปฆ่าตัวเงินตัวทอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตา "แอม ไซยาไนด์" สารภาพ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) วานนี้ ออกมาเปิดเผยว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 (ผบช.ภ.7) และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “รอง อ๊อฟ” อดีตสามี “แอม ไซยาไนด์” หรือ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาวางสารพิษไซยาไนด์ฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อนับสิบราย ร่วมเดินทางไปยัง เรือนจำของศาลอาญา เพื่อเข้าเกลี้ยกล่อมให้ “แอม ไซยาไนด์” สำนึกผิด
“แอม” เสนอขอเจอญาติผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ บช.ภ.7 พามาพบกับ “แอม” ก่อนในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น. จากนั้นวันที่ 6 พฤษภาคม “แอม” จะให้มาสอบสวนอีกครั้ง โดยระหว่างการเกลี้ยกล่อม "แอม" ร่ำไห้ออกมาเพราะกังวลว่าตนเป็นสาเหตุที่ทำให้สามีโดนให้ออกจากราชการ และไม่รู้ว่าเขาจะทำงานและใช้ชีวิตต่ออย่างไร รวมถึงกังวลเรื่องลูกด้วย
รองฯสุรเชษฐ์ ระบุ วันนี้ “แอม” ยังไม่ยอมรับสารภาพในคดีฆ่า หรือให้การใดๆ โดยขอพบญาติรายนี้ก่อน ตนได้พยายามพูดให้เห็นว่า พยาน หลักฐานของพนักงานสอบสวนนั้นไปไกลแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนเห็นว่า การให้สามีมาเกลี้ยกล่อมจะทำให้เขารับสารภาพและให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ส่วน “รอง อ๊อฟ” ไม่มีความเครียด แต่ตัวแอมมีความเครียดมาก โดยเฉพาะความกังวลในเรื่องของลูกการอยู่ในสังคม ลูกจะอยู่ในสังคมอย่างไร และสามีหลังจากออกจากราชการแล้วจะไปทำงานที่ไหน แอมบอกว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นผลจากสิ่งที่เขาทำทั้งสิ้น
รองผบ.ตร. ระบุอีกว่า ตนจะมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้พบญาติแล้ว การที่เขาจะรับสารภาพ เขาจะต้องสบายใจ ให้เจอญาติที่เขาต้องการพบ แอมรับปากว่า ถ้าเจอญาติแล้วจะยอมพูดทั้งหมด ซึ่งตนจะให้ “รอง อ๊อฟ” ติดต่อญาติคนนี้เข้ามาเพื่อให้แอมได้เจอญาติรายนี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนรวบรวมหลักฐานจะทำควบคู่กันไป โดยบอกแอมว่า คดีทั้ง 15 ราย ทำเคสไหนก็ให้รับสารภาพมา ถ้ารับสารภาพแล้วก็จะต้องรับทั้งหมด ในทางคดีทนายของแอมรับว่าความ คดีละ 150,000 บาท ตนบอกไปแล้วว่า มีทั้งหมด 15 คดี ไม่มีทนายความคนไหนหรอกที่จะบอกว่า สู้ไม่ได้ เพราะถ้าบอกว่าสู้ไม่ได้ ก็ไม่มีอาชีพทนายความ ซึ่งแอมยังใช้ทนายความคนเดิมเนื่องจากเป็นเพื่อนกัน
รองผบ.ตร.กล่าวว่า สำหรับ“น้อยหน่า” ภรรยาน้อย รอง อ๊อฟ ไม่มีประเด็นไหนแล้ว แต่จะมีการตรวจสอบในคู่ขนานไปด้วย ทุกอย่างต้องทำควบคู่กันไป โดย “น้อยหน่า” คิดว่าถ้าเกิดเขาไม่ได้ไปต่างจังหวัดก่อน เขาอาจถูกฆ่าก็ได้เพราะว่าพักหลังแอมเริ่มไม่ชอบที่ "น้อยหน่า" ไปคบกับ "รอง อ๊อฟ" เกิดมีความหึงหวง ซึ่ง"น้อยหน่า"เพิ่งคบได้ 5 เดือนจึงไม่รู้อะไรมาก
ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า “รอง อ๊อฟ” เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม ต้องดูความเชื่อมโยงเกี่ยวกับ พยาน หลักฐาน เส้นทางการเงิน ต้องพยายามทำควบคู่กันไป ต้องพยายามให้แอมสำนึกผิด ให้รู้ผิดชอบชั่วดี ถ้าจิตใจที่ไม่ดีขึ้นมาเหนือกว่า ความรู้ผิดชอบชั่วดีก็จะไม่เกิด ตอนนี้ทำให้เรามีความหวัง แต่ถ้าไม่รับ เราก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลลงโทษเขาให้ได้
การที่แอมผสมไซยาไนด์บ่อย แสดงว่ามีการป้องกันตัวเอง เพราะสารไซยาไนด์แค่สูดดมไป ก็โดนแล้ว ยาต้านไซยาไนด์ ต้องฉีดเข้าเส้นเลือดดำ คนฉีดได้ต้องเป็นพยาบาล ต้องไปไล่ต่อว่าใครเป็นพยาบาลที่อยู่ใกล้ตัวเขา การมียาต้านพิษแสดงถึงว่าคิดไว้รอบคอบแล้ว เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ได้เลย
“สารไซยาไนด์ผสมสมุนไพรใส่แคปซูลทุกเม็ด แสดงว่า ถ้าเกิดแอมเจอเหยื่อก็พร้อมให้กินเลย”