'มาริโอ้' ตอบแล้ว! รับเป็นดารา ม. หลังถูกโยงแก๊งสวมทะเบียน ที่แท้เป็นแบบนี้
พระเอกดัง 'มาริโอ้' ตอบแล้ว! รับเป็นดารา 'ม.' ถูกตำรวจเรียกจริง หลังถูกโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ เผยเป็นผู้เสียหาย เกือบสูญเงินล้านกว่าบาท
เรียกว่าเป็นประเด็นขึ้นมาทันที ภายหลังตำรวจเตรียมออกหมายเรียกดาราดัง อักษรย่อ 'ม' พร้อมกลุ่มคนมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม เพื่อทำการสอบปากคำหลังพบเชื่อมโยงแก๊งสวมทะเบียน ซึ่งหลายคนก็พุ่งเป้าไปที่พระเอกหนุ่ม 'มาริโอ้ เมาเร่อ'
ล่าสุดพระเอกดัง 'มาริโอ้' ไม่ปล่อยให้คนสงสัยนานได้ยอมรับว่าเป็นตัวเองจริง ตัวอักษรย่อ ม. คือตัวผมเองนี่แหละครับ เพราะมีโอกาสได้คุยได้ติดต่อกับทางตำรวจแล้ว เรื่องราวของโอ้เริ่มจากที่ไปซื้อรถจากคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เป็นรุ่นพี่ แล้วผมก็ไม่มีโอกาสได้ของ เขาก็คืนเงินมา แต่ทะเบียนมันเป็นชื่อผมไปแล้ว ก็คือมีทางตำรวจติดต่อมาว่ารถคันนี้มีปัญหานะ ก็อยากให้มาให้ปากคำว่ารถคันนี้มายังไง
พระเอกดัง เล่าต่อว่า คือผมไม่ได้รถ แต่ทะเบียนเป็นชื่อเรา แล้วก็คุยกับทางรุ่นพี่ เขารับผิดชอบ ตอนนี้ทางตำรวจอยากให้โอ้ไปให้ปากคำเพื่อเป็นข้อมูล เราคุยกับทางตำรวจก็บอกว่าเราเข้าข่ายผู้เสียหาย ก็อยากจะให้มาให้ปากคำให้เรียบร้อย ก็งงครับ ก็ตกใจ แต่ว่าก็คุยกับทางพี่ตำรวจที่ดูแลคดีนี้ เขาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ฟังจากที่โอ้เล่ามาโอ้เป็นผู้เสียหายนะ อยากจะให้โอ้มาให้ปากคำช่วยในรูปคดีหน่อย
ซึ่งจริงๆโอ้ก็โดนหลอก รุ่นพี่ก็โดนหลอกมากด้วย ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไร ทางคุณตำรวจที่ดูแลอยากให้โอ้ไปให้ปากคำเพื่อเป็นประโยชน์กับคดี ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไร เพราะเราก็เป็นคนปกติอยากไปซื้อรถนี่แหละครับ แต่เราก็ไม่รู้ว่าต้นขั้วเขาไปทำอะไรมา เราก็เห็นว่ารถมีทะเบียน มีอะไรถูกต้อง เราก็ซื้อ โอ้เองก็แสดงความบริสุทธิ์ว่าเราซื้อแบบนี้นะ เป็นแบบนี้นะ
มาริโอ้ เล่าต่ออีกว่า ผมไม่ได้เป็นผู้เสียหาย แต่ว่าในรูปคดีเรามีชื่อเป็นผู้เสียหาย โอ้เล่นรถมานาน ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ก่อนซื้อเราก็เช็กให้ละเอียดเรื่องของทะเบียน แล้วก็ไปโอนที่ขนส่งหรือเปล่าผมเช็กประจำอยู่แล้ว เคสนี้มันเกิดปัญหาอยู่แล้ว แต่ตัวโอ้เองก็ได้รับค่าเสียหายคืนมาแล้ว โอ้ก็เลยไม่ได้เดือดร้อนอะไร เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนแล้ว มูลค่าก็ล้านกว่าบาท
ต่อไปนี้ก็จะต้องระวังมากขึ้น เราไม่รู้ว่ามันเป็นมายังไง บางทีเราเห็นเอกสารมันถูกต้องแล้ว เขาอาจจะไปมั่วอะไรมา ก็ต้องเช็ก ปกติคันอื่นผมก็เช็ก ที่มีปัญหาคือคนนี้คันเดียว ผมได้คุยกับทางตำรวจแล้ว แต่ว่ายังไม่มีโอกาสว่างเข้าไปให้ปากคำ น่าจะวันสองวันนี้ กับพี่ที่ดูแลก็คุยและประสานกันอยู่แล้ว เรื่องนี้คนรอบข้างเขาก็ตกใจ แต่ผมก็อธิบายให้ทุกคนฟังว่าก็แค่ไปซื้อรถ โดนหลอก ผมคงไม่มีโอกาสไปทำอะไรแบบนั้น