‘Lisa BLACKPINK’ ร่วมแสดง ‘Crazy Horse’ คาบาเรต์โชว์ระดับตำนานของฝรั่งเศส
บางคนยังมีความเชื่อว่า “คาบาเรต์” เป็นโชว์อนาจาร แต่ความจริงแล้วเป็นศิลปะการแสดงชั้นครูสุดอลังการ ล่าสุด..“Lisa BLACKPINK” ได้รับบทแสดงนำในโชว์ “Crazy Horse” คาบาเรต์ชื่อดังของฝรั่งเศส
Key Points:
- “Crazy Horse Paris” ถือเป็นหนึ่งในคาบาเรต์โชว์ที่มีค่าบัตรเข้าชมราคาสูง เป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่ที่ถูกสืบทอดมายาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่ล่าสุด “Lisa BLACKPINK” มีโอกาสได้ร่วมแสดงด้วย
- ในอดีตบางคนอาจมองว่า “คาบาเรต์โชว์” คือระบำเปลื้องผ้าที่มีความอนาจาร แต่ปัจจุบันไม่มีโชว์แบบนั้นแล้ว มีเพียงการโชว์ที่เป็นศิลปะการแสดงสุดซับซ้อนที่มีหลายองค์ประกอบ ตั้งแต่การออกแบบท่าเต้น ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไปจนถึงออกแบบเวที
- อีกหนึ่งการแสดงที่หลายคนยังเข้าใจผิดก็คือ “โพลแดนซ์” บางคนเรียกว่า “เต้นรูดเสา” แต่ความจริงแล้วเป็นการแสดงที่ผสมผสานกันระหว่างกีฬาและการแสดง นอกจากจะเป็นโชว์ที่มีความสวยงามแล้ว ยังช่วยให้ผู้เล่นมีสุขภาพดี
“คาบาเรต์โชว์” หรือ Cabaret หนึ่งในการแสดงโชว์สุดอลังการ ที่อยู่เคียงคู่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มานานกว่า 150 ปี และปัจจุบันมีการพัฒนาไปไกลทั้งเรื่องของ การแสดง แสง สี เสียง และลูกเล่นสุดตระการตา
สำหรับ “คาบาเรต์โชว์” ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดจะต้องมีชื่อของ “Crazy Horse Paris” หรือ Crazy Horse ติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน ด้วยความที่ชื่อเสียงในเรื่องการแสดงที่มีความซับซ้อน ความสง่างาม และความเย้ายวน ซึ่งไม่ใช่แค่การเต้นเท่านั้น แต่ภายใน Crazy Horse ยังมีการแสดงอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่น มายากล และละครใบ้ ซึ่งเป็นทีมโชว์คาบาเรต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก
มีการจัดทัวร์เพื่อแสดงโชว์ไปแล้วในหลายประเทศ และที่สำคัญยังสามารถทำรายได้เป็นจำนวนมาก โดยราคาเริ่มต้นของบัตรเข้าชมโชว์อยู่ที่ประมาณ 115 ยูโร หรือประมาณ 4,000 บาท และราคาที่สูงที่สุดอยู่ที่ 295 ยูโร หรือประมาณ 11,319 บาท
ในอดีตที่ผ่านมาบางคนอาจมีภาพจำว่า “คาบาเรต์โชว์” คือการเต้นระบำเปลื้องผ้า แต่ในปัจจุบันมันถูกพัฒนาสู่การเป็นศิลปะการแสดงแขนงหนึ่งที่ผู้แสดงจะต้องมีทักษะในการเต้นเป็นอย่างมาก และยังต้องอาศัยศิลปะหลายแขนงในการออกแบบทั้งโชว์และเวทีการแสดงให้มีความอลังการ สมกับที่ผู้ชมจ่ายค่าบัตรในราคาแพงเพื่อเข้ามาชม
นักแสดงจาก Crazy Horse Paris (Belles Demeures)
ในส่วนของไฮไลต์ปีนี้ที่หลายคนไม่อยากพลาดชมโชว์ของ Crazy Horse ก็คือ “Lisa BLACKPINK” จะขึ้นเป็นเฮดไลน์ของ Crazy Horse ในวันที่ 28-30 ก.ย. นี้ ถึง 5 รอบการแสดงด้วยกัน
- “คาบาเรต์โชว์” ศิลปะการแสดงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ก่อนหน้านี้คาบาเรต์ ถูกนิยามว่าเป็นสถานที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่กำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่ต่อมามีข้อมูลชุดใหม่ระบุว่า แท้จริงแล้วคาบาเรต์ในปารีสเริ่มมีการพัฒนาขึ้นในปี 1881 เมื่อชายคนหนึ่งชื่อ “Rodolphe Salis” มองว่าอยากสร้างสรรค์ความบันเทิงขึ้นมาระหว่างมื้ออาหาร เช่น ละครเงา เพลง รวมถึงการแสดงเสียดสีการเมืองในช่วงนั้น โดยเขานำเสนอการแสดงต่างๆ ด้วยตัวเอง ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ในสังคมยุคนั้น
หลังจากนั้นก็เริ่มมีร้านอาหารหรือบาร์หลายแห่งเปิดการแสดงในลักษณะเดียวกัน ทำให้คาบาเรต์ได้รับความนิยมไปทั่วกรุงปารีสในเวลาไม่นาน
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 “คาบาเรต์โชว์” ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และโด่งดังไปไกลถึงอเมริกา ทำให้ร้านเหล้าหลายแห่งเริ่มมีการแสดงโชว์ทั้งการแสดงล้อเลียน การเต้นรำ และการแสดงดนตรีแจ๊ส ที่เปลี่ยนรูปแบบไปในทุกค่ำคืน ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในร้านเหล้าเป็นอย่างมาก
ต่อมาคาบารเรต์ก็เริ่มมีองค์ประกอบในการแสดงมากยิ่งขึ้น และในบางครั้งก็มีโชว์เปลื้องผ้าเป็นส่วนประกอบ แต่พอถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 การแสดงรูปแบบล้อเลียนเสียดสีก็เริ่มหมดความนิยมลงไปตามยุคสมัย
ในฝรั่งเศสเองก็มีคาบาเรต์เกิดขึ้นมากมาย และกลายเป็นคาบาเรต์ที่มีชื่อเสียงในลำดับต้นๆ จนถึงทุกวันนี้ เช่น Paradis Latin คาบาเรต์ที่เก่าแก่ที่สุด, Le Lido คาบาเรต์ที่ใหญ่ที่สุด และ Crazy Horse ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จจากการนำเสนอโชว์ในรูปแบบที่ทันสมัย
ส่วนหนึ่งจากการแสดงของ Crazy Horse Paris
ล่าสุดชื่อของ “Crazy Horse” กำลังเป็นกระแสที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ในฐานะของคาบาเรต์ที่มีความเก่าแก่และประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ในช่วงปลายเดือน ก.ย. นี้ “Lisa BLACKPINK” จะเป็นเฮดไลน์หรือผู้แสดงโชว์หลักของ Crazy Horse ทำให้บรรดาแฟนคลับต่างจับตามองการปรากฏตัวของลิซ่าในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ที่สำคัญลิซ่ายังถือว่าเป็นศิลปิน K-POP และคนไทยคนแรกที่ได้แสดงกับ Crazy Horse อีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าความโด่งดังของลิซ่านั้นเทียบเท่ากับศิลปินหญิงชื่อดังของโลกที่เคยมาแสดงที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Beyoncé, Kylie Minogue และ Dita Von Teese เป็นต้น
ภาพโปรโมต LISA X CRAZYHOUSE จาก Story IG ของ ลิซ่า
แม้ว่าการก้าวขึ้นเป็นเฮดไลน์ของคาบาเรต์โชว์ระดับโลกของลิซ่าจะเรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการพิสูจน์ฝีมือของเธอในฐานะศิลปิน แต่ก็ยังมีหลายคนแสดงความเห็นว่าอาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอาจจะเป็นการแสดงโป๊เปลือย เนื่องจากความเชื่อในอดีตที่ว่า “คาบาเรต์โชว์” คือระบำเปลื้องผ้า แต่ในปัจจุบันคาบาเรต์ถูกพัฒนาไปไกลกว่านั้นมากๆ แล้ว และกลายเป็นการแสดงที่จำเป็นต้องมีทักษะการแสดงระดับสูง
ที่สำคัญคาบาเรต์ยังมีการแข่งขันกันในเรื่องการออกแบบการแต่งกายและเวทีการแสดงกันอย่างดุเดือดอีกด้วย เพราะไม่ว่าคณะไหนก็อยากจัดโชว์ให้ออกมาอลังการและสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้มากที่สุด
ไม่ใช่แค่คาบาเรต์เท่านั้นที่ทำให้ลิซ่าถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก่อนหน้านี้เธอก็เคยนำ “โพลแดนซ์” หรือ Pole Dance มาประกอบการแสดงบางช่วงในคอนเสิร์ต ซึ่งในครั้งนั้นก็มีคนบางกลุ่มมองว่าเป็น “การเต้นรูดเสา” ทั้งที่ความจริงโพลแดนซ์เป็นการแสดงผาดโผนผสมกับการเต้นรำที่ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
- “โพลแดนซ์” ไม่ใช่แค่เต้นรูดเสา แต่คือกีฬาและศิลปะ
หลายคนอาจมองว่า โพลแดนซ์ คือการเต้นรูดเสาที่พบเห็นได้ตามสถานบันเทิงเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโพลแดนซ์นับว่าเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะด้านกีฬาและศิลปะ ถือว่าเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ช่วยพัฒนาความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นและสมดุลให้กับร่างกาย ที่ยังไม่ทิ้งความสนุกสนานและมีศิลปะความสวยงาม สามารถเล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังได้รับความนิยมนำไปเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงอีกด้วย
นอกจากนี้ “โพลแดนซ์” ยังมีส่วนช่วยให้ผู้เล่นมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นจากการฝึกทักษะร่างกายในท่าทางการเต้นรูปแบบต่างๆ จึงทำให้ร่างกายยืดหยุ่นและสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้เล่น
สำหรับความนิยมของโพลแดนซ์นั้นเริ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 21 แต่บางแหล่งข้อมูลระบุว่า มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1920 ในงานแสดงสินค้าท่องเที่ยวที่อเมริกาในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ โดยมีนักเต้นกลุ่มหนึ่งแสดงการเต้นรำโดยที่มีเสาที่ยึดอยู่กับเต็นท์ทำให้มีความโดดเด่น
หลังจากนั้นการเต้นโพลแดนซ์ก็เริ่มได้รับความนิยมไปในวงกว้าง และมีการเปิดสอนครั้งแรกในปี 1994 โดย Fawnia Mondey จนมีการเรียนการสอน และการแข่งขันกันอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน
ในประเทศไทยเอง “โพลแดนซ์” ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน แม้แต่ Lisa BLACKPINK ยังเคยนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงคอนเสิร์ต BORN PINK จนสร้างความฮือฮามาแล้ว
Lisa BLACKPINK - BORNPINK WORLDTOUR ที่เกาหลีใต้
(ภาพจากทวิตเตอร์ LILITEAM)
แม้ว่าในอดีตทั้ง “คาบาเรต์โชว์” และ “โพลแดนซ์” อาจถูกมองว่าเป็นการโชว์ที่ขายเรือนร่างเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันเมื่อสังคมเปลี่ยนไป การแสดงต่างๆ ก็ถูกพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย ดังนั้นคาบาเรต์โชว์ และโพลแดนซ์ ในยุคนี้จึงกลายเป็นศิลปะการแสดงอีกหนึ่งแขนงที่นอกจากจะต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวแล้ว ยังเป็นอาชีพที่สามารถสร้างเม็ดเงินได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรอบการแสดงหรือการเปิดคลาสเรียนก็ตาม
Lisa BLACKPINK และนักแสดงของ Crazy Horse Paris (Koreaboo)
สำหรับการแสดงของ “Lisa BLACKPINK” ที่ “Crazy Horse Paris” จะมีขึ้นในวันที่ 28-30 ก.ย. 2566 โดยมีทั้งหมด 5 รอบการแสดง ราคาบัตรอยู่ที่ 250 ยูโร หรือประมาณ 9,600 บาท ซึ่งแน่นอนว่าบัตรขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อ้างอิงข้อมูล : Paradis Latin, The People of Cabaret, Hello, Paris Tickets, Vogue, Theatre in Paris, Pole People และ Polefitness Studio