‘ออเจ้า’ เตรียมตัว ‘พรหมลิขิต’ ลงจอ 18 ต.ค. นี้

พรหมลิขิต ภาคต่อของละครรักโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ บุพเพสันนิวาส ที่หลายคนรอคอย กำลังจะลงจอในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2566 หลังจากใช้เวลาถ่ายทำกันมานาน

บุพเพสันนิวาส ฉายครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด

 

เขียนบทโทรทัศน์โดย ศัลยา ดัดแปลงจากนวนิยายของ รอมแพง กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ แสดงโดย โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ, เบลล่า-ราณี แคมเปน, หลุยส์ สก็อต, ซูซี่-สุษิรา แอนจิลีน่า แน่นหนา, ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย, ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล

เป็นละครที่สร้างปรากฎการณ์ให้กับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2561 ผู้ชมละครต่างแต่งชุดไทย ไปถ่ายรูปตามโบราณสถาน และมีคำเรียกผู้หญิงว่า ออเจ้า ขณะที่เรตติ้งก็พุ่งสูงถึง 20 กว่า

อรุโณชา ภาณุพันธ์ ผู้จัดละคร กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด กล่าวว่า เราได้เห็นพี่หมื่นกับการะเกดในบุพเพสันนิวาสมาแล้ว

"แต่ภาคนี้จะโตขึ้น มีครอบครัว มีลูก ได้เห็นความเป็นไปของครอบครัวนี้เหมือนเราเจอญาติ เจอคนที่คุ้นเคย"

สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ผู้กำกับ พรหมลิขิต กล่าวว่า ตัวละครหลักในบุพเพสันนิวาสที่ยังมีชีวิตอยู่ อยู่ครบหมด

"เป็นภาคต่อที่สมบูรณ์ เพราะคุณ รอมแพง (จันทร์ยวีร์ สมปรีดา) ได้เขียนไว้หมดแล้ว พอบทมาอยู่ในมือของ อาจารย์แดง (ศัลยา สุขะนิวัตติ์) รอยต่อระหว่างบุพเพสันนิวาสมาพรหมลิขิตก็เลยเนียนกริ๊บ เหมือนเป็นเรื่องเดียวกันเลยค่ะ

มีตัวละครใหม่ที่มีสีสันเข้ามา เพราะใน บุพเพสันนิวาส เป็นยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเพทราชา พระเจ้าเสือ แต่ใน พรหมลิขิต เป็นยุคพระเจ้าท้ายสระ และกรมพระราชวังบวร

ตัวละครหลักคือ พุดตาน ส่วนพระเอก ต้องเล่นเป็นสามคาแรคเตอร์ ทั้ง พ่อริด-พ่อเรือง พ่อริดคือพระเอก พ่อเรืองคือแฝดพี่ เป็นผู้ชายเงียบขรึมไม่ค่อยพูด พูดน้อย ยิ้มน้อย

ส่วน พ่อ หรือ พี่หมื่น จะมีหนวด เพราะมีลูกสาวสวยสองคน เป็นเจ้าพระยา ซึ่งโป๊ปสามารถแยกสามคาแรคเตอร์ได้ค่อนข้างขาด แล้วอินเนอร์มาเต็ม สื่อออกมาที่แววตาได้ดีมาก

สถานที่ถ่ายทำเดิมที่ยังดีและสวยงาม เรารักษาไว้ทั้งหมด แล้วต่อยอดสร้างใหม่เพิ่มเติม คือ บ้านของพุดตาน ผสมผสานยุคอยุธยากับยุคกรุงเทพฯ

จะได้เห็นพระที่นั่ง บรรยงก์รัตนาสน์ ของพระเจ้าท้ายสระที่ทรงโปรดมาก สร้างขึ้นท่ามกลางธรรมชาติ มีเขามอ มีน้ำล้อมรอบ สถานที่จริงอยู่ในพระราชวัง

เรามีนักประวัติศาสตร์ วิโรจน์ ศรีสิทธิ์เสรีอมร และ ประเสริฐ โพธิ์ศรีรัตน์ เป็นที่ปรึกษา

ในส่วนของการถ่ายทำ ไม่มีฉากไหนง่ายเลย ยากทุกซีน ทีมงานและนักแสดงตั้งใจมาก เพื่อทำละครออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด"

• โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

"ชาตินี้เราเป็นผัวเมียกันแล้ว เราจะเข้าใจเมียมากขึ้น และความน่ารักของการะเกด มีความตะมุตะมิ เราก็จะยอมรับมนุษย์เมีย เมียเป็นใหญ่ มีความสุขในชีวิต

พ่อริดจะเป็นตัวนำในเรื่องนี้ แต่ว่านิสัยใจคอจะเหมือนทางแม่กับพ่อปน ๆ กัน พ่อเรืองกับพี่หมื่น หรือพ่อ จะคล้าย ๆ กัน คือเป็นคนที่นิ่ง สุขุม แล้วก็เข้าใจโลกมาก"

• เบลล่า ราณี แคมเปน

"ด้วยความเป็นแม่แล้ว พออยู่ต่อหน้าลูก ๆ เราก็ต้องลดสเต็ปความเป็นตัวเองลงมานิดหนึ่ง มีความรับผิดชอบในความเป็นคุณแม่มากขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างในบ้านในเรือนเราก็จะคุมได้ทุกอย่าง

มันเป็นอีกช่วงวัยหนึ่งที่มีลูกแล้ว ซึ่งมันค่อนข้างไกลตัวเรามาก ก็ต้องจินตนาการว่า คนที่หน้าตาแบบพี่โป๊ปมาเป็นลูกเรา เขาก็จะเป็นทั้งพ่อของลูก แล้วก็ลูกทั้งสองคนของเรา"

• เรื่องย่อ พรหมลิขิต

วันหนึ่ง ขณะที่ พุดตาน กำลังคุมงานจัดสวนที่ จ.อยุธยา คนงานของเธอได้ขุดเจอหีบโบราณใบหนึ่งที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ภายในมีสมุดข่อยโบราณเก่าแก่เล่มหนึ่ง

เพียงแค่เธอสัมผัสกับสมุดข่อยเล่มนั้น เธอก็รู้สึกเจ็บปวดคล้ายจะเป็นลม เกิดแสงสีทองสว่างจ้า และร่างของ พุดตาน ก็หายวับไปพร้อมกับสมุดข่อย

เมื่อ พุดตาน ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบเห็นชายหนุ่มรูปงาม แต่งตัวแปลกตาอยู่ตรงหน้า เขาคือ หมื่นมหาฤทธิ์

ลูกชายฝาแฝดคนเล็กของ ออกญาวิสูตรสาคร และ เกศสุรางค์ สองคนยื้อแย่งคัมภีร์กฤษณะกาลีที่ต่างจับกันอยู่

พุดตานเชื่อว่าสมุดข่อยจะต้องพาเธอกลับบ้าน ขณะที่ หมื่นมหาฤทธิ์ ไม่ยอมเพราะคัมภีร์กฤษณะกาลี คือ สมบัติล้ำค่าของตระกูล

ที่ถูกพ่อของเขานำมาฝังเอาไว้นานแล้ว หมื่นมหาฤทธิ์ แปลกใจที่ พุดตาน มีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคุณแม่ของเขามาก

พุดตาน จะใช้ชีวิตอย่างไรในสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย คนแปลกหน้าสองคนที่เพิ่งพบเจอกัน แต่กลับรู้สึกผูกพันกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ฤๅจะเป็น พรหมลิขิต ที่ทำให้เขาและเธอได้กลับมาพบกัน และจะไม่มีวันพรากจากกันอีกชั่วนิรันดร์

ติดตามชมละคร พรหมลิขิต ตอนแรกได้ในวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 20.30-22.30 น. ทุกวันพุธ-พฤหัส

จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นวันจันทร์ อังคาร พุธ วันที่ 30 ตุลาคม ถึงวันที่ 18 ธันวาคม

รวมทั้งสิ้น 26 ตอน ทางช่อง 3 HD

.......................

อ้างอิง : Broadcast Thai Television