'ปู มัณฑนา' งัดหลักฐานสู้กลับปมหนี้ 2 ล้าน - 'ลูกหมี' เผยไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ

'ปู มัณฑนา' งัดหลักฐานสู้กลับปมหนี้ 2 ล้าน - 'ลูกหมี' เผยไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ

'ปู มัณฑนา' งัดหลักฐานสู้ปมหนี้ 2 ล้าน ลั่นเตรียมฟ้องกลับ ด้าน 'ลูกหมี' เผยไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จแม้ยอมลดเหลือ 1.4 ล้าน นัดเจรจาใหม่อีกรอบ

หลังนางแบบดัง 'ลูกหมี - รัศมี ทองสิริไพรศรี' พร้อมทนายเดชา ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยกล่าวหา ดารา ป. หรือ นางงาม ป. ยืมเงินแล้วไม่คืน พร้อมออกเช็คเด้ง จำนวนเงิน 2,000,000 บาท กระทั่งวันนี้ 'ปู มัณฑนา' ได้ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมทั้งแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง

 

 

โดยวันนี้ (4 กรกฎาคม 2567) เวลา 14.00 น. ดาราดัง 'ปู มัณฑนา' พร้อมด้วยสามี 'หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ' และทีมทนายความนำโดย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช และทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ได้เดินทางเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ

โดย 'ปู มัณฑนา' กล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เริ่มต้นรู้จักกันจากเพื่อนที่ตีกอล์ฟ แต่ปูไม่ได้ตี และก็มีโอกาสได้คุยกัน เขาเล่าปัญหาของเขาว่าเขาไม่มีงานทำ ไม่มีงานละคร มีนักเรียนสอนเดินแบบแค่ 2-3 คน มีภาระค่าใช้จ่ายต้องดูแลพ่อแม่ มีแฟนคนหนึ่งก็เลิกกับเขา โดนแฟนใช้เสิร์ฟอาหารล้างจานแต่ไม่ให้เงินเลย เขาไม่มีรายได้ เขามาคุยกับเราบอกว่า เขาปล่อยเงินกู้กับร้านแว่นได้ดอกเบี้ย 10-15% แล้วแต่ว่าร้านแว่นจะมีรายรับเท่าไหร่ และมีฝากเงินเพื่อนชื่อ ก. กับ อ. เขาบอกมีเพื่อน 3 คน ลงทุนเกี่ยวกับหุ้น บอกว่าถ้าพี่ปูมีงานอะไร ให้เขาหุ้นด้วย เพื่อที่จะมีรายได้เพิ่มเติมให้บอกเขา ร้านแว่นไม่จ่ายเงินเขาหลายเดือนมาก แล้วเขาก็ฟ้องแจ้งความร้านแว่นเมื่อปลายปีที่แล้ว

 

 

ปู เผยต่อว่า ปูก็เลยช่วยเหลือเขา เราบอกว่าเรามีทำอีเวนท์และบอกว่าเราอยากจะทำละคร ก็พาเขาไปคุยกับผู้ใหญ่ และบอกว่าอยากไปเป็นเลขาพี่หาญส์ พาเข้าหาผู้ใหญ่ทุกอย่าง ล่าสุดก็ผู้ใหญ่ที่ช่อง 7 เขาบอกมีเวลาให้ทำละคร บอกว่าลูกหมีเดี๋ยวเรามาหุ้นกันนะ ถ้าลูกหมีมีเงินน้อยก็จะให้เล่นเป็นแม่พระเอก เพื่อที่จะให้มีรายรับ แต่ผู้ใหญ่บอกว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เอารายการสดดีไหม เขาบอกรายการสดครึ่งชั่วโมงก็น่าจะดีกว่าทำละคร ก็หางานให้เขาทุกอย่าง แต่ว่าในเรื่องของงานละครกับงานพิธีกรยังไม่ได้ข้อสรุปกัน เพราะว่าเศรษฐกิจไม่ดี 

ปูมีเพื่อนที่ทำธุรกิจหลายคน ก็เลยบอกลูกหมีว่าเดี๋ยวมาทำธุรกิจกับเพื่อนพี่นะ ก็คุยตรงกันเองเลย เขาบอกว่าเขาไม่อยากคุยตรงกับเพื่อนพี่ปู ขอให้เป็นระหว่างพี่ปูกับเขาแล้วกัน แล้วถ้าพี่ปูจะเอาไปทำธุรกิจอะไรก็เรื่องของพี่ปู แล้วพี่ปูก็ส่งดอกกับลูกหมี 2 คน จะได้ไม่ต้องไปคุยหลายคน และเพื่อความสบายใจก็ขอเช็คพี่ปูเพื่อค้ำประกันเอาไว้ ปูให้ทุกอย่าง เขาบอกว่าพี่ปูขอเช็ค 3 ใบ เขียนยอดเท่านี้ๆ ลงวันที่เท่านี้นะคะ เราก็ตามเขาทุกอย่าง เขาให้เซ็นสัญญาเงินกู้ บอกว่าปูเซ็นชื่อเฉยๆ เอากระดาษเปล่ามา ให้คนรถไปเอา ปูก็บอกว่าลูกหมีพี่ปูเขียนดอกเบี้ยไปได้ไหม ว่าลูกหมีได้รับทั้งรายวันรายเดือนทุกวัน 10% 15% 20% เขียนไปไหม เขาบอกว่าไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวผิดกฎหมาย พี่ปูเซ็นอย่างเดียว เดี๋ยวลูกหมีเขียน วันที่ 2 มีนา และวันที่ 18 มีนา เขาก็แคปข้อความส่งมา บอกว่าพี่ปูเก็บสัญญาเงินกู้นี้ไว้นะคะ คือปูช่วยเขาหาเงิน เพราะเขามาขอความช่วยเหลือว่าเขาไม่มีงานทำ'

 

\'ปู มัณฑนา\' งัดหลักฐานสู้กลับปมหนี้ 2 ล้าน - \'ลูกหมี\' เผยไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ


ทำไมตกเป็นลูกหนี้ได้?

ปู มัณฑนา : คุยกับเรา เราบอกแล้วให้ลูกหมีคุยกับเพื่อนเราโดยตรง เพราะเพื่อนเราทำธุรกิจหลายอย่าง แต่เขาบอกว่าเขาไม่รู้จักเพื่อนพี่ปู ขอคุยกับพี่ปู 2 คน และขอเช็คพี่ปูค้ำประกันไว้ เพื่อเป็นหลักประกัน ก็ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่โกงเขาอยู่แล้ว ไม่งั้นไม่กล้าให้เช็คหรือไม่กล้าเซ็นสัญญาเงินกู้ คือเขาทำตั้งแต่ 30 มีนาถูกไหม เราเอาเช็คแลกกันเพื่อความสบาย เหมือนไม่ไว้ใจพี่ปู ก็เลยมาให้เราเซ็นสัญญา ที่เขาไปออกรายการ

ด้าน ทนายกิ่ง อธิบายเพิ่มเติมว่า คือในลักษณะที่พี่ปูมีธุรกิจขายกระเป๋ากับเพื่อน ที่บอกว่าเป็นธุรกิจฮิต คือจริงๆมีในแง่ของคนรู้จักว่ามีการทำธุรกิจขายกระเป๋า ซึ่งบางทีกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้เงินทุน ก็จะมาในแง่ของการหยิบยื่นขอยืมเงิน เพื่อที่จะไปซื้อ แล้วเอาไปขาย แล้วเอามาแบ่งกำไรให้พี่ปู ประมาณนี้ คือเขาทำกันมาอยู่แล้ว แต่เข้าใจว่าฝั่งคุณลูกหมี ก็ไม่อยากจะคุยตรงฝั่งโน้น ก็เอาเงินลูกหมีไปก็ได้ เหมือนจะได้กำไรจากตรงนี้บ้าง แต่เขาไม่ได้สนใจว่าพี่ปูจะเอาไปทำกับร้านกระเป๋า เขาแค่สนใจดอกเบี้ยที่จะได้รับในแต่ละยอดที่โอน

ตกลงเป็นการลงทุนหรือกู้ยืม?

ทนายกิ่ง : เขาคงคิดว่าเป็นการกู้ยืมเงิน เขาไม่ได้สนใจว่าเอาเงินไปทำอะไร สมมติว่าพี่ปูบอกว่าจะเอาเงินไปทำตรงนี้ แล้วจะแบ่งกำไรให้นะ 1,000 อย่างที่เขาเสนอ แต่เราให้เขาจริงๆ 1,000 - 2,000 แต่การที่ให้เขาเรื่อยๆ แต่เขาไม่ได้คิดเรื่องของสุจริตที่รับเงินฟรี แต่เขาไม่เข้าใจดอกเบี้ย โอนมาก็เก็บ ค่าสุจริตจริงคุณต้องเอาไปทบต้น ไม่ใช่ว่ารับมา 600,000 ก็ยังคงค้างต้นอยู่ 2,000,000 แบบนี้ไม่ได้

เป็นดอกเบี้ยแต่ไม่ใช่กำไร?

ทนายกิ่ง : คือพี่ปูเขาทำกับเพื่อน ก็แล้วแต่กำไร แต่ลูกหมีเขามองว่าเป็นดอกเบี้ยทั้งก้อน บางยอดเข้าใจว่าปูเอาไปให้เพื่อน แล้วเพื่อนก็เอาไปจ่ายดอกเบี้ย คือคนพวกนี้ไม่ได้มีหลักประกัน เขาเลยยอมจ่ายเงินก้อน ยอมจ่ายดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง แล้วคนที่ให้กู้ก็รู้อยู่แล้ว ว่าเอาไปให้คนที่ไม่มีหลักประกัน ก็เลยอยากจะเรียกดอกเบี้ยสูงๆ มันก็เลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลยเถิด คือมองว่าพี่ปูเป็นลูกหนี้เลยก็ได้ ตามที่เขาฟ้อง ยอดทั้งหมดยังไงก็ต้องรับผิดชอบ เพราะว่าเราเป็นคนจัดการ รับโอนเงินจากเขา

เขาบอกว่าเสนอเองไม่ได้เรียกร้อง?

ทนายกิ่ง : ในแชทมีหลักฐาน วันนี้ขอ +1,000 นะคะ จะคืนกี่โมง ตอนที่โอนมาบวกเพิ่มอีก 10,000 ใช่ไหม มันมีรายละเอียดตรงนี้ อย่างที่อาจารย์ประมาณอธิบาย เช่นยอด 1,000,000 แต่คุณโอน 850,000 นี่คือคุณเรียกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณหักดอกไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันมีข้อมูลทุกอย่างชัดเจน

เอาเงินไปทำอะไร?

ปู มัณฑนา : เขาไม่สนใจค่ะ เพราะเขาบอกว่าคุยกับพี่ปูคนเดียว เขาปล่อยดอกกับพี่ปูคนเดียว เราเคยบอกเขาว่าให้ไปคุยกับเพื่อนโดยตรง มีธุรกิจกระเป๋านาฬิกาเสื้อผ้า ซื้อมาขายไป แล้วก็มีเรื่องรับจำนำรถ

เพื่อนว่ายังไงบ้าง?

ปู มัณฑนา : เพื่อนก็ไม่ว่าอะไร แต่เอาข้อมูลหลักฐานทุกอย่างให้อาจารย์หมดแล้ว แต่ลูกหมีเขาไม่สนใจ เรื่องระหว่างกู้ยืมเขาไม่สนใจว่าจะไปทำธุรกิจอะไรแต่หลักฐานข้อมูลทั้งกระเป๋านาฬิกาและเรื่องรถที่ทำธุรกิจกับเพื่อนแต่ได้ส่งให้ทนายเรียบร้อยแล้ว ก็คือกู้ยืมค่ะ

มีกำหนดระยะเวลาไหมว่าจะคืนเมื่อไหร่?

ปู มัณฑนา : มีค่ะ แต่ยังไม่ได้เข้าไปคุย

ถ้าขอคืนในวันนี้?

ปู มัณฑนา : มีพร้อมค่ะ มีพร้อมที่จะคืน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำกับปู กับลูกปู กับครอบครัวปู อันนี้เรายังไม่ได้คุยกันค่ะ แต่เรื่องเงินยอดหนี้ที่ค้างยังไงต้องใช้อยู่แล้ว ไม่เคยพูดกับสื่อใดๆ ไม่เคยบอกเขาว่าจะไม่ใช้ เขาส่งตัวแทน สส.ท่านหนึ่งมาคุยกับปู ในเรื่องของหนี้ที่เหลือ เขาบอกว่ายอดหนี้เหลือ 2,000,000 แล้วในระหว่างช่วงเดือนเมษา ปูโดนโกงที่ดินร้อยล้านพอดี ก็เลยบอกว่าเหลือที่ดิน 4โฉนด ก็จะทำขายฝาก เพื่อเอาเงินไปคืนเขา แต่ สส.ท่านนี้บอกว่า คุยกับลูกหมีแล้ว ถ้าทำขายฝากไม่ได้ ก็ให้เอาโฉนดมาคัฟเวอร์ยอด 2,000,000 ขายฝากเป็นชื่อลูกหมี พอพี่ปูมีเงินก็เอาไปไถโฉนดคืน ก็นัดกันว่าจะเอาไปคืนวันที่ 14 เดือนที่แล้ว แต่ 13 เดือนที่แล้วเขาไปแถลงข่าว

จะคืนทั้งก้อนหรือว่าแบ่งจ่าย?

ปู มัณฑนา : ทั้งก้อน ตอนนั้นเราไม่ได้ห่างหาย เขาบอกว่าติดต่อไม่ได้ ไม่มีค่ะ มีแชทไลน์ทุกอย่าง ติดต่อเขาได้หมด ทั้งติดต่อเขา และผ่านทางร้อยเวร คือเขาไปพูดกับกับพรรคการเมืองหลายพรรคมาก ทั้งพรรคของสามี และพรรคอื่นๆ บอกว่าเมียหาญส์เซ็นเช็คเด้ง 2 ล้าน จนเจ้านายเขาโทรมา จนคนในพรรคการเมืองเอาไปนินทา 

แล้วเช็คเด้งจริงไหม?

ปู มัณฑนา : เรื่องเช็คเราคุยกันตั้งแต่ต้นว่าลูกหมีขอพี่ปูบอกว่าขอเป็นเช็คค้ำประกันเพื่อความสบายใจนะ ถึงเราจะรู้จักกันแต่ขอเป็นเช็คเพื่อความสบายใจ เรา ให้เขา เราเขียนตามทุกอย่าง ทั้งที่เซ็นกระดาษเปล่า เราจริงใจกับเขา ช่วยเหลือเขา หาเงินให้เขาภายในระยะเวลาแค่ 4 เดือน ให้เขา 600,000 แต่เขามาทำกับครอบครัวเรา 2 เดือนเข้าโรงพยาบาล 5 ครั้ง น้ำหนักลด 6 โล ต้องทานยา พบจิตแพทย์

ฝากถึงลูกหมี?

ปู มัณฑนา : สิ่งที่ทำกับพี่ปู ครอบครัวพี่ปู จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เวรกรรมมีจริง

 

\'ปู มัณฑนา\' งัดหลักฐานสู้กลับปมหนี้ 2 ล้าน - \'ลูกหมี\' เผยไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ

 

ลูกหมี เผยไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ แม้ยอมลดเหลือ 1.4 ล้าน

กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปู และลูกหมี ได้มีการเจรจาแล้วเสร็จ และออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวพร้อมกับทนายของตน โดย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายของลูกหมี ให้สัมภาษณ์ว่า จากการเจรจาหนี้ เขาอยากจะขอลดหนี้เหลือ 1.4 ล้านบาท ซึ่งเราก็รับเงื่อนไข โดยให้จ่ายทีเดียว ซึ่งเขาระบุว่า มีเงินจ่าย แต่ยังไม่สะดวกจ่าย เพราะเขามีความประสงค์จะดำเนินคดีกับลูกหมี เนื่องจากมีการหมิ่นประมาทออกทีวี จึงให้เขาดำเนินคดีไปและไปสู้กันในศาล

'ดังนั้น เรื่องวันนี้ยังไม่จบ แต่อาจจะมีการนัดเจาจรไกล่เกลี่ยใหม่ ส่วนไหนที่เราทำผิด เราก็ยอมรับผิด แต่ส่วนที่คุณทำผิด เป็นหนี้แล้วยังไม่ชำระ ต้องมีหน้าที่ต้องชำระ ว่ากันไปคนละคดี' ทนายเดชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าเป็นข้ออ้างที่จะไม่จ่ายหรือไม่? ทนายเดชา กล่าวว่า มองได้ 2 อย่าง ตนมองว่าเป็นคนละประเด็น คนละการกระทำ ซึ่งตนอยากให้แยกกัน ระหว่างเป็นหนี้ และการหมิ่นประมาท ส่วนคดีพลิกหรือไม่ ไม่ใช่คดีพลิกอะไร และระหว่างที่เจรจา ลูกหมีก็ขอโทษเขา อะไรที่ไม่เหมาะสมก็ขอโทษ แต่เขายังโกรธอยู่

ด้าน ลูกหมี กล่าวว่า วันนี้เป็นการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ไม่สำเร็จ ส่วนสถานการณ์ตึงเครียดหรือไม่ ไม่มีความตึงเครียด เป็นเรื่องเดิมๆ ทั้งนี้ต้องเริ่มเจรจาใหม่ คุยใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะนัดอีกทีในอีก 2 สัปดาห์ ส่วนที่เขาจะฟ้องมาก็พร้อมสู้ ตนไม่กังวลใจอะไร

'ส่วนตัวหวังว่าจะได้เงินกลับมา ทั้งนี้การเจรจารอบใหม่ต้องเริ่มต้นใหม่ที่จำนวนเงิน 2 ล้าน ดังนั้นครั้งหน้าจะไม่ใช่ 1.4 ล้านบาทแล้ว ส่วนที่เจรจาก็ได้พูดคุยกับพี่ปู ปรับความเข้าใจกัน ซึ่งพี่เขาก็พูดเหตุผลมา ตนก็รับฟัง การเจรจาวันนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ผิดหวัง'