เปิดลิสต์ ‘10 เพลงสากล’ ดีที่สุดแห่งยุค 90 โดย Forbes

เปิดลิสต์ ‘10 เพลงสากล’ ดีที่สุดแห่งยุค 90 โดย Forbes

ความโดดเด่นของ “ยุค 90” นั้นไม่ได้มีแค่แฟชั่น แต่ยังเป็นยุคที่บุกเบิกแนวเพลงและศิลปินหน้าใหม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์เป็นจำนวนมาก ทางนิตยสาร Forbes จึงทำการจัดอันดับ เพลงจากยุค 90 ที่ดีที่สุด และแน่นอนว่าหลายเพลงฮิตในตอนนั้นก็ยังคงได้รับความนิยมจนถึงตอนนี้

KEY

POINTS

 

  • ยุค 90 ถือเป็นยุคบุกเบิกของแนวเพลงและศิลปินหน้าใหม่มากมาย ทั้งแนวเพลงแปลกใหม่ ท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงเนื้อเพลงที่เข้าถึงง่าย
  • นิตยสาร Forbes จัดอันดับเพลงสากลจากยุค 90 ที่ดีที่สุด โดยอันดับ 1 เป็นของ “I Will Always Love You” โดย Whitney Houston ที่ปล่อยออกมาในปี 1992
  • แนวเพลงที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น แบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักคือ ฮิปฮอป ร็อก และอิเล็กทรอนิกส์ป๊อป ก่อนจะแตกแขนงออกไปอีกเรื่อยๆ

 

ในช่วงปี 1990-1999 หรือที่หลายคนเรียกกันว่ายุค 90 ถือเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงและความโดดเด่นในเรื่องต่างๆ มากที่สุดยุคหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของ “แฟชั่น” ที่สาวๆ สมัยนั้นมักจะสวมเสื้อสายเดี่ยว กางเกงเอวต่ำ และรองเท้าส้นตึก ด้านแฟชั่นฝั่งผู้ชายเองก็ไม่น้อยหน้ากับเสื้อยืดตัวหลวมหลากหลายลวดลายและรองเท้าผ้าใบหลากสี

แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อแฟชั่นและวัฒนธรรมของวัยรุ่นยุคนั้นก็คือ “เพลง” เพราะเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเพลงกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคสมัยใหม่ มีศิลปินและแนวเพลงใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ซึ่งหลายคนก็ยกให้ยุค 90 เป็นยุครุ่งเรืองของวงการดนตรีเลยทีเดียว โดยเพลงส่วนมากที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น ได้แก่

  • ฮิปฮอป ที่มีจังหวะและดนตรีสนุกสนาน บอกเล่าเรื่องราวสังคมของคนผิวสีในยุคสมัยนั้น
  • ร็อก ที่เริ่มมีความดุดันและเนื้อหาที่หนักหน่วงขึ้นกว่าในยุคแรก และแตกแขนงมาเป็น แนวกรันจ์ ฮาร์ดร็อก และเมทัล
  • อิเล็กทรอนิกส์ป๊อป และ แดนซ์ป๊อป ในช่วงนั้นเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเทคนิคพิเศษ เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมดนตรีทำให้ค่ายเพลงและศิลปินให้ความสนใจสร้างผลงานที่ต่างไปจากเดิม โดยเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการเป็นอย่างมากก็คือ เพลง “Vogue” ของ Madonna ที่ตัวเธอก็ยังคงสร้างผลงานมาอย่างต่อเนื่องและได้รับฉายาว่าเป็น “ราชินีวงการเพลงป๊อป” และเพลง “Baby One More Time” ของเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อป “Britney Spears” โดยทั้งสองเพลงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและกลายเป็นต้นแบบของศิลปินรุ่นหลังมากมาย

ล่าสุดนิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับ เพลงสากลที่ดีที่สุดจากยุค 90 ทั้งหมด 50 เพลง โดยมีเพลงจากศิลปินชื่อดังหลากหลายแนวเพลงติดอันดับมาในครั้งนี้ และบางคนก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงมาจนถึงปัจจุบัน

ครั้งนี้กรุงเทพธุรกิจจะพาไปดูกันว่าจากทั้งหมด 50 อันดับ เพลงไหนจากศิลปินคนใด จะได้อยู่ 10 อันดับแรกในฐานะ “เพลงสากลที่ดีที่สุดแห่งยุค 90”

อันดับที่ 10 เพลง “Doo Wop (That Thing)” โดย Lauryn Hill (1998)

แม้จะถูกเปรียบเทียบกับเพลงแนวโซลยอดฮิตหลายเพลงในยุคนั้น แต่เพลง “Doo Wop (That Thing)” ก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร ซึ่งเพลงดังกล่าวอยู่ในอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกและชุดเดียวของเธออย่าง The Miseducation of Lauryn Hill ซึ่งได้รับรางวัลอัลบั้มแห่งปีจากเวทีแกรมมี และยังคงถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และที่สำคัญอัลบั้มนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดตลอดกาลโดยแอปเปิลมิวสิกอีกด้วย แซงหน้าอัลบั้มของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็กสัน ในอันดับสองไปได้

อันดับที่ 9 เพลง “Ironic” โดย Alanis Morissette (1995)

หากพูดถึงเพลงที่เป็นสัญลักษณ์ของยุค 90 “Ironic” ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น โดยนักร้องสาวเองก็เคยกล่าวว่าเนื้อหาในเพลงที่เธอร้องไม่ใช่เรื่องน่าขันจริงๆ เหมือนกับชื่อเพลงหรอก ซึ่งเพลงนี้ถือเป็นหนึ่งในเพลงฮิตจากอัลบั้ม Jagged Little Pill ของเธอ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัลบั้มเพลงร็อกที่ดีที่สุดตลอดกาลอัลบั้มหนึ่งในประวัติศาสตร์

อันดับที่ 8 เพลง “Smells Like Teen Spirit” โดย Nirvana (1991)

เรียกได้ว่าเป็นเพลงฮิตจากยุค 90 ที่ยังครองใจใครหลายคนมาจนถึงปัจจุบัน และหลายคนก็ยกย่องว่าเพลงเป็นชาติของยุค 90 เลยทีเดียว เนื่องจาก Smells Like Teen Spirit ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการปลุกกระแสเพลงแนว “กรันจ์” ที่มีกลิ่นอายของความขบถ และมีการนำเสนอความเป็นวัยรุ่นผ่านมิวสิกวิดีโอได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ Nirvana กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของวงการอย่างรวดเร็ว โดย Forbes ก็ได้อธิบายไว้ว่านี่เป็นตัวอย่างเพลงกรันจ์สุดคลาสสิกที่ดีที่สุด

อันดับที่ 7 เพลง “Waterfalls” โดย TLC (1995)

เมื่อเพลง Waterfalls ปล่อยออกมาก็ถือว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญสำหรับวงการเพลง เพราะนอกจากจะได้รับความนิยมในวงกว้างอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อเพลงที่จริงใจและท่วงทำนองที่ไพเราะ ทำให้เข้าถึงกลุ่มแฟนคลับได้ง่าย และกลายเป็นจุดเด่นของเพลงในยุคนั้นที่ยังคงได้รับการพูดถึงมาจนถึงปัจจุบัน

อันดับที่ 6 เพลง “Smooth (Feat. Rob Thomas)” โดย Santana (1999)

เป็นการร่วมงานกันของศิลปินรุ่นเก๋าเจ้าของการเล่นกีต้าสุดเทพที่เริ่มโด่งดังมาตั้งแต่ยุค 60 อย่าง “Santana” กับศิลปินดาวรุ่งในขณะนั้น Rob Thomas จากวง Matchbox 20 และสามารถคว้ารางวัลแกรมมีมาได้ ซึ่งเพลงนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน ยังคงเปิดอยู่ตามสถานีวิทยุต่างๆ และที่สำคัญแม้ซานตานาจะมีอายุ 77 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำงานเพลงอยู่และเป็นแขกรับเชิญในการขึ้นเวทีคอนเสิร์ตของศิลปินยุคหลัง

อันดับที่ 5 เพลง “Iris” โดย Goo Goo Dolls (1998)

ถือว่าเป็นเพลงที่โด่งดังสุดๆ เพลงหนึ่งของวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกอย่าง Goo Goo Dolls เพราะนอกจาก “Iris” จะทำให้ผู้ฟังหลายคนประทับใจในอารมณ์ดิบเถื่อนที่ไม่ทิ้งความสนุกสนานแล้ว ยังเป็นเพลงที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง City of Angels อีกด้วย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุค 90

อันดับที่ 4 เพลง “My Heart Will Go On” โดย Celine Dion (1997)

เรียกได้ว่าแฟนคลับเพลงสากลและแฟนคลับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง “Titanic” ย่อมรู้จักเพลง My Heart Will Go On เป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่รู้หรือไม่ว่าในตอนแรกศิลปินตัวแม่ Celine Dion ไม่อยากจะบันทึกเพลงนี้ด้วยซ้ำ และผู้กำกับภาพยนตร์ James Cameron ก็ไม่ได้ชื่นชอบเพลงนี้เท่าไรนัก แต่สามีและผู้จัดการของเธอบอกให้เธอลองทำดู

และในที่สุดเมื่อภาพยนตร์ออกฉายและทุกคนได้ฟังเพลงนี้ ก็ทำให้กลายเป็นเพลงฮิตอันดับหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทศวรรษ และยังได้รับรางวัลเพลงต้นฉบับยอดเยี่ยมจาก Academy Awards (ออสการ์)

อันดับที่ 3 เพลง “Don’t Speak” โดย No Doubt (1996)

เพลงบัลลาดสุดสะเทือนใจที่พูดถึงความเจ็บปวดของความสัมพันธ์ที่แตกสลายไม่มีชิ้นดี นอกจากความสะเทือนอารมณ์ของเนื้อเพลงแล้ว เสียงร้องของ Gwen Stefani ก็มีพลังเป็นอย่างมากเช่นกัน แต่ก็มีบางความเห็นมองว่าเพลงนี้อาจสื่อถึงการที่สมาชิกต่างแยกวงและเดินไปในเส้นทางของตัวเอง จึงทำให้เพลงนี้ดูมีความหมายมากขึ้นไปอีก

อันดับที่ 2 เพลง “Vogue” โดย Madonna (1990)

Forbes ได้กล่าวถึงเพลง Vogue เอาไว้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการเพลงแดนซ์เลยทีเดียว เพราะมีการนำเสนอด้วยจังหวะที่น่าดึงดูดและท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ มิวสิกวิดีโอที่มีสไตล์นำเสนอภาพของแฟชั่นอันหรูหรา ทำให้เพลงนี้ติดชาร์ตเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ และเป็นต้นแบบการทำเพลงและการออกแบบท่าเต้นที่เหล่าศิลปินในปัจจุบันหลายคนยังคงใช้อยู่

อันดับ 1 “I Will Always Love You” โดย Whitney Houston (1992)

สำหรับเพลงที่ได้รับการจัดอันดับว่าดีที่สุดแห่งยุคก็คือ I Will Always Love You ของศิลปินหญิงน้ำเสียงทรงพลังผู้ล่วงลับ Whitney Houston แม้ว่าเพลงนี้เป็นเวอร์ชันคัฟเวอร์ที่มาจาก Dolly Parton แต่ก็ถือว่าเป็นเพลงคัฟเวอร์ที่กลายเป็นระดับตำนาน

ส่วนหนึ่งเพราะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ “The Bodyguard” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังเสียงและเทคนิคการร้องอันน่าทึ่งทำให้เพลงนี้สามารถสร้างสถิติติดชาร์ตบิลบอร์ด 100 ได้นานถึง 14 สัปดาห์ แม้ว่าวิทนีย์จะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ผลงานของเธอยังคงตราตรึงมาจนถึงปัจจุบัน และกลายเป็นเพลงที่ผู้คนที่มีความฝันในการเป็นนักร้องเลือกหยิบมาใช้เป็นเพลงบนเวทีประกวดอยู่บ่อยครั้ง

อ้างอิงข้อมูล : Forbes