Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก”

Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก”

เบื้องหลังหนัง Fly Me To The Moon ทำไม ‘องค์การนาซา’ ไฟเขียวให้ถ่ายทอดภารกิจเหยียบดวงจันทร์ของยานอะพอลโล 11 ที่มาพร้อมกับทฤษฎีว่า “มนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์” จริงหรือมั่วนิ่ม รับชมพร้อมกัน 8 ส.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์

เหตุการณ์สำคัญหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติอย่าง “ยานอะพอลโล 11 ของสหรัฐ ลงจอดบนดวงจันทร์” เวียนมาบรรจบครบรอบ 55 ปี ไปเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนทฤษฎีที่ว่า “มนุษย์ได้ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์จริงหรือไม่” ก็ยังไม่เคยจางหายไป

ล่าสุดฮอลลีวู้ดได้หยิบยกเอาทฤษฎีดังกล่าวมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ‘Fly Me To The Moon ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์’ ที่นำแสดงโดย สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน, แชนนิง เททั่ม, วูดดี ฮาร์เรลสัน กำกับการแสดงโดย เกร็ก เบอร์แลนติ ผู้เคยฝากผลงานอย่าง The Broken Hearts Club, Atlas และ Love, Simon เอาไว้

 

Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก”

ที่สำคัญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับไฟเขียวจากองค์การนาซ่าที่อนุญาตให้ทีมงานไปถ่ายทำ ณ แหลมเคนเนดี้ ในรัฐฟลอริดา สถานที่จริงในการปล่อยยานApollo 11 ขึ้นสู่ดวงจันทร์

 

หรือข่าวลือเรื่อง “จัดฉาก” จะมีมูล

Fly Me to the Moon เป็นหนังคอเมดีดรามาสไตล์เฉียบคมที่มีฉากหลังเป็นภารกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาในการส่งยานอะพอลโล 11 ทะยานขึ้นสู่ดวงจันทร์ ในยุคที่กำลังมีการแข่งขันทางอวกาศอย่างดุเดือดระหว่างประเทศมหาอำนาจ

 

‘โคล เดวิส’ (แชนนิง เททัม) ผู้อำนวยการฝ่ายปล่อยยานอวกาศ ตัวละครที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผู้ที่เคยทำงานในโครงการนาซ่า เป็นนักบินที่เก่งกาจ แต่ด้วยปัญหาทางกายภาพทำให้ขึ้นไปกับยานเองไม่ได้ เขาจีงหันมาช่วยเพื่อนที่เป็นนักบินได้ไปเหยียบดวงจันทร์แทน

 

โคลตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เมื่อนาซ่าต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อให้สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ เขาต้องหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ประดังประเดเข้ามาจนทำให้ได้เจอกับ ‘เคลลี่’ (สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน) เจ้าแม่การตลาดที่เข้ามาปรับปรุงภาพลักษณ์ของนาซ่า และหาเงินสนับสนุนโครงการอะพอลโล 11 ด้วยวิธีการแหวกแนวที่โคลไม่เห็นด้วย

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อทำเนียบขาวมองว่าภารกิจนี้สำคัญเกินกว่าจะล้มเหลว โจนส์ก็ถูกสั่งให้จัดฉากการลงสู่ดวงจันทร์ของยานอะพอลโล 11 แบบปลอม ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแผนสำรอง ในขณะที่การนับถอยหลังเพื่อปล่อยยานจริงได้เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน

 

 

ผู้กำกับเบอร์แลนติกล่าวถึงภาพยนตร์ Fly Me To The Moon เอาไว้ว่า

“ตอนเป็นเด็กผมคลั่งเรื่องอวกาศมาก ตอนที่เรามีลูกชายเมื่อแปดปีที่แล้ว สิ่งแรกที่เราซื้อมาแต่งห้องเขาคือภาพชุดนักบินอวกาศของนีล อาร์มสตรองขนาดเท่าของจริงครับ ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนาซ่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวการแข่งขันทางอวกาศที่ถูกสมมติขึ้นมา ผมและทีมผู้สร้างต้องการให้ฉากมีความสมจริงมากที่สุด การแต่งกายนักแสดงที่เหมาะสมกับยุคนั้น การสวมใส่เสื้อผ้า อุปกรณ์ สถานที่ต่าง ๆ สร้างอย่างพิถีพิถัน เช่น ห้องควบคุมการปล่อยจรวด บรรยากาศ สภาพแวดล้อม”

 

ได้รับการสนับสนุนจาก “นาซา”

Fly Me to the Moon ผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจากค่าย โซนี่ พิคเจอร์ส ได้รับความเห็นชอบจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐ (นาซา) ตลอดจนได้ร่วมงานกับที่ปรึกษาด้านเทคนิคหลายคน ผู้มีบทบาทสำคัญในหน่วยงานด้านอวกาศในช่วงโครงการอะพอลโล

“ตอนแรกเลยเราไม่แน่ใจว่านาซ่าจะยินดีสนับสนุนหรือไม่ แต่ความรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งก็เกิดขึ้นเมื่อนาซ่าต้อนรับการถ่ายทำของพวกเรา โดยอนุญาตให้ทีมงานถ่ายทำในสถานที่จริงที่ Cape Kennedy ในรัฐฟลอริดา ทุกอย่างทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตั้งแต่ชุดหูฟังไปจนถึงปุ่มและหน้าปัดบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ช่วงที่ถ่ายทำเราได้เชิญผู้ที่เคยเข้าร่วมการปล่อยจรวดมาด้วย ซึ่งพวกเขาถึงกับร้องไห้เมื่อเดินเข้าไปในห้องควบคุมการปล่อยจรวด เพราะรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง

มันคืองานที่ท้าทายที่สุด เพราะฉากนี้ต้องใช้พื้นที่ถ่ายทำที่มีขนาดเท่ากับสนามเบสบอล เรามีการทดสอบตัวอย่างจรวดไปถึง 30 ชนิด เพราะเราต้องคิดถึงว่า ดวงจันทร์มีลักษณะอย่างไรในภาพยนตร์ เราตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก สวมหน้ากากกรองฝุ่นเพราะมีฝุ่นละเอียดมากมาย สวมรองเท้าแปลก ๆ เพื่อไม่ให้ทำลายฉากดวงจันทร์ ทีมของพวกเราใช้เวลาหลายเดือนในการก่อสร้างและออกแบบ การใช้สลิง นักแสดงสตั๊นท์ การจัดแสงด้วยไฟจากยุคนั้น และครูฝึกการเคลื่อนไหวที่ทำงานร่วมกับ ‘นักบินอวกาศ’ ของเรา เพื่อตามรอยของ บัซ (อัลดริน) และนีล (อาร์มสตรอง) การก้าวเดินบนดวงจันทร์ครั้งแรกซึ่งมีภาพอันโด่งดังที่ถูกถ่ายเอาไว้ เราจำเป็นต้องสร้างมันออกมาให้เหมือนที่สุด”

 

ผู้กำกับ เบอร์แลนติ กล่าว

ขณะที่ผู้อำนวยการสร้าง โจนาธาน เลีย เสริมว่า

“หลายคนบอกเราว่าเสียเวลาเปล่าไปกับการขออนุญาตถ่ายทำที่เคนเนดี้ สเปซ เซ็นเตอร์ กับหนังที่มีการปลอมฉากลงสู่พื้นดวงจันทร์ แต่นาซาดูบทและเรื่องราวของเราอย่างเป็นกลาง และพวกเขาก็เห็นในสิ่งที่เราเห็นในบทหนังเรื่องนี้ นั่นคือโอกาสในการเฉลิมฉลองความสำเร็จยิ่งใหญ่ในสเกลที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือคนจำนวน 400,000 คนที่ทำงานในโครงการนี้”

 

“ของแท้ หรือแค่ ลวงโลก” ไปพิสูจน์กันในภาพยนตร์ ‘Fly Me to The Moon ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์’ 8 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก” Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก” Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก” Fly Me To The Moon หนังตีแผ่ภารกิจมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ “ของแท้หรือลวงโลก”