‘JUNNY’ จัดเต็มความสนุก-โชว์พิเศษ ใน ‘2024 JUNNY TOUR : Dopamine in BANGKOK’
“จุนนี่” (JUNNY) ศิลปินมากความสามารถจากเกาหลีใต้ บินลัดฟ้ากลับมาจัดคอนเสิร์ตอีกครั้งในชื่อ “2024 JUNNY TOUR : Dopamine in BANGKOK” จัดเต็มทุกโชว์ ส่งทุกอารมณ์ ส่งความสุขให้ Junniverse
“จุนนี่” (JUNNY) ศิลปินมากความสามารถจากเกาหลีใต้ บินลัดฟ้ากลับมาจัดคอนเสิร์ตอีกครั้งในชื่อ “2024 JUNNY TOUR : Dopamine in BANGKOK” ณ Centerpoint Studio เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ซึ่งครั้งนี้ได้พาวงดนตรีมาร่วมทำการแสดงให้แฟนเพลงได้ฟังกันสด ๆ อีกด้วย จัดเต็มทุกการแสดง โชว์ความสามารถและเสียงนุ่มละมุนมัดใจผู้ชมอยู่หมัด โดยคอนเสิร์ตในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 พาร์ทตามชื่อคอนเสิร์ต คือ “โด” (do) “พา” (pa) “มีน” (mine)
เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วย “Rush” ซิงเกิลหลักจากอัลบั้มล่าสุดของจุนนี่ ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่า “Junniverse” (จุนนิเวิร์ส) แฟนคลับได้ตั้งแต่ท่อนแรกของเพลง ตามมาด้วย “Aura” และ “Taste” ก่อนที่จุนนี่ก็ได้กล่าวทักทายแฟน ๆ ชาวไทย ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาได้มาแสดงที่ประเทศไทย แต่เป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับแบนด์เต็มวง สร้างความแปลกใหม่ เพิ่มความมัน เต็มอารมณ์กว่าเดิม
ตามมาด้วยเพลง “Here We Go Again” และ “Get Ya” ก่อนที่จะถึงเพลงที่จุนนี่ได้ไปร้องร่วมกับเจย์บี สมาชิกวง “GOT7” อย่าง “Nostalgia” และ “Fame” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟนคลับชาวไทยได้รู้จักกับจุนนี่ และกลายเป็นประเทศที่มีฟังเพลงของเขามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก บน Spotify
เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของโชว์ คราวนี้จุนนี่มาพร้อมกับเพลงช้าซึ้งกินใจ โดยเริ่มจาก “By My Side” ซึ่งเหล่า Junniverse สามารถร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ ตามมมาด้วย “Solo” และ “Not About You” ซิงเกิลหลักจากอัลบั้มเดบิวต์ของเขา โดยเพลงนี้ได้ปล่อยเวอร์ชันภาษาอังกฤษมาให้ฟังด้วยเช่นกัน
จุนนี่ยังคงปล่อยคอมโบเพลงช้าอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น “Movie”, “New Girl”, “ Inside” และ “Sober” ทำเอาเหล่าแฟนคลับเคลิ้มไปกับเสียงอันทรงเสน่ห์ของเขา ก่อนที่ “ขนมจีน - ญาทิชาพัฒน์ หาญเบญจพงศ์” สมาชิกวง “MXFRUIT” จะมาเป็นแขกรับเชิญร่วมร้องเพลง “Complications” ซึ่งพลังเสียงของทั้งสองคนเข้าดีกันได้อย่างดี ทำคนฟังหูเคลือบทองไปตาม ๆ กัน ก่อนที่จุนนี่จะฝากเวทีไว้ให้ขนมจีนโชว์เพลงใหม่ล่าสุดของวงกับเพลง “ต้านไม่ไหว (Magnetize)”
สำหรับพาร์ท “มีน” (mine) เริ่มต้นด้วยเพลง “Invitation” และ “Optimist” ที่สนุกสุดเหวี่ยงกันทั้งศิลปินและผู้ชม จากนั้นจุนนี่ขอคัฟเวอร์เพลง As It Was ของ “แฮร์รี สไตล์ส” ยิ่งทำให้บรรยากาศสนุกขึ้นไปอีก
จากนั้นพักเบรกความมันด้วยเพลง “Figure8” เพลงช้าจากอัลบั้มล่าสุดที่จุนนี่ขอให้แฟน ๆ ช่วยกันเปิดแฟลช จนกลายเป็นทะเลดาวส่องแสงไปทั่วฮอลล์ เป็นภาพที่สวยงาม โดยจุนนี่ได้เล่าถึงที่มาของชื่อเพลงนี้ว่าเลข 8 นี้เมื่อนำมาตะแคงก็จะกลายเป็นเครื่องหมายอินฟินีตี้ เปรียบได้ว่าเขาจะทำงานเพลงให้ทุกคนฟังแบบนี้ตลอดไป
ก่อนที่ปิดท้ายโชว์ด้วยเพลง “Color Me” และ “Daylight” ที่จุนนี่โชว์สเต็ปแดนซ์สุดมัน ถึงจะบอกว่าเป็นเพลงสุดท้าย แต่คนดูยังคงรอการแสดงอังกอร์อย่างใจจดจ่อ พร้อมทั้งตะโกนเรียกจุนนี่อย่างสุดพลัง
เมื่อคนรอไม่รอ คนร้องก็ไม่ถอย จุนนี่กลับมาอีกครั้งด้วยเพลง “For the Weekend” ซึ่งกลับมาคราวนี้จุนนี่ได้ลงไปทักทายแฟนคลับอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ซ้ายไปขวา ทำเอาแฟนคลับส่งเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ จนจุนนี่กล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งคืนที่ดีที่สุดในชีวิต และจะไม่ลืมเลย พร้อมสัญญาว่าจะกลับมาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้งอย่างแน่นอน
ก่อนที่จะถ่ายภาพรวมระหว่างจุนนี่และแฟนคลับ ได้มีโปรเจคพิเศษสุดเซอร์ไพรส์ ที่แสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันของ Junniverse ชาวไทย ที่มีต่อจุนนี่ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ทำเอาทั้งผู้ชมและจุนนี่ถึงกับน้ำตาซึม นับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สุดประจับใจในคอนเสิร์ตครั้งนี้
คอนเสิร์ตเดินทางมาจนถึงช่วงสุดท้าย จุนนี่โชว์ 2 เพลงที่ตั้งใจมอบให้แก่แฟนคลับ คือ “Promise” และ “Thank You” นับเป็นการปิดคอนเสิร์ตได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงของคอนเสิร์ต จุนนี่ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชม จากความสามารถรอบด้าน ทั้งเสียงร้อง ทักษะการเต้น การเอ็นเตอร์เทน และการแสดงที่มีครบทุกรส แสดงให้เห็นความตั้งใจทำโชว์และเลือกเพลงมาเป็นอย่างดี
สำหรับจุนนี่ (JUNNY) หรือ คิมฮยองจุน ศิลปินและโปรดิวเซอร์ชาวเกาหลีใต้ ที่เติบโตในประเทศแคนาดา เริ่มต้นทำเพลงมาตั้งแต่อายุ 14 ปี กระทั่งในปี 2018 มีโปรดิวเซอร์ของลู่หานติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นจุนนี่ก็ตัดสินใจเดินทางมาเกาหลีใต้ และได้ร่วมแต่งเพลงให้กับศิลปินมากมาย เช่น ไอยู, เจย์บี, ไค และ NTC
ขณะเดียวกันเขาก็ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัว โดยปล่อยซิงเกิลและอัลบั้มแบบดิจิทัลหลายชุด จนกระทั่งในปี 2022 ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกในชื่อ “Blanc” และมินิอัลบั้ม “dopamine” ในปีนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีพรสวรรค์และน่าจับตามอง