“ข้าวต้มกุ๊ย” อาหารไทย อร่อย ที่ BANGKOK’78
“ข้าวต้มกุ๊ย” ที่ ห้องอาหาร “Bangkok’78” โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ต้มข้าวได้ถูกใจ กับข้าวถึงรสถึงเครื่อง “ไข่ตุ๋นหม้อไฟ” เนื้อเนียนนุ่มเครื่องแน่นเห็นแล้วว๊าวจนต้องรีบคว้ามือถือมาถ่ายคลิปไฟลุกโชน ยำมะเขือยาวหมูสับไข่ต้ม อร่อย จนต้องขอพบหน้าเชฟ
เดิมคิดว่า “ข้าวต้มกุ๊ย” ต้องร้านข้าวต้มข้างถนนเท่านั้นจึงจะ "อร่อย" ไม่ใช่เสมอไปแล้ว เพราะที่ ห้องอาหาร “Bangkok’78”
โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ทำให้หมูหวานชวนชิม ประทับใจในรสชาติ ข้าวต้ม 1 เซตรับประทานได้ 2 คนเพราะมีข้าวต้ม 2 ที่
เป็นข้าวต้มในดวงใจนุ่มเหนียวหอมกรุ่น ชอบที่เลือกกับข้าวได้ถึง 5 อย่าง แถมยังอร่อยทุกอย่าง
เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ นำเสนอเมนู "กับข้าว" ยอดนิยม อาทิ ไชโป๊วผัดไข่ , หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ,ยำกุนเชียง,มะเขือยาวผัดหมูสับ และ ยำปลาเค็ม
“แรงบันดาลใจในการทำเซตข้าวต้มกุ๊ย ก็คือเราต้องการให้ครอบครัวมานั่งทานข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขสนุกสนาน เช่นสำรับหมุนได้
ข้าวต้มเราใช้ข้าวหอมมะลิผสมกับข้าวเหนียวเขี้ยวงู ต้มกับน้ำใบเตย ตัวข้าวก็จะมีความเหนียวนุ่ม กับข้าวเราก็มีให้เลือก อย่างหมูสับผัดหนำเลี๊ยบ
เราก็จะสับหมูแบบหยาบๆ ผัดกับหนำเลี๊ยบ ใส่กระเทียมพริกไทยให้เกิดความหอมรสชาติเข้มข้น”
เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ Executive Sous Chef โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ อธิบายถึงกับข้าวในสำรับ
“ข้าวต้มกุ๊ย” ห้องอาหาร “Bangkok’78” ต่อไปว่ามีเมนู “มะเขือยาวผัดหมูสับ” ผัดแบบรสมือแม่ โดยใช้หอมแดงไทย โขลกกับกระเทียม
แล้วนำไปผัดให้หอม ใส่มะเขือยาวที่ปอกเปลือกแล้ว ลงไปผัดกับหมูสับ ใส่ใบโหระพาลงไป รสสัมผัสที่ได้นุ่มลิ้นกำลังดี
“ไชโป๊วผัดไข่ เราใช้หัวไชโป๊วจาก 7 เสมียน ราชบุรี เอามาผัดกับตัวกระเทียม หอมแดง ขยี้ให้หอมแล้วใส่ไข่ไก่ลงไป ส่วน ยำปลาเค็ม
เราต้องการให้เป็นแบบ Traditional บ้านๆ เวลาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยมีใครทำแล้ว เพราะทอดปลาเค็ม จะมีกลิ่นแรง แต่เวลาทานกับข้าวต้มแล้วอร่อย
เราก็เลยอยากให้มีอยู่ในเมนูของเราด้วย อย่างยำไข่เค็ม ที่คนอาจจะคิดว่าอาหารโรงแรมคงมีแต่เมนูยากๆ แต่ที่นี่มีเมนูง่ายๆแต่อร่อย”
“ไข่ตุ๋นหม้อไฟ” หรือ “ไข่ตุ๋นทะเลหมูสับหม้อไฟ”
ดอกขจรผัดวุ้นเส้นและแหนม ออนท็อปด้วยแหนมปั้นก้อนทอด
เซต “ข้าวต้มกุ๊ย” ยังมีกับข้าวแบบบ้านๆที่น่าสนใจ เช่น ยำกุนเชียง, นำเกี่ยมฉ่าย,ผัดผักบุ้งหมูกรอบ,ผัดคะน้าปลาเค็ม แม้กระทั่งไข่เจียวยังมีเลยจ้า
ไข่ตุ๋นหม้อไฟ ออนท็อปด้วยหมูสับผัดสามเกลอ กุ้งตัวใหญ่สด ปลาหมึกเนื้อดี
พูดถึงเมนูไข่ “หมูหวานชวนชิม” ประทับใจ “ไข่ตุ๋นหม้อไฟ” หรือมีชื่อเต็มว่า “ไข่ตุ๋นทะเลหมูสับหม้อไฟ” ราคา 490 บาท แอบสอบถาม
เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ ได้ความว่า เธอใช้ไข่ไก่ 10 ฟองเลยทีเดียว
เซตข้าวต้มกุ๊ยแสนอร่อย หมุนสำรับเล่นได้สนุกเพลิดเพลิน
“โรงแรมเรามีกลุ่มครอบครัว เด็กๆ มารับประทานอาหารที่นี่เยอะ ก็เลยครีเอทเมนูนี้ขึ้นมาแล้วเพิ่มรสชาติความเข้มข้น ความอร่อย ด้วยตัวเครื่องด้านหน้า
ไข่ตุ๋นนุ่มกำลังดีไม่เละ เหมือนไข่ตุ๋นที่เราทานตอนเด็กๆ ในไข่ตุ๋นมีหมูสับอยู่แล้ว และเรามาออนท็อปด้วยหมูสับผัดสามเกลออีกที ตามด้วยซีฟู้ด
โรยกระเทียมเจียวที่เราเจียวเองหอมๆ มีต้นหอม คื่นฉ่าย นึกถึงตอนที่เรากินกับครอบครัวตอนเด็ก แม่ทำให้ใส่ถ้วยเล็กๆ แต่อันนี้เรามาเป็น
หม้อไฟเพื่อที่จะทานได้หลายๆคนสมัยนี้คนชอบถ่ายรูป ก็อยากจะให้ดูน่ารัก มีกิมมิก ทานอร่อยและถ่ายรูปสวยด้วย”
ข้าวผัดรถไฟซอสแดง กับไข่ดาวแบบโบราณ กรอบนอกนุ่มใน
“ข้าวผัดรถไฟ” เป็นเมนูที่แม่ของเชฟทำให้รับประทานตอนเด็กเช่นกัน ดั้งเดิมทำได้ 2 แบบก็คือผัดข้าวใส่ซีอิ๊วดำ หรือไม่ก็ผัดข้าวกับซอสแดง
เชฟกอล์ฟ เลือกซอสแดง ที่เป็นประสบการณ์วัยเด็กของเขา เรื่องเล่าของเมนูจานนี้ก็คือ มีของเหลือๆในตู้เสบียงรถไฟ นำมาผัดรวมกับข้าวเป็นเมนูใหม่นั่นเอง
“อยากนำเสนอจานนี้เพราะไม่ค่อยมีใครทำซอสแดง ซึ่งเป็นซอสเย็นตาโฟ ส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นซีอิ๊วดำ ไข่ดาวเราก็อยากให้กรอบนอกนุ่มใน
ทอดในน้ำมันท่วมร้อนๆ ไข่แดงยังเป็นยางมะตูม อีกเมนูอยากให้ลองก็คือ ดอกขจรผัดวุ้นเส้นและแหนม เราจะผัดไฟแรงหอมกลิ่นกระทะ
แกงรัญจวน ฝีมือเชฟกอล์ฟ ไม่เป็นสองรองใคร
แล้วออนท็อปด้วยแหนมทอด รสชาติจะเปรี้ยว เค็ม มีความหอม แกงรัญจวน เบสน้ำซุปเราใช้กะปิจากคลองโคน เอามาห่อใบตองค่อยๆย่าง 2-3 ชั่วโมงกะปิจะสุกและหอม”
“แกงรัญจวน” เมนูโบราณ รสชาติเข้มข้นถูกใจ “หมูหวานชวนชิม” ชอบมากจนอยากสั่งข้าวสวยร้อนๆเพิ่มอีก 1 จาน
ลูกชิ้นกุ้ง กับน้ำจิ้ม 2 แบบ
“ลูกชิ้นกุ้ง” ที่นี่ใหญ่เต็มคำมากๆ มีน้ำจิ้มซอสมันกุ้ง และซอสบ๊วยรสชาติไม่หวานมากที่เชฟทำเอง ต้องบอกว่าลูกชิ้นกุ้ง
ใช้เนื้อกุ้งกุลาดำสด ผสมมันหมู 10 % ถ้าลูกค้าสั่งเชฟจึงทำไม่ได้ทำแช่แข็งไว้ ลูกชิ้นจึงเด้งอร่อยน่าประทำใจ
ข้าวผัดหนำเลี๊ยบ
“ข้าวผัดหนำเลี๊ยบ” ก็อร่อยโดนใจเช่นกัน เชฟจะผัดหนำเลี๊ยบหมูสับกับกระเทียมพริกไทยให้หอมก่อน แล้วใส่ไข่ไก่ 1 ฟอง ใส่ข้าวลงไป
ผัดคลุกให้เข้ากัน เสิร์ฟมากับไข่ต้มยางมะตูม ขอบอกว่าเชฟที่นี่มือหนักมาก
ใส่หนำเลี๊ยบแบบไม่หวงหอมจนกลิ่นเตะจมูกก่อนข้าวจะถึงปาก (ฮา) มีรสเค็มนำ ต้องบีบมะนาวตัดรสเล็กน้อยจึงจะกลมกล่อม
ยำส้มโอกุ้งสด
“ยำส้มโอกุ้งสด” จุดเด่นคือ เน้นความสดชื่นเมื่อแรกสัมผัส มีทั้งหมูสับและกุ้ง หอมแดงเจียว หอมแดงสด เรียกได้ว่ามีทั้งความกรุบกรอบ
และความสดชื่นในจานเดียวกัน ส้มโอพันธุ์ทองดีมีความหวานฉ่ำซ่อนเปรี้ยวลงตัวมากๆ
"ส้มฉุนหิมะ"
ขนมหวาน ที่น่าสนใจก็มี “ส้มฉุนหิมะ” มีเกล็ดน้ำแข็งแบบกรานิต้า มีกลิ่นของส้มซ่า น้ำมะกรูด ให้ความรู้สึกสดชื่น ออนท็อปด้วยผลไม้เช่น
ส้ม ลิ้นจี่ เงาะ ขิงอ่อนซอยเล็กๆ โรยด้วยหอมเจียว “กระท้อนหิมะ” เชฟทำกรานิต้าจากเนื้อกระท้อนปั่น ออนท็อปด้วยเนื้อกระท้อน
มีพริกกะเกลือ โรยด้วยพริกป่นคั่วก่อนเสิร์ฟ รวมรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน มีเสน่ห์เป็นยิ่งนัก นอกจากนั้นยังมี “กล้วยเชื่อมน้ำกะทิ”
ลูกตาลลอยแก้ว, กระท้อนหิมะ และว่านหางจระเข้ในน้ำเชื่อมอัญชันมะนาว
“ลูกตาลลอยแก้ว” และ “ว่านหางจระเข้ในน้ำเชื่อมอัญชันมะนาว”
หมูหวานชวนชิม ขอเชิญชวน มาปลุกความทรงจำเมื่อวันวานของกรุงเทพมหานครช่วงยุค 1970 กันที่ Bangkok’78
กล้วยเชื่อมน้ำกะทิ
ณ ร้านอาหารแห่งใหม่ ที่ โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ตกแต่งในคอนเซ็ปต์เรโทร ร่วมมือกับร้านเจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์
“เสน่ห์จันทน์” รังสรรค์เมนูอาหารไทยแท้ดั้งเดิม หลากรสคุ้นเคย ที่ถูกปากชาวกรุงเทพฯ มาโดยตลอด รวมถึงเครื่องดื่มเย็นชื่นใจดับกระหายจากตัวเลือกชาไทยหลากหลายชนิด
มีพื้นที่ครัวเปิด เชื้อเชิญให้เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของการปรุงอาหารจากความรัก และความทรงจำเมื่อครั้งวันวาน ของ
เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ ซึ่งเชฟได้ค้นพบความชอบ และความหลงใหลในการทำอาหาร ตั้งแต่สมัยเด็ก จากการที่มักจะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัว
เป็นลูกมือในร้านอาหารเล็กๆ ของคุณแม่ นับแต่นั้นมา รสมือจากความทรงจำ ก็ได้ผสานเข้ากับรสชาติ และเทคนิคการปรุงในยุคปัจจุบัน
เกิดเป็นรสชาติเอกลักษณ์เฉพาะตัวเชฟกอล์ฟ ที่ยังคงความดั้งเดิมของเมนูอาหารอันคุ้นเคย อัดแน่นด้วยเครื่องเทศ
และรสชาติที่กลมกล่อม พร้อมส่งกลิ่นหอมคลุ้งกระตุ้นต่อมความหิว
บรรยากาศย้อนยุค ของห้องอาหาร Bangkok’78 โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ รังสรรค์โดย P49 Deesign and Associates
มีแรงบันดาลใจจากถนนหนทาง เส้นขอบฟ้าและตึกระฟ้า ถ่ายทอดออกมาเป็นการตกแต่งภายในที่เน้นโทนสีเข้ม ให้ความหนักแน่น
ตัดอารมณ์ด้วยการใช้ลายเส้นขอบและเท็กซ์เจอร์ที่คมชัด พร้อมด้วยภาพวาดบนผนัง สื่อถึงบรรยากาศของกรุงเทพฯ ในยุค 1970’s
ขณะเดียวกันฉากกั้นผนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหวายถักให้อารมณ์ และความรู้สึกแสนคึกคักของแผงขายอาหารข้างทาง
หนึ่งในเอกลักษณ์คุ้นตาของกรุงเทพฯ ขับกล่อมโดยเพลย์ลิสต์เพลงไทยคลาสสิคจากยุค 1970’s ที่ได้รับการคัดสรรขึ้นมาโดยเฉพาะ
เพื่อให้ทุกความทรงจำของวันวานอันแสนสนุกได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
Bangkok’78 โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ถนนหลังสวน กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เริ่มจาก มื้อกลางวัน เวลา 11:30 – 17:00 น. และ มื้อค่ำ เวลา 17:00 – 22:30 น.
รองรับได้ 150 ที่นั่งมีห้องส่วนตัวขนาด 8, 10, 12 และ 14 ท่าน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ https://www.sindhornmidtown.com/dine/thai-restaurant-bangkok
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-796-8888 หรือ [email protected]
ถ้าเด็กๆยกหูโทรศัพท์จะมีไอศกรีมมาเสิร์ฟ 1 ที่ทันใด
ทางเข้าห้องอาหาร Bangkok'78