‘ศรีย่านทีรูม’ จิบชาแกล้ม ‘ครัวซองต์’ คาวหวานในบ้านโบราณร้อยปี
‘ศรีย่านทีรูม’ ร้านน้ำชาของคุณฟู – ริทซึโอะ ฟูกาซาว่า คนญี่ปุ่นหัวใจไทยที่อยากให้เราได้อร่อยกับ 'ครัวซองต์’ ในรูปแบบคาวและหวาน ท่ามกลางความสวยงามของบ้านเก่าอายุร้อยปี บนถนนนครไชยศรี ละแวก ‘ศรีย่าน’
“สวัสดีครับ ผมชื่อ ริทซึโอะ นามสกุล ฟูกาซาว่า นะครับ แต่ใครๆ เรียกผมว่า คุณฟู ครับ” อดีตประธานกรรมการบริษัทโฆษณาชื่อดังกล่าวทักทายด้วยภาษาไทยอย่างชัดถ้อยชัดคำ เพราะว่าทำงานอยู่เมืองไทยมา 40 ปีแล้ว
'คุณฟู' เล่าให้ฟังว่าชีวิตหลังเกษียณอยากเปิดบริษัทดิจิทัลเอเจนซี่ กับร้านเสื้อผ้าแบรนด์ สัปปายะ (Sappaya) ที่นำผ้าทอจากสกลนคร มาใช้ในการออกแบบตัดเย็บ โดยมองหาสถานที่สำหรับเปิดเป็นออฟฟิศและห้องเสื้อในพื้นที่เดียวกัน
บ้านเดิมของ 'ขุนประกฤติวิจารณ์' ต้นสกุล 'วิโรจนวัธน์' สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อมาได้พบกับบ้านโบราณบนถนนนครไชยศรีที่มีประวัติว่าเป็น บ้านขุนประกฤติวิจารณ์ ต้นสกุล วิโรจนวัธน์ สร้างขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าของปัจจุบันเปิดให้เช่าหลังจากปิดไว้นาน 20 ปี คุณฟูจึงตัดสินใจเช่าแล้วซ่อมแซมตกแต่งตึกสองชั้นสไตล์โคโลเนียลให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“ออฟฟิศอยู่ชั้นบน โชว์รูมเสื้อผ้าและเครื่องประดับอยู่ชั้นล่าง แต่ยังมีห้องเหลืออีกเยอะ ผมเลยนำพื้นที่มาเปิดเป็น ศรีย่านทีรูม ผมเรียกว่าเป็น Collaboration business เพราะว่าศรีย่านทีรูมไปหาลูกค้าไม่ได้ ลูกค้าต้องมาหา ส่วนเสื้อผ้าก็อยากให้ลูกค้ามาลองมาเลือกชม
โชว์รูมของห้องเสื้อ 'สัปปายะ' ภายในศรีย่านทีรูม (ภาพ: Sriyan Tearoom & Sappaya)
คอลเลคชั่นใหม่ของ 'สัปปายะ' นำผ้าฝ้ายจากแม่อาย เชียงใหม่มาใช้ออกแบบตัดเย็บ (ภาพ: Sriyan Tearoom & Sappaya)
คอนเซปต์ของสัปปายะเราทำเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เน้นเรื่องของ Sustainability หรือ ความยั่งยืน ผมทำงานร่วมกับดีไซเนอร์คนไทย ดีไซน์ของเราเป็นแบบเรียบง่าย ใช้งานได้นาน ไม่เบื่อ ช่วยโลกประหยัดพลังงานได้ด้วย ผมอยากทำอย่างนั้น
ห้องจิบชาชั้นล่างของศรีย่านทีรูม
ส่วน ศรีย่านทีรูม ผมวางคอนเซปต์ไว้ 3 ประการ สิ่งแรกคือ บรรยากาศ ผมอยากให้ลูกค้านั่งสบาย มีความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านส่วนตัว ประการที่สอง อาหารและเครื่องดื่มรสชาติต้องอร่อยทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้ากลับมาอีกครั้ง เราจึงพยายามสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ออกมาเพื่อให้ลูกค้าไม่เบื่อ สุดท้ายเป็นเรื่องราคาที่เหมาะสม” คุณฟูอธิบาย
สำหรับเหตุผลที่เลือก ครัวซองต์ มาเป็นเมนูหลักของร้านน้ำชา มีที่มาจากการสังเกตของคุณฟูที่เห็นว่าคนไทยชอบกินครัวซองต์ จึงนำ 'ครัวซองต์' มาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารคาวและหวาน โดยร่วมกันพัฒนากับเชฟเพื่อให้ได้เป็นอาหารจานใหม่ในสไตล์ 'ครัวซองต์ฟิวชั่น'
ครัวซองต์กินกับแซลมอนรมควันและยำส้มโอ เมนูชื่นใจคลายร้อน
ครัวซองต์สี่เหลี่ยมสอดไส้หมูคุโรบุตะราดซอสทงคัตสึกับมัสตาร์ด
ยกตัวอย่างเช่น ส้มตำแซลมอนรมควันครัวซองต์ (290 บาท) ยำผลไม้ศรีย่าน (ส้มโอ 290 บาท) แกงส้มกุ้งครัวซองต์ (290 บาท) เมนูขายดีที่นำพริกแกงส้มมาปรุงรสกับกุ้ง เห็ดแชมปิญอง มอสซาเรลล่าชีส วิปครีมและต้นทานตะวันอ่อนแล้ววางลงบนครัวซองต์ชิ้นโต
ส่วนใครที่ชอบสไตล์ญี่ปุ่นขอแนะนำ ครัวซองต์สี่เหลี่ยมสอดไส้หมูคุโรบุตะราดซอสทงคัตสึกับมัสตาร์ด (290 บาท) รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟมาร้อนๆ กินเพลินเลยทีเดียว
ครัวซองต์ไบท์ คำเล็กๆ หลากรสชาติจัดเสิร์ฟเป็นชุดให้ได้ลิ้มรสชาติที่หลากหลาย
ครัวซองต์สี่เหลี่ยมไส้ยูซุครีมชีส
สำหรับเมนูของหวาน ครัวซองต์สี่เหลี่ยมราดซอสแมคคาเดเมียและคาราเมล (250 บาท) และ ครัวซองต์สี่เหลี่ยมสอดไส้ยูซุครีมชีส (220 บาท) เป็นเมนูที่เราชวนชิม
ล่าสุดมี ครัวซองต์ไบท์ คำเล็กๆ หลากรสชาติ จัดเสิร์ฟเป็นชุดให้ได้ลิ้มรสชาติที่หลากหลาย
ชุดน้ำชาที่มาพร้อมกับเครื่องเคียงในถ้วยน้อยๆ สำหรับกินแกล้มกับน้ำชาจะช่วยเสริมรสชาติให้ดียิ่งขึ้น
มาถึงเมนูชากันบ้าง คุณฟูบอกว่าที่นี่เสิร์ฟชาฝรั่งมีให้เลือกหลายกลิ่น หลายรส ไม่ว่าจะเป็น
- Spring Blended – ชาดำผสมชาเขียวที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นกุหลาบ
- Golden Earl Grey – ชาดำคัดเฉพาะยอดอ่อนนำมาเบลนด์กับกลิ่นมะกรูดและน้ำผึ้ง
- Berry Black Tea - ชาดำกลิ่นเบอร์รี่สุก เครื่องเทศ และคาราเมล
- Fragrant Rose Tea – ชาดำกลิ่นหอมหวานของกุหลาบและคาราเมล
- Aromatic Creme Brulee Tea - ชาเขียวผสมกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ และผลไม้สีแดงตระกูลเบอร์รี่ (กาละ 220 บาท)
ผัดไทยทีรูม จัดวางบนผ้ารองจานตัดเย็บจากผ้าทอจากสกลนคร
ส่วนใครที่อยากกินอาหารจานหลัก ล่าสุด 'ศรีย่านทีรูม' ออกเมนูอาหารจานเดียวชวนรับประทาน ได้แก่ ผัดไทยกุ้งสดทีรูม (190 บาท) ข้าวญี่ปุ่นคลุกกะปิ (190 บาท) ให้อิ่มท้องกันด้วย
ระหว่างรออาหารเราสามารถเดินชมความงดงามของบ้าน โดยชั้นล่างจัดเป็นโชว์รูมของแบรนด์เสื้อผ้าสัปปายะ ที่มีทั้งกระเป๋าและเครื่องประดับมุกจากภูเก็ต ให้เลือกชมและช้อปตามอัธยาศัย
ชุดน้ำชาของนักสะสมที่จัดแสดงอยู่ชั้นบน บางชิ้นมีจำหน่ายให้ผู้ชื่นชอบ
เมื่อขึ้นบันไดไม้สักสวยงามไปบนชั้นสอง จะพบชานพักจัดแสดงถ้วยชาของนักสะสม ซึ่งถ้าใครถูกตาต้องใจมีบางส่วนที่จัดจำหน่ายด้วยเช่นกัน
ชั้นบนของบ้านนอกจากส่วนของออฟฟิศแล้ว ยังมีห้องสำหรับนั่งประทานอาหารอีก 2 ห้อง สามารถจัดเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาด 10-15 คนได้อย่างสบายๆและมีความเป็นส่วนตัว
ศรีย่านทีรูม บริเวณรอบตัวบ้าน
แต่ถ้าอยากจะเดินชมตัวบ้านโดยรอบ เราจะได้เห็นเรือนบริวารที่อยู่ใกล้ๆ อีกสองหลัง แม้จะมีขนาดที่เล็กกว่า แต่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่น่าชม มีการออกแบบที่เชื่อมโยงกับอาคารหลัก หลังหนึ่งมีผู้เช่าพักอาศัย ส่วนอีกหลังเล็กสุดใช้เป็นครัวของศรีย่านทีรูม
ได้รื่นรมย์ชมบรรยากาศวันวานที่ย้อนไปไกลถึงร้อยปี ได้จิบชาแกล้มครัวซองต์คาวและหวาน ได้เห็นงานออกแบบเสื้อผ้าที่เกิดจากความร่วมมือของคนญี่ปุนและคนไทย
นับเป็นความอิ่มเอมใจที่ได้มาเยือน 'ศรีย่านทีรูม' อีกครั้ง
ศรีย่านทีรูม
- สถานที่ตั้ง : 43 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.
- เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น. มีที่จอดรถสบาย
- โทร. 06 4956 5052 เฟซบุ๊ก Sriyan Tearoom & Sappaya