ฟู้ดฟอร์กู๊ด จับมือ ‘เชฟฟาง’ จัดดินเนอร์ฟีลกู๊ดที่ ‘รายาเฮอริเทจ’ เชียงใหม่
ฟีลกู๊ดไปกับมื้อค่ำการกุศลครั้งแรกของโครงการ ’ฟู้ดฟอร์กู๊ด’ ที่เชิญ ‘เชฟฟาง’ ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช มาร่วมสร้างสรรค์เมนูอาหารเหนือในสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง ที่ห้องอาหารคุข้าว โรงแรมรายาเฮอริเทจ ‘เชียงใหม่’ รายได้ 100% นำไปขจัดปัญหาเด็กทุพโภชนาการอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ยังประทับใจกับการจับคู่อาหารกับจานสวยใน Craft & Cuisine ที่ทางรายาเฮอริเทจชวน ชิ-จิรวงศ์ วงษ์ตระหง่าน เจ้าของ อินเคลย์ สตูดิโอ (InClay Studio) มาออกแบบภาชนะดินเผาให้เข้ากับเมนูอาหารของ เชฟสมยศ ปกป้อง เมื่อปีที่แล้วได้อย่างไม่ลืมเลือน
ได้กลับมาเยือน รายาเฮอริเทจ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวในเดือนตุลาคมนี้ มีความอิ่มใจเพิ่มเติมเข้าไปอีก เมื่อโครงการฟู้ดฟอร์กู๊ด (FOOD FOR GOOD) โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ ชวน ‘เชฟฟาง’ ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช มารังสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ในงานดินเนอร์การกุศล เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กไทยอย่างยั่งยืน
หลายคนคงสงสัยว่าการแก้ปัญหาทุพโภชนาในเด็กซึ่งสถิติจากกรมอนามัยระบุว่า 1 ใน 10 ของเด็กปฐมวัยไทยมีภาวะเตี้ยหรืออ้วนอย่างยั่งยืนได้อย่างไร
คุณทิพย์ชยา พงศธร ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการฟู้ดฟอร์กู๊ด
คุณ ทิพย์ชยา พงศธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการฟู้ดฟอร์กู๊ด กล่าวว่าการให้ทุนเพื่อจัดซื้ออาหารเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟู๊ดฟอร์กู๊ดจึงทำหน้าที่เป็นกลไกการช่วยเหลืออย่างยั่งยืน
ด้วยการเสริมความรู้ด้านโภชนาการให้กับครูให้สามารถจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนได้อย่างถูกต้อง โดยนำนักโภชนาการ เชฟ เข้าไปจัดอบรมให้กับครูในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ สนับสนุนการปลูกผักปลอดภัยเพื่อนำมาปรุงอาหาร เช่น โรงเพาะเห็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ตลอดจนติดตามภาวะโภชนาการเด็กอย่างใกล้ชิด
บรรยากาศภายในห้องอาหารคุข้าว โรงแรมรายาเฮอริเทจ สถานที่จัดงาน
(จากซ้าย)ประภาพรรณ บรรลุศิลป์, สุพิชชา ปันศิริ,ณภัทร นุตสติ,ทิพย์ชยา พงศธร,เชฟฟาง ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช และ เชฟสมยศ ปกป้อง
คุณครูสุพิชชา ปันศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่วาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับเชิญให้มาร่วมเป็นแขกพิเศษในงานนี้ ได้เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทางฟู้ดฟอร์กู๊ดได้เข้าไปช่วยอบรมแนะนำการจัดการอาหารให้ครบคุณค่าทางโภชนาการทุกมื้อว่า เด็กนักเรียนมีความตื่นเต้นและรอคอยว่าจะได้พบกับเมนูอาหารอะไรในแต่ละมื้อ
“โรงเรียนของเรามีครู 5 คน นักเรียน 28 คน ส่วนมากเป็นชนเผ่าที่บ้านอยู่ไกลจากโรงเรียน บางคนครูต้องขับรถไปรับถึงออมก๋อย เด็กส่วนใหญ่จึงพักอยู่ที่โรงเรียนจะได้กลับบ้านปีละครั้ง ครูจะไปรับและไปส่ง อยู่กันเหมือนครอบครัวค่ะ
นอกจากสอนหนังสือแล้ว ครูก็ช่วยกันทำอาหารด้วยเมื่อก่อนทำอาหารพื้นบ้าน มีสารอาหารครบ 5 หมู่บ้าง ไม่ครบบ้าง พอได้รับความรู้จากนักโภชนาการและเชฟที่เข้ามาช่วย ตอนนี้เด็กๆมีความสุขมากขึ้นและอยากมาเรียนหนังสือทุกวันค่ะ”
คุณ ทิพย์ชยา พงศธร กล่าวเสริมถึงความตั้งใจในการจัดงานครั้งนี้ว่า “ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กอาจไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วนของประเทศแต่เป็นปัญหาที่ซ่อนเร้นอยู่ในสังคมทำให้คุณภาพของเด็กที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร การที่ได้ทำงานร่วมกับเชฟที่มีชื่อเสียงอย่างเชฟฟาง เราเชื่อว่าจะช่วยเป็นกระบอกเสียงในการสื่อสารให้ได้รับรู้ถึงปัญหานี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น”
‘เชฟฟาง’ ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช
คราวนี้มาคุยกับ ‘เชฟฟาง’ ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช กันบ้างว่าจะนำวัตถุดิบพื้นบ้านของเชียงใหม่มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารตามสไตล์ถนัดกันอย่างไร
“ผมทำเมนูร่วมกับ เชฟสมยศ ปกป้อง ของรายาเฮอริเทจ คุยกันว่าจะใช้วัตถุดิบพื้นเมืองให้มากที่สุด เป็นเมนูที่ทุกคนรู้จักกันแล้วแต่เราอยากใส่มิติมันทางอาหารเพิ่มเข้าไปอีก ผมเรียนมาทางด้านอาหารฝรั่งเศส ก็จะใช้วิธีการทำอาหารแบบฝรั่งเศสมาใช้ในการทำอาหารไทย”
ทอดมันข้าวโพด อาหารเรียกน้ำย่อยเสิร์ฟมาในถาดหลุมขนาดจิ๋ว
ดังนั้นอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกจึงเสิร์ฟมาในถาดหลุมขนาดจิ๋วแบ่งออกเป็น 3 ช่อง ประกอบไปด้วย ทอดมันข้าวโพด น้ำจิ้ม และแตงกวาขูดเป็นเส้น เป็นเมนูคำน้อยที่คุณครูเห็นปุ๊บบอกได้ไอเดียนำไปต่อยอดให้เด็กๆได้ชิมกันได้ไม่ยากเพราะบนดอยมีข้าวโพดอยู่แล้ว
สลัดเห็ดถั่ว หรือ Grilled Season Mushroom Salad
จานต่อไปเป็น สลัดเห็ดถั่ว หรือ Grilled Season Mushroom Salad จานนี้เชฟฟางเลือกใช้เห็ดถั่วที่มีเฉพาะในฤดูกาลนี้นำมาย่าง เสิร์ฟคู่กับไข่ออนเซ็น เพิ่มความเผ็ดด้วยน้ำมันพริกกระเหรี่ยง
ตามด้วย ลาบคั่วปลาบู่ (Green Onion & Ginger Sand Goby Larb Kua) ในรูปแบบที่ลืมได้เลยว่าลาบคั่วที่คุ้นชินหน้าตาเป็นเช่นไร เพราะเชฟฟางนำเนื้อปลาบู่ไปปรุงสุกด้วยการกงฟีในน้ำมันและสมุนไพร (Confit – การนำเนื้อสัตว์ไปตุ๋นในน้ำมันด้วยความร้อนต่ำ) แล้วมาทำเป็นลาบวางบนชิ้นแคบหมูที่ดูแล้วดูอีกก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า จนได้คำตอบจากเชฟว่าเป็นวิธีการทำแบบเม็กซิกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูแปลกตาไปมาก
ซุปอ่อม (Consomme Omm)
มาถึง ซุปอ่อม (Consomme Omm) เมนูนี้น่าสนใจใครจะเชื่อว่าซุปใสๆที่มีเนื้อไก่กงฟีเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะได้รสชาติของแกงอ่อม เชฟฟางทำให้เราสนุกไปกับการเดินทางของรสชาติได้อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว
กุ้งแม่น้ำรีซ็อตโต้ (River Prawn Risotto)
จากอ่อมก็มาถึงน้ำพริกหนุ่มในเมนู กุ้งแม่น้ำรีซ็อตโต้ (River Prawn Risotto) กุ้งแม่น้ำย่างกำลังดีมันกุ้งสีส้มสวยชวนรับประทาน เสิร์ฟมาคู่กับข้าวหุงสไตล์อิตาเลี่ยนและน้ำพริกหนุ่ม รสชาติทุกอย่างเกื้อหนุนกันเป็นอย่างดี
ฮังเล
อาหารจานหลักจานสุดท้าย คือ ฮังเล (Braised Beef Cheek Hungley หรือ Lamb Shank Hungley) เลือกได้ว่าจะกินเนื้อแก้มวัวหรือว่าจะเป็นแกะ ราดด้วยซอสฮังเลที่ปรุงในแบบบราวน์ซอส เป็นอีกจานที่หลายคนร้องว้าว
Choco’ Tam
ปิดคอร์สด้วยของหวาน Choco’ Tam ที่นำรสเปรี้ยวของคาราเมลมะขามมาตัดกับความเข้มข้นของช็อกโกแลตได้อย่างสวยงาม
แม้ว่าดินเนอร์การกุศลครั้งนี้จะจัดขึ้นเพียงวันเดียวในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา หาก "การให้ไม่จบแค่มื้ออาหาร" เราทุกคนสามารถติดตามและให้กำลังใจการทำงานของโครงการฟู้ดฟอร์กู๊ดได้ทาง www.foodforgood.or.th และ www.facebook.com/foodforgoodth
นับเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่น่าประทับใจในการมาเยือนรายาเฮอริเทจ เชียงใหม่อีกครั้ง
(ภาพ : Food For Good)