‘สุชาติ ชวางกูร’ ความสุขของชีวิต คือ ‘คิดแล้วทำเลย’
มุมมองการใช้ชีวิตของนักร้องดัง 'สุชาติ ชวางกูร' ที่ตกผลึกแล้วจากความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เข้ามา จนมองเห็นว่า ทำอย่างไร ชีวิตของตัวเองถึงจะมีความสุข
แฟนคลับรุ่นเก๋า คงจำ สุชาติ ชวางกูร นักร้อง นักแสดงคนนี้ได้ เขามีผลงานเพลงยอดนิยมมากมาย ได้แก่ สายธาร, ฝันรัก, ไกลรัก, ด้วยรัก, ใจรัก, ภวังค์รัก, ดั่งเม็ดทราย, ดวงฤดี
รวมถึงผลงานการแสดงละคร(ช่อง 5) สกุลกา (2526) และภาพยนตร์ ขอแค่คิดถึง (2527) ดั่งเม็ดทราย (2528) ยิ้มม์ (2529) พิศวาส (2530)
สุชาติ เคยเป็นอาจารย์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC), อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน
ปัจจุบัน เป็นนักร้องและเป็นนักจัดรายการวิทยุ รวมถึงชอบทำงานหลาย ๆ อย่าง มีความสุขกับการใช้ชีวิตชิล ๆ
"เราเป็นคนเรื่อย ๆ ชิล ๆ ชีวิตตอนนี้ไม่ต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ เวลาจะทำอะไร ถูกใจก็ทำ ไม่ถูกใจก็ไม่ทำ ไม่ได้เป็นคนสะสมอะไร เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ไม่ได้มีความหื่นกระหายอยากสะสมหรือต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ บางทีของที่ดูสวยงามดีเด่น แต่พอมาอยู่กับเราแล้วอาจจะดูไม่ดีก็ได้
บางคนไม่ได้สนใจว่าเหมาะกับตัวเขาหรือเปล่า หลงไปกับภาพลักษณ์ แบรนด์เนม การโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
ที่มีคนบอกว่า มีแล้วจะเป็นคนพิเศษเลอเลิศ ซึ่งในความเป็นจริง มันไม่ใช่ เราจะเป็นยังไงมันอยู่ที่ตัวเรา"
ในวัยเด็ก สุชาติ เล่าว่า อยากเป็นทหาร แต่ไม่ได้เป็น
"ตอนเด็ก ๆ ช่วงที่เรียนอนุบาล ประถม 1-2 เป็นช่วงสงครามเวียดนาม ทีวีจะมีรายการเฉพาะตอนเย็น ไม่ได้มีทั้งวันเหมือนสมัยนี้
ก่อนเปิดรายการจะมีข่าวกองพันจงอาง กองพลเสือดำไปปฏิบัติหน้าที่ที่นั่นที่นี่ แล้วเราก็ได้เห็นทหารฝรั่ง GI ใส่เครื่องแบบ มันเท่ ก็อยากเป็นทหาร
แต่พอโตขึ้น ความคิดเปลี่ยน การเป็นทหารมันลำบาก สงครามมันฆ่าคน โดนฝังหัวให้กลัวเรื่องเกณฑ์ทหาร พอเรียนมัธยมเราก็เรียนวิชา ร.ด. (รักษาดินแดน) เพราะไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์
กองทัพต้องแก้ไขปัญหานี้ ให้คนไม่คิดลบ เข้าใจวัตถุประสงค์ของการฝึกว่า ให้เรามีความอดทน ร่างกายแข็งแรง มีระเบียบวินัย
จะทำอะไรก็จะไม่รู้สึกว่าลำบาก รู้จักดูแลร่างกายให้สุขภาพแข็งแรง ถ้าตอนนั้นเรามีความคิดในเชิงบวก เราอาจจะเตรียมตัวไปสอบรร.เตรียมทหารก็ได้"
ส่วนจุดหักเห ที่ทำให้สุชาติก้าวเข้ามาสู่เส้นทางบันเทิง มาจากความสนใจส่งจดหมายไปสมัครชมรมเยาวชนอาสา
"เราเห็นโฆษณาในหนังสือพิมพ์ สำนักงานส่งเสริมเยาวชนแห่งชาติ จะทำชมรมเยาวชนอาสา ทำสันทนาการ ให้มาเรียนรู้เข้าใจเรื่องยาเสพติดและภัยต่างๆ
ส่งเสริมให้เล่นกีฬา ร้องเพลง เราก็เกิดแรงบันดาลใจ สมัครไป ก็ได้มาร้องเพลง ครั้งแรกพ.ศ.2519 จากนั้นก็เป็นนักร้อง นักแสดง แล้วก็ไปเรียนเมืองนอก"
ด้วยความเป็นคนใฝ่รู้ ชอบอ่านหนังสือ ทำให้เรียนจบปริญญาโทมาถึง 3 สาขา นอกจาก ปริญญาตรีสาขาศิลปศาสตรบัณฑิต บริหารรัฐกิจ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (2530) แล้วก็มี
ปริญญาโท Management (MIM) University of Denver, MS-Finance University of Colorado และ MS-Economics State University of New York
กับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน สุชาติ มองว่า หลายคนมักรอให้พร้อมก่อน หรือคิดว่าตัวเองทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว
"ทุกคนต่างมีศักยภาพ เรื่องใดที่ทำเองได้ ทำไปเลย อยากทำอะไรก็รีบทำ อย่ามัวแต่รอ บางคนอยากไปที่นั่นที่นี่ ก็ต้องรอคนนั้นคนนี้ อยากทำไอ้นี่ ต้องรอคนนี้คนนั้น ไม่ต้องรอ ทำเลย
อยากไปเที่ยวที่ไหน ก็ไป ไม่ต้องรอให้เพื่อนว่าง ไม่ต้องรอให้ลูกหลานพาไป ไปเองได้ ไปเลย แต่ประมาณตัวเองไว้นิดหนึ่งว่า เราทำได้แค่ไหน อยากทำอะไร อย่ารอช้า เพราะว่าอายุเยอะกันแล้ว ไม่รู้เลยว่า พรุ่งนี้กับชาติหน้าอะไรจะมาถึงก่อนกัน"
ส่วนเรื่องการคบหาสมาคมเพื่อนฝูง สุชาติมองว่า เพื่อนคนไหนไม่ดี ลับหลังนินทาว่าร้าย ทำเราเสื่อมเสีย ก็ไม่ต้องเสียดายคนแบบนั้น
"แม้จะคบกันมาตั้งนานหลายสิบปี ถ้าไม่ดี ให้เดินออกมาเลย มีแต่เพื่อนที่คบกันคุยกันแล้วมีความสบายใจดีกว่า อาจไม่ได้ไปมาหาสู่กันทุกวัน แต่มีความคิดถึง มีความคิดที่ดีต่อกัน ทุกครั้งที่เจอคือความสุข คือกำไร เท่านั้นก็พอแล้ว"
สำหรับแฟนคลับ ถ้าคิดถึงต้น-สุชาติ ก็ให้ฟังวิทยุที่จัดอยู่สองรายการ คือ Beautiful Music FM 102.5 เวลา 20:00 น. และ Good Morning ASEAN FM 100.5 เวลา 06:00-07:30 น. หรือเปิดเพลงที่เขาร้องไว้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เขาว่าอย่างนั้น
"ถ้าอยากฟังเพลงสด ๆ ก็จ้างเรามา แพงหน่อยแต่ว่าคุ้ม ในเรื่องของความสุข มันประเมินกันไม่ได้ อย่างบางคนซื้อกระเป๋าใบละล้านกับย่ามหนึ่งใบ ก็ใส่ของได้เหมือนกัน
อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ก็อายุเยอะขึ้น ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี พวกน้ำตาลหรืออะไรที่ชอบกิน แต่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก็ให้พอได้แล้ว บอกตัวเองว่า กินมาเยอะแล้ว ไม่อย่างนั้นสุขภาพเราจะไม่ดี หรือไม่ก็ต้องนอนทรมาน ไม่มีความสุขในชีวิต"