'ก็อต จิรายุ' รู้จักตัวเอง จัดการชีวิตได้
เคล็ดลับที่ทำให้ 'รู้จักตัวเอง จัดการชีวิตได้' ของ 'ก็อต จิรายุ' มาจากประสบการณ์ชีวิต ผ่านการเรียนรู้ นำมาเสนอเป็นทางออกให้กับคนที่มีความทุกข์
"รู้จักตัวเอง จัดการชีวิตได้" เป็นสิ่งที่ ก็อต จิรายุ ตันตระกูล ต้องการจะบอกแก่ผู้ที่สนใจการจัดการความคิดและจิตใจของตัวเอง
ในเวทีเสวนา รักตัวเองให้เป็น แล้วเราจะมีความสุขขึ้น ในงานมหกรรมพบเพื่อนใจ Soul Connect Fest 2023 เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ก็อต กล่าวว่า
"คนเราเมื่อไม่ได้ดังใจ ก็จะมีความทุกข์ แต่เมื่อเหตุปัจจัยกลับไป ความสุขก็กลับมา นี่คือความปกติของจิตใจ วันหนึ่งมันจะขึ้น ๆ ลง ๆ แต่จะเห็นอย่างนั้นได้ต้องเฝ้าสังเกตดูบ่อย ๆ
พอเราสังเกตตัวเองเห็นบ่อย ๆ เราจะเชื่อมโยงกับคนอื่นได้โดยอัตโนมัติ เพราะเราเข้าใจธรรมชาติของตัวเอง ทำให้เข้าใจธรรมชาติของผู้อื่นด้วย
Cr. Kanok Shokjaratkul
แค่ต่างเรื่อง ต่างมุม ต่างวาระ มีเหตุปัจจัย ทำให้สุขและทุกข์ เหมือนเรา นี่คือการ Connect กันในเบื้องต้นเมื่อ Connect แล้ว มนุษย์จะเริ่มเปลี่ยนแปลงภายใน
เช่น มีคน ๆ หนึ่ง ทอดทิ้งตัวเองมานาน ไปใส่ใจเรื่องข้างนอก จนวันหนึ่งเขาเริ่มใส่ใจความนึกคิดของตัวเอง เอ๊ะ ความคิดนี้มันทำให้ฉันเป็นทุกข์นะ
ในขณะเดียวกัน มีคนเจอสถานการณ์เหมือนกัน แต่เขาไม่ทุกข์ขนาดฉัน แสดงว่าฉันกำลังครอบครองความคิดบางอย่างไว้ กดดันตัวเองอยู่
ซึ่งการสังเกตตัวเอง ต้องทำอยู่ตลอด เขาเริ่มมองหาความคิดของตัวเอง เอ๊ะ ที่ฉันทุกข์เพราะความนึกคิดนี่นา แล้วความคิดนั้นมาตอนไหน ใครเป็นคนใส่หัวเรามา หรือไม่ต้องหาก็ได้ วางมันเลย"
Cr. Kanok Shokjaratkul
ก็อต เล่าว่า เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว เขามีความทุกข์มาก ทำให้เริ่ม Connect กับตัวเอง
"ผมเป็นคนมีเป้าหมาย มี Passion และมีความสุขมากระหว่างที่สานฝันตัวเอง มีความคาดหวังว่าหลังจากได้ ชื่อเสียง เงินทอง ตำแหน่ง แล้วจะทำให้มีความสุข
แต่ปรากฏว่า ไม่มี จิตใจยังทุกข์อยู่ เพราะเราฝึกตัวเองให้คุ้นชินกับความคาดหวังความสุขในอนาคต ผมไม่เคยถูกสอนว่า ความสุขคือการอยู่กับปัจจุบันขณะ
ตอนอายุ 29 เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมอ่านหนังสือหลายศาสตร์เยอะมาก มีความมั่นใจมาก คิดว่าเรารู้ จนกระทั่งไปฝึกสมาธิเกิน 50 ชั่วโมงขึ้นไปทุกวัน ก็พบว่า เราไม่รู้อะไรเลย
เพราะความรู้ของคนอื่น ไม่ใช่ความรู้ของเรา เช่น ผมเคยได้ยินมาว่าการให้อภัยคือความสุข ผมก็ให้อภัยคนที่ผมไม่ชอบ แล้วพบว่า มันยิ่งทุกข์
ผมเลยฝึกให้อภัยบ่อย ๆ จนเข้าใจว่า การให้อภัย ไม่ใช่การให้เขา แต่คือการปล่อยให้ตัวเองวางบางสิ่งลง แล้วเปิดหัวใจมองในมุมใหม่"
Cr. Kanok Shokjaratkul
การรู้จักตัวเองหรือ Connect ต้องทำสมาธิอย่างเดียวหรือไม่ ก็อตตอบว่า ให้วางคำว่า ทำสมาธิไว้ก่อน
"เปลี่ยนศัพท์ใหม่เป็น การเฝ้าสังเกต ในช่วงเริ่มต้นเราเฝ้าสังเกตลมหายใจ เข้า-ออก ในช่วงต่อมาเราเริ่มสังเกตความคิดที่แทรกเข้ามาระหว่างที่จดจ่อลมหายใจ
ในช่วงต่อมาเราเฝ้าสังเกตว่าเราใช้เวลานานแค่ไหนในการดึงตัวเองกลับมา ไม่คิดฟุ้งซ่าน กลับมาที่ลมหายใจ การเฝ้าสังเกตมันจะสืบเนื่องขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ตรงไหนก็ทำได้
ในช่วงแรก เราต้องบังคับ เหมือนการเข็นรถในช่วงเริ่มต้น แรก ๆ มันจะหนืด เพราะเรามีนิสัยเก่าที่มีความขี้เกียจ
เหมือนคนมีอุปกรณ์ แต่ไม่รู้ว่าเปิดสวิทช์ยังไง ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ พอเราไม่รู้จักตัวเอง ก็พัฒนาตัวเองไม่ได้
คนเราทำอะไรแล้วมีความสุข เราก็จะทำต่อเนื่อง เหมือนคนที่ทำสมาธิหรืออ่านหนังสือ เราจึงต้องหาว่าคำว่า ดี สำหรับเราคืออะไร แล้วมันดีต่อร่างกายไหม มันดีต่อจิตใจไหม"
Cr. Kanok Shokjaratkul
ก็อต บอกว่า อยากจะแชร์สิ่งที่ตัวเองทำแล้วดี ให้ทุกคนได้ไปทำตาม
"ทุกวันก่อนนอนผมจะจดบันทึกว่า พรุ่งนี้จะตื่นกี่โมง แล้วจะทำอะไร พอเขียนเสร็จปุ๊บ ก็พูดออกคำสั่งออกมาดัง ๆ
การออกคำสั่ง คือการนำจิตใจให้ตัวเองทำตาม นี่คือสิ่งที่พวกเราไม่รู้ เป็นวิธีสั่งตัวเองแบบโดยตรง (Directly)
ในช่วงเช้า ผมจะศึกษาความรู้เกี่ยวกับงานที่ผมรับผิดชอบอยู่ ความรู้ทำให้เรามีแรงบันดาลใจ มีมุมมองมากขึ้น 1 ชั่วโมงทุกวัน 365 วัน
เราไม่ต้องทำ 365 วันก็ได้ แค่ 100 วันใน 1 ปี ก็เท่ากับว่าเราใช้ชีวิตได้คุ้มมากแล้ว
ชีวิตมันสั้น ผมเห็นคนใกล้ตัวตายมาเยอะ ชีวิตมีค่ามากกว่าที่จะหายใจทิ้งไปวัน ๆ กับเรื่องไร้สาระ
ผมมีเวลางานค่อนข้างชัดเจน หลังจากนั้นชีวิตเป็นของผม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร
บางคนบอกว่าไม่มีเวลา ก็ต้องถามว่าคุณให้ค่าเวลากับเรื่องอะไร มีคนถามว่าออกกำลังกายนานเท่าไรถึงจะดี ผมถามกลับ คุณจะให้เวลามันเท่าไร ใน 1 วัน ใน 1เดือน ใน 1ปี
ผมเป็นคนที่จดบันทึกตลอด เพราะผมไม่สามารถระบายเรื่องบางเรื่องกับใครได้"
Cr. Kanok Shokjaratkul
สำหรับคนที่มีปัญหาหรือมีเรื่องลบ ๆ เกิดขึ้นในชีวิต ก็อตแนะนำว่า
"ปัญหาขึ้นอยู่กับมุมมอง บางคนแก้ปัญหาด้วยการไปหาสิ่งเสพติด บางคนไปปรึกษาใครบางคน แล้วยิ่งแย่หนักไปกว่าเดิมอีก ถ้าไปปรึกษาคนไม่รู้เรื่อง
ปัญหาหรือเรื่องลบเกิดขึ้นกับเราเพียงวูบเดียว แต่เราเอาเรื่องนั้นมากระทบจิตใจเราเป็นพัน ๆ ครั้ง เพราะเราวางไม่เป็น เหมือนถือกระดาษคาไว้ แล้วไปทำสิ่งอื่นต่อ โดยที่สิ่งนี้ไม่ได้รับการแก้ไข
เราวางไม่ได้เพราะเราฝึกน้อย แต่พอเราเฝ้าสังเกตตัวเองบ่อย ๆ มันจะเหมือนเห็นของร้อนที่ต้องรีบปล่อย เราจะไม่ถือไว้
เหมือนฤดูฝน ฝนก็ต้องตกตลอด หน้าที่เราคือหาร่ม ไม่ใช่ด่า ฟ้า ฝน เราไม่สามารถทำให้ทุกพื้นที่ราบเรียบเสมอกันหมดได้ แต่เราหารองเท้ามาใส่ได้ การวางคือการปกป้องตัวเองที่ดีที่สุด
การทำสมาธิเป็นอาหารของสมอง เฝ้าสังเกตตัวเองเพื่อให้เห็นธรรมชาติของจิตใจว่ามันมีความฟุ้ง มีจุดจดจ่อ แปรปรวนไปตามความนึกคิด ทันทีที่เราเริ่มคิด ลมหายใจเราจะเปลี่ยน
มีเทคนิคอย่างหนึ่ง คือ การผ่อนคลายแบบเฉียบพลัน ผ่อนในสิ่งที่ตึง ทางด้านความคิด ทางด้านจิตใจ ปล่อยมันสักแป๊บหนึ่ง
ด้วยการหายใจเข้าลึก หายใจออกยาว หายใจตามธรรมชาติ ผ่อนคลายทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า สัก 2 นาทีก่อนเราอ่านหนังสือ ก่อนเราจะคุยกับคนตรงหน้า ก่อนเราจะขับรถ ก่อนจะทำอะไร ตั้งสติก่อน"
Cr. Kanok Shokjaratkul
การทำตัวเองให้ก้าวหน้า ก็อตบอกว่า ต้องมีแรงบันดาลใจในตัวเอง
"ไม่ว่าคนอื่นจะคิดลบกับเราอย่างไรก็ตาม ให้ตระหนักว่าความจริงของคนอื่นไม่ใช่ความจริงของเรา เพราะมีคนน้อยมากที่จะเข้าใจว่าเราเป็นยังไง
เราอย่าให้ความคิดเห็นของคนอื่นกลายมาเป็นความเป็นจริงของเรา เธอเป็นอย่างนั้นนะ ๆ ๆ
ให้เราอยู่นิ่ง ๆ เฝ้าดูความแปรปรวน เราจะมานั่งประสาทกับเมฆที่แปรปรวนตลอดเวลาอย่างนี้หรือ
เรื่องการบอกตัวเอง ต้องบอกหลาย ๆ แบบ บางครั้งต้องบอกด้วยเสียงที่แข็งขัน ดุดัน บางครั้งต้องอ่อนหวาน
เรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้นทุกวัน แล้วเราจะค่อย ๆ รู้เองว่า เราจะจัดการกับชีวิตเรายังไง
ตราบใดที่เราเพิกเฉยต่อการเรียนรู้ เราอย่าโอดครวญกับผลลัพธ์"