เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

ไม่พลิกโผ! The Room Next Door ของผู้กำกับ Pedro Almodóvar คว้ารางวัลสิงโตทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส ประจำปี 2024 ท่ามกลางความเห็นชอบแทบจะเป็นเอกฉันท์ เจาะลึกผลรางวัลอื่น ๆ จาก ‘กัลปพฤกษ์’ คอลัมนิสต์ประจำเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติของ ‘จุดประกาย’ ได้ที่นี่

หลังจากที่นักแสดงหญิงฝรั่งเศส Isabelle Huppert ประธานคณะกรรมการตัดสินรางวัลเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส ครั้งที่ 81 ประจำปี 2024 ร่วมกับคณะกรรมการฯ ได้แก่ James Gray, Andrew Haigh, Agnieszka Holland, Kleber Mendonça Filho, Abderrahmane Sissako, Giuseppe Tornatore, Julia von Heinz และ Zhang Ziyi ร่วมกันประกาศผลรางวัลต่าง ๆ สำหรับหนังสายประกวดหลัก Venezia 81 เมื่อค่ำคืนของวันที่ 7 กันยายน 2024 โผรางวัลที่ออกมา ก็นับว่าใกล้เคียงกันกับกลุ่มหนังที่บรรดาสื่อและผู้ชมได้กะเก็งกันไว้

รางวัลมีความกระจายและเรื่องที่ได้ก็มีแนวทางที่หลากหลายกันไป จึงนับเป็นปีที่ตรงใจและไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์เหนือความคาดหมายกันมากนัก โดยจะขอไล่วิเคราะห์ผลรางวัลต่าง ๆ ในสายประกวดหลักกันดังนี้

บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : I’m Still Here

เริ่มที่รางวัลแรก รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่บทภาพยนตร์เรื่อง I’m Still Here เขียนโดย Murilo Hauser และ Heitor Lorega และกำกับโดย Walter Salles จากบราซิล

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

 

I’m Still Here เป็นหนัง biopic เล่าเรื่องราวฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นจริงกับ Eunice Paiva ภรรยาของ Rubens Paiva วิศวกรและอดีตสมาชิกสภาของบราซิลในรัฐบาลเผด็จการทหาร ผู้ถูกทางการจับกุมตัวไปไต่สวนกรณีพัวพันกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมื่อต้นปี ค.ศ. 1971 ในเรือนจำอย่างเลือดเย็น ก่อนจะกลายเป็น ‘บุคคลสูญหาย’ ด้วยปริศนาที่ไม่มีวันคลี่คลาย ภายใต้เงื้อมมือของฝ่ายที่ได้ชื่อว่า ‘รัฐบาล’ ทิ้งให้ Eunice ต้องกลายเป็นมารดาเลี้ยงเดี่ยวดูแลบุตรธิดารวมห้าคนโดยลำพัง เบนเข็มให้เธอตั้งใจศึกษาตัวบทกฎหมายเพื่อเป็นทนาย และกลายเป็นนักกิจกรรมผู้ทวงความชอบธรรมคืนสู่ครอบครัวไร้บิดาของเธอ!

หนังค่อย ๆ นำเสนอภาพชีวิตอันแหลกสลายของครอบครัวนี้ ตั้งแต่ปี 1970 ที่ทุกคนยังพร้อมหน้า มาจนถึง ค.ศ. 2014 ที่เด็ก ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่และ Eunice จะได้ทบทวนเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดว่ามันเกิดอะไร สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ชมผ่านการแสดงอันนิ่งน้อยแต่แววตามีเป็นร้อยอารมณ์ของ Fernanda Montenegro (ดาราคู่บุญของ Walter Salles ตั้งแต่เรื่อง Central Station เมื่อปี 1998) ผู้รับบทเป็น Eunice จนหลายคนคิดว่าน่าจะต้องคว้าสักรางวัล กระทั่งได้รับการสรรเสริญยกย่องคว้าตุ๊กตาสิงโตปีกไปครองในสาขาบทยอดเยี่ยมในที่สุด

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม : นิโคล คิดแมน

รางวัลชุดต่อมาขอไปที่สาขาการแสดง ซึ่งเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิสก็ยังคงแบ่งรางวัลตามเพศสภาพของผู้แสดงตามขนบเป็นฝ่ายชายและฝ่ายหญิงกันอยู่ ในขณะที่หลายแห่งก็เริ่มปูทางให้กลุ่มนักแสดงที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้นด้วยการลบ gender ออกไปจากชื่อรางวัล

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

โดยเมื่อพิจารณากันที่ฝ่ายสตรี คณะกรรมการก็มีมติชี้ให้ Nicole Kidman จากเรื่อง Babygirl ของผู้กำกับ Halina Reijn เป็นผู้คว้ารางวัลไป ในบท Romy ซีอีโอสาววัยกลางคนผลงานเป็นที่ประจักษ์ในฐานะนักบริหารสตรีของบริษัทใหญ่ อยู่กินกับสามีและลูก ๆ อย่างมีความสุขไม่มีเรื่องต้องทุกข์ร้อนใด ๆ

กระทั่งถึงวันที่ Samuel (รับบทโดย Harris Dickinson) พนักงานฝึกงานหนุ่มหน้าใหม่เข้ามาทำงานในบริษัทฯ จน Romy ไม่อาจตัดกิเลสตัณหาราคะหาจังหวะ ‘แอบแซ่บ’ ในแบบ ‘พิสดาร’ กับบุรุษรุ่นลูกในที่ลับตาคนได้ สร้างความพิพักพิพ่วนปั่นป่วนใจว่าเธอจะ ‘เก็บอาการ’ ร่านไม่เป็นเวลานี้ได้ดีขนาดไหน เพราะถ้ามีใครมารู้มาเห็นแม้แต่หนึ่งราย ทุกอย่างที่เธอสร้างมาจักพังทลายหายสิ้นไปได้ภายในชั่วพริบตา!

Nicole Kidman รับบทเป็น Romy ด้วยลีลาตลกแบบ comedy of manners คันคะเยอได้อย่างน่ารักน่าชัง ทั้ง ๆ ที่เรื่องราวก็ออกจะ ‘เข้าตัว’ นักแสดงหญิงชื่อดังผู้มีอายุอานามเริ่มจะลายครามอย่างเธออยู่ไม่น้อย!

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม : วินเซนต์ ลินดอน

ในขณะที่รางวัลนักแสดงฝ่ายชายกลับปล่อยหมัดฮุคให้คนดูได้จุกอกกันด้วยอาการนิ่งเนิบทว่าอาบเอิบไปด้วยความรู้สึกปวดร้าว นั่นคือการแสดงของนักแสดงชายชาวฝรั่งเศสระดับตำนาน Vincent Lindon กับบท Pierre คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้ต้องคอยเคี่ยวเข็ญลูกชายวัยรุ่นทั้งสอง จากเรื่อง The Quiet Son ของผู้กำกับสองศรีพี่น้อง Delphine และ Muriel Coulin จากฝรั่งเศส

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

ซึ่งถึงแม้ว่าลูกชายคนเล็กสุดท้ายจะประสบความสำเร็จได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดังในกรุงปารีส คนโตกลับแอบปลีกตัวไปเข้าพวกกับฝ่ายขวา far-right extremist ประกาศความคิดด้วยการเลือกใช้ความรุนแรง Pierre จึงเหมือนโดนมีดแทงเข้าไปที่หัวใจเมื่อได้ล่วงรู้ว่าบุตรชายคนโตของเขาแอบไปทำอะไร และแม้ใบหน้าจะยังแน่วนิ่ง แต่สิ่งที่อยู่ภายในแววตามันบ่งบอกอารมณ์อันมหาศาลและลึกเสียยิ่งกว่าทุกย่านมหาสมุทรสุดก้นบึ้ง!

ผู้กำกับยอดเยี่ยม : Brady Corbet

มาถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ซึ่งปีนี้ก็ตกเป็นของ The Brutalist ของ Brady Corbet ผู้กำกับอเมริกัน ที่หันไปทำหนังสัญชาติอังกฤษ แต่เล่าเรื่องราวชีวิตของ László Tóth สถาปนิกชาวฮังการียิวในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1947 เป็นต้นมา กลายเป็นงานมหากาพย์สุดทะเยอทะยานฉายผ่านแผ่นฟิล์มเซลลูลอยด์ 70 มม. ความยาวเบ็ดเสร็จ 200 นาที มีช่วงพักครึ่งตั้งนาฬิกาถอยหลังห้า-สี่-สาม-สอง-หนึ่งอีก 15 นาที สิริรวมเป็น 3 ชั่วโมง 35 นาที ยาวที่สุดในสายประกวดเทศกาลเวนิสปีนี้

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

ลีลาที่น่าสนใจของ The Brutalist ก็คือการถ่ายทำหนังฟิล์ม 70 มม. ให้มีความร่วมสมัย เล่าเรื่องราวย้อนยุคไปยังช่วงที่ László Tóth และภรรยาอพยพมาอเมริกาใหม่ ๆ ไต่เต้าจนได้รับการว่าจ้างให้ออกแบบก่อสร้างสถาปัตยกรรมสำนัก Brutalism จากเศรษฐีใหญ่ในวิถีแบบ American Dream โดยให้ทีมตากล้องเคลื่อนกล้องแบบค่อย ๆ ล่องเลื่อนเหมือนอยู่บนรถเข็นตลอดเวลามากกว่าจะใช้กล้องนิ่ง ๆ ตรงมุมบนขวาก็จะมีสิ่งที่เรียกกันว่า cue mark บากไว้ชัด ๆ โต ๆ โบ๋ ๆ อวดโชว์ว่าฟิล์มใกล้จะหมดม้วน คนฉายควรเตรียมพร้อมอย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา

ส่วนลีลาของทั้งแสงและสีก็มีความฉูดฉาดดูร่วมสมัย ราวต้องการให้มันเป็นหนังฟิล์ม 70 มม. พันธุ์ใหม่อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ในขณะที่เรื่องราวของตัวละครก็ไม่ถึงกับเข้มข้นจนต้องเล่นใหญ่กันถึงขนาดนี้!

Special Jury Prize : ขวัญใจคณะกรรมการ

ส่วนรางวัลที่มอบให้กับหนังทั้งเรื่องก็จะมีอยู่สามระดับสามรางวัล เริ่มกันด้วยรางวัล Special Jury Prize หรือรางวัลขวัญใจคณะกรรมการ ซึ่งก็ตกเป็นของงานทดลองพันธุ์ดุจากจอร์เจียเรื่อง April ของผู้กำกับหญิง Dea Kulumbegashvili ที่แม้จะมีตัวละครอย่างคุณหมอสูตินรีแพทย์ Nina ผู้มีอาชีพเสริมเป็นหมอทำแท้งเถื่อนเป็นคนเดินเรื่องหลัก แต่หนังกลับไปจัดหนักกันด้วยลูกเล่นเชิงงานภาพและเสียงอันชวนให้สะเทือนขวัญอกสั่นหวั่นใจ อุดมไปด้วยภาพชวนอุจาดตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นฉากการคลอดลูกที่เปิดให้คนดูเห็นทุกอย่างจริง ๆ หรือการตั้งกล้องนิ่ง ๆ ระยะใกล้ให้คนดูได้เห็นกระบวนการทำแท้งกันอย่างยาวนาน

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

หนังมีอุดมการณ์เบื้องหลังของคุณหมอ Nina วางไว้เป็นปริศนาว่าเธอจะมาสุ่มเสี่ยงทำงานผิดกฎหมายนี้ไปเพื่ออะไร นับเป็นงานในแบบ ‘ดุดันไม่เกรงใจใคร’ จนสามารถชนะใจคณะกรรมการไปได้เป็นลำดับที่สาม

รางวัลสิงโตเงิน : Grand Jury Prize

ข้ามมาที่ตำแหน่งที่สองหรือรองอันดับหนึ่ง ซึ่งก็คือรางวัลสิงโตเงิน Grand Jury Prize ได้แก่งานสายมานุษยวิทยาจากอิตาลีเรื่อง Vermiglio ของผู้กำกับหญิง Maura Delpero งานที่น่าจะได้ชื่อว่าเป็น ‘คนภูเขา’ แห่งดินแดนรองเท้าบูทพูดจาสำเนียงท้องถิ่นเตรนโตทางตอนเหนือ

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

 

ย้อนเวลาไปเมื่อปี 1945 อันเป็นวาระสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ถ่ายทอดครรลองชีวิตในแต่ละฤดูกาลของครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในภูเขาหิมะขนาดสูงใหญ่ห่างไกลจากความเจริญทั้งหลายทั้งปวง ด้วยท่วงทำนองอันบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติปราศจากการขับเน้นเรื่องราวด้วยอารมณ์ดรามาใด ๆ

ติดตามชีวิตของสมาชิกรายนั้นรายโน้นรายนี้สลับกันไป ราวเป็นงานสารคดีที่ผู้สร้างได้แบกกล้องย้อนเวลาไปถ่ายทำมาให้ดูกันจริง ๆ กลายเป็นหนังที่ ‘บริสุทธิ์’ อย่างยวดยิ่ง มองตรงไหนก็ไม่มีสิ่งใดประดิษฐ์ปลอม!

รางวัลสิงโตทองคำ : Golden Lion

และก็มาถึงผลรางวัลที่ค่อนข้างจะเป็นที่ยอมรับกันแบบแทบจะเอกฉันท์ นั่นก็คือรางวัลใหญ่อย่างสิงโตทองคำ หรือ Golden Lion ประจำปีนี้ ซึ่งได้แก่หนังสตรีสวัสดีความตาย The Room Next Door โดยผู้กำกับ Pedro Almodóvar

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024 Credit : Marco BERTORELLO / AFP

 

The Room Next Door เป็นหนังยาวพูดภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเขา เล่าเรื่องราวโดยดัดแปลงมาจากนิยาย What Are You Going Through (2020) โดย Sigrid Nunez และได้นักแสดงหญิงเกรดเออย่าง Tilda Swinton และ Julianne Moore มาประชันบทบาทกัน

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

 

โดย Tilda Swinton รับบทบาทเป็น Martha อดีตบรรณาธิการข่าวสงครามผู้กำลังเผชิญโรคมะเร็งปากมดลูกระยะที่สามมีชีวิตที่เข้าใกล้ความตายเข้าไปทุกที ๆ ส่วน Julianne Moore ก็แสดงเป็น Ingrid นักเขียนสตรีแนวชีวประวัติกำมะลอ โดยทั้งคู่เคยร่วมงานเป็น บก. นิตยสารฉบับเดียวกันมานานมาแล้ว เมื่อต่างคนต่างแยกย้ายไปดำเนินชีวิตตามแนวของตน Ingrid ก็ได้ทราบข่าวจากคนสนิทว่า Martha กำลังป่วยหนัก Ingrid ตัดสินใจไปเยี่ยมเพื่อนรักถึงโรงพยาบาล นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Martha ไหว้วาน Ingrid ให้เป็นเพื่อนคอยพยาบาลเธอ ณ บ้านพักตากอากาศริมป่า สานต่อภารกิจแห่งชีวิตชิ้นสุดท้ายหลังประตูไม้สีแดงบานนั้นของ Martha!

 

เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024 เจาะลึกผลรางวัล ‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส’ ประจำปี 2024

 

แม้ผู้กำกับ Pedro Almodóvar จะยังคงลีลาสาดสีสว่างแสบตาให้กับทั้งอาคารและการตกแต่งภายในในห้องหับต่าง ๆ ไว้อย่างเหนียวแน่น แต่น้ำเสียงการเล่ากลับเปี่ยมไปด้วยความสุขุมและแม่นยำ ไม่ได้เน้นความสนุกขำแบบระยำตำบอนอย่างในหนังยุคต้น ๆ จากคนทำหนังที่ออกจะเอาแต่สนุกเฮฮาบ้าบอไม่ขอนำพาสาระ

Pedro Almodóvar ได้เติบโตมาเป็นปรมาจารย์ชั้นครู เป็นหนึ่งในสุดยอดผู้กำกับ นำเสนอปมปัญหาและภาวะภายในของตัวละครหญิงได้อย่างน่าประทับใจ จนอาจจะลุ่มลึกและละเมียดละไมกว่าผลงานของผู้กำกับหญิงบางคนเสียด้วยซ้ำ!